posttoday

600ดอกเตอร์โผล่รับสวัสดิการคนจน

26 สิงหาคม 2560

กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ครม.เห็นชอบแจกสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยภายใน 2 สัปดาห์

กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ครม.เห็นชอบแจกสวัสดิการผู้มีรายได้น้อยภายใน 2 สัปดาห์

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ได้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้มีรายได้น้อยที่จะแจกสวัสดิการจากรัฐ พบว่าในจำนวนที่มีการลงทะเบียน 14.2 ล้านคน มีผู้ถูกตัดสิทธิ 2.6 ล้านคน เพราะมีรายได้และทรัพย์สินเกิน 1 แสนบาท จึงเหลือผู้ผ่านเกณฑ์ 11.6 ล้านคน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบคุณสมบัติอย่างละเอียด พบว่ามีผู้จบปริญญาเอกมาลงทะเบียนถึง 600 คน และจบปริญญาโทลงทะเบียน 6,000 คน ซึ่งต้องไปดูว่าเหตุใดคนเรียนจบสูงเหล่านี้จึงมาลงทะเบียนรับสวัสดิการ ในจำนวนผู้มาลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยก่อนการสำรวจ 14 ล้านคน พบว่า เป็นผู้ไม่มีรายได้ 2.9 ล้านคน เป็นผู้มีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาท/ปี 7.3 ล้านคน และเป็นผู้มีรายได้เกิน 3 หมื่นบาท แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท/ปี 4 ล้านคน

นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า สำหรับการแจกสวัสดิการระยะ 2 คาดว่าจะได้ข้อสรุปและดำเนินการได้ต้นปีหน้า โดยจะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท/ปี ในรูปแบบเงินคืนภาษีคนจน หรือเนกาทีฟ อินคัม แท็กซ์ โดยกำลังพิจารณาว่าจะมีขั้นตอนปฏิบัติอย่างไรที่เหมาะสม

"เดิมให้กรมสรรพากรตรวจสอบให้ แต่เนื่องจากกรมสรรพากรมีภาระเยอะ จึงเปลี่ยนไปประสานกับธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเป็นผู้ตรวจสอบคุณสมบัติบัญชีครัวเรือนแทน" นายกฤษฎา ระบุ

ด้าน นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้คลังจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เห็นชอบการแจกสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย วงเงินกว่า 4 หมื่นล้านบาท จากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก โดยจะมีทั้งค่ารถเมล์ รถไฟ รถ บขส. ค่าก๊าซ ค่าซื้อสินค้าร้านธงฟ้า ซึ่งในวันที่ 21 ก.ย.นี้ จะเริ่มแจกบัตรสวัสดิการกับผู้ที่มีสิทธิผ่านคุณสมบัติ

สำหรับร้านค้าธงฟ้าได้มีการเพิ่มสินค้า เช่น เครื่องแบบนักเรียน และสินค้าเกษตร เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติม ส่วนรัฐวิสาหกิจที่จะรองรับบริการสวัสดิการทั้งหลายได้เตรียมติดตั้งเครื่องรับบัตรเตรียมพร้อมแล้ว โดย รถ ขสมก.อยู่ระหว่างทยอยติดตั้ง

ขณะที่มาตรการแจกเงินเพิ่มเติมให้กับผู้มีรายได้น้อยต่ำกว่า 3 หมื่นบาท/ปี ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากต้องรอการตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งว่ามีจำนวนเท่าไร และจำเป็นต้องใช้เงินในการดำเนินการมากน้อยขนาดไหน

รมว.คลัง กล่าวอีกว่า เงินกองทุนประชารัฐที่ได้รับจัดสรรงบประมาณอย่างเดียวไม่เพียงพอ จะต้องมีการขอรับบริจาคจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนสมทบเงินเข้ามาด้วย ซึ่งคลังอยู่ระหว่างการพิจารณาให้ผู้บริจาคสามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า ซึ่งจะเสนอให้ ครม.เห็นชอบในเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตาม สำหรับมาตรการภาษีท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากข้อเสนอของการ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คลังรับไม่ไหว และต้องการช่วยเหลือการท่องเที่ยวชุมชนจริงๆ แต่ติดปัญหาท้องถิ่นไม่สามารถออกใบเสร็จได้ จึงอยู่ระหว่างหาทางแก้ไข

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การแจกเงินสวัสดิการจากภาครัฐจะใช้เงินจากกองทุนทั้งหมด ก่อนหน้านี้ตั้งใจจะกันเงินกองทุนในระยะที่ 2 เรื่องการแจกเงินให้กับผู้มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท/ปี และของบประมาณเพิ่มเติมสำหรับการแจกสวัสดิการภาครัฐในรอบแรกที่จะเสนอ ครม.เร็วๆ นี้ แต่ทางสำนักงบประมาณไม่มีเงินที่จะจัดสรรให้ได้