พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ หาตัวตน เพื่ออยู่รอด

21 ตุลาคม 2560

ปัจจุบันเทคโนโลยีทางด้านการสื่อสารและไอทีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ

โดย โชคชัย สีนิลแท้

ปัจจุบันเทคโนโลยีทางด้านการสื่อสารและไอทีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ จึงทำให้คนรุ่นใหม่ต้องการที่จะเป็นผู้ประกอบการหรือเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าตนเองนั้นต้องการจะออกไปประกอบอาชีพอะไร เวลานี้มองแต่เพียงว่าจะไปประกอบธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์

พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัทในกลุ่มบ้านพรไพลิน สะท้อนประสบการณ์ให้ฟังว่า เด็กรุ่นใหม่ที่จบมาทุกวันนี้ต้องการประกอบอาชีพของตนเอง โดยการนำสินค้าไปขายผ่านช่องทางออนไลน์ เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่ต้องการทำงานเป็นลูกจ้างในบริษัท เห็นได้จากการที่ลูกน้องซึ่งเป็นเด็กที่เพิ่งจบการศึกษามาไม่นาน ทำงานได้เพียงสองเดือนครึ่งก็รีบลาออกไปและไม่ยอมรับเงินเดือนอีกครึ่งเดือนที่เหลือบอกว่าต้องการ ลาออกด่วนเพราะได้ทำงานใหม่

พร้อมกับให้เหตุผลว่าต้องการ ออกไปเป็นสตาร์ทอัพประกอบธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งๆ ที่ตนเอง ก็ยังไม่รู้ว่าจะออกไปประกอบอาชีพออนไลน์และขายอะไร เพราะเห็นว่าทำแล้วได้ผลตอบแทนสูง งานที่เหมือนจะสบายรับกับเศรษฐกิจยุค 4.0 ก็ต้องการออกไปทำบ้าง

วันนี้จึงเห็นเด็กรุ่นใหม่จะสตาร์ทอัพกันลูกเดียว ไม่รู้ว่ากุญแจชีวิตของ ตนเองคืออะไร แต่เมื่อพูดถึงธุรกิจในรูปแบบเดิมๆ เมื่อไปแล้วก็ไปเลยเหมือนกัน อย่างเช่น สื่อสิ่งพิมพ์ อย่างนิตยสารสกุลไทย ขวัญเรือน ดิฉัน ที่เรียกร้องให้อนุรักษ์ แต่ธุรกิจนั้นก็กลายเป็นของเก่าและต้องตายไป

ทุกอย่างเมื่อมีอะไรตายไป ก็จะต้องมีอะไรที่เกิดใหม่ขึ้นมา สิ่งที่เกิดใหม่นั้นเกิดขึ้นเยอะ แต่สิ่งที่ตายเวลาดังแล้วค่อยตาย เหมือนไดโนเสาร์ ไม่ปรับตัวก็ตายหมด เหมือนกับธุรกิจจะต้องมีของใหม่และของเก่า รูปแบบสินค้าแบบเดิมๆ คนไม่ใช้จะให้ทำอย่างไร

อย่างเช่นห้างสรรพสินค้าอนาคตอาจจะเริ่มเห็นคนเดินห้างน้อยลง จะมีให้เห็นว่าไปทำเล็บ ทำผม ไปธนาคาร แต่สินค้ารุ่นใหม่ที่มีแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์รุ่นใหม่ใช้เวลาไม่นานจะเห็นมีสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว ฉะนั้นรูปแบบธุรกิจก็เปลี่ยนไป ห้างก็ต้องปรับตัว แต่ที่ยังไม่ตกเลยคือ ตลาดนัดในช่วง 2-3 ปีนั้นยังดีอยู่ ถามว่าเสน่ห์ของตลาดนัดคือความคึกคัก คนเยอะ ที่สำคัญราคาถูก

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็เหมือนกัน อย่างการจัดมหกรรมบ้าน และคอนโดต้องมาจัดรวมกันเพื่อสร้างความคึกคักและมีส่วนลด ที่ให้เยอะหรือเรียกว่าได้ของถูก แต่ในอนาคตถ้าจะปรับตัวก็ต้องยกระดับสินค้าจากของธรรมดา ขึ้นไปเป็นสินค้าเพื่อโชว์ ต้องใช้รูปแบบหรือจัดให้สวยขึ้นดีขึ้น ที่ผ่านมามีแนวคิดที่จะพยายามอัพเกรดงานมหกรรมบ้านและคอนโดให้ดีขึ้น เหมือนกับสินค้าที่ลดราคา หรือมีการแยกเซ็กเมนต์ของสินค้า ให้เห็นชัดเจน ซึ่งการจะทำนั้นถือว่าเป็นเรื่องค่อนข้างใหญ่ เนื่องจากการจัดงานใหญ่จะต้องมีการเช่าพื้นที่ ทั้งศูนย์

แต่การที่จะจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโดที่เป็นเซ็กเมนต์พรีเมียม ขึ้นมา จะได้ผู้ประกอบการสินค้าในกลุ่มพรีเมียมที่มาร่วมออกงาน จากปกติสินค้าในเซ็กเมนต์นี้ ผู้ประกอบการ รายใหญ่หลายรายนั้นไม่ได้มาร่วมจัดงานเนื่องจากมองว่าเป็นงานโฮมเซล หรือการลดราคาขาย รูปแบบการ จัดงานจะต้องไปจัดงานตามโรงแรม ศูนย์การค้ากลางเมือง แต่ถ้าลอง เปลี่ยนมารวมตัวกันมีโครงการจำนวนมากก็จะได้บรรยากาศที่มีความคึกคัก

แม้ว่าแนวคิดดังกล่าวเริ่มดำเนินการและเป็นข้อเสนอของบรรดา สมาชิกของสามสมาคมอสังหาฯ แต่ทางศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์นั้นมีแผนจะทุบและปรับปรุงใหม่ในช่วงปลายปี 2561 โดยตัวเลือกของสถานที่ในการจัดงาน เช่น ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพ็ค เมืองทองธานี ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา ศูนย์การค้าสยามพารากอน และเซ็นทรัลเวิลด์ แต่หลังจากที่ศูนย์การประชุม แห่งชาติสิริกิติ์ก่อสร้างใหม่จึงจะ กลับมาจัดงานมหกรรมได้ตาม เดิม เพราะก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ ขนาดใหญ่ที่อยู่กลางเมืองและ เดินทางได้สะดวก

ทุกอย่างในเวลานี้ขึ้นอยู่กับการปรับตัว พัฒนาสินค้าให้สอดรับกับความต้องการของตลาด รายใดที่ปรับเปลี่ยนได้เหมาะสมกับช่วงเวลา ย่อมจะสามารถอยู่ได้ในระยะยาว แต่ใช่ว่าการทำตลาดในรูปแบบเดิมๆ นั้นจะหายไปซะทีเดียว หากรู้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เหมาะสม

Thailand Web Stat