‘Shippop’ ระบบจองขนส่งออนไลน์
"Shippop" บริการส่งของ จองขนส่งออนไลน์ในรูปแบบใหม่
โดย วราภรณ์ เทียนเงิน
"Shippop" บริการส่งของ จองขนส่งออนไลน์ในรูปแบบใหม่ ทำให้กลุ่มผู้ใช้บริการ ร้านค้าได้รับทั้งความสะดวก จัดส่งสินค้าได้ถูกต้องถึงผู้รับ พร้อมมีบริการใหม่ๆ ซึ่งจากบริการที่ไม่เหมือนใคร ส่งผลให้สตาร์ทอัพมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีกลุ่มลูกค้าใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
"สุทธิเกียรติ จันทรชัยโรจน์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง "Shippop" เปิดเผยว่า "Shippop" www.shippop.com คือ ระบบบริการส่งของ การจองขนส่งออนไลน์ และพัสดุออนไลน์ เพื่อทำให้กลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้บริการระบบขนส่งได้รับความสะดวก สามารถเลือกจองบริษัทส่งของได้ตามที่ต้องการ รวมถึงสามารถเลือกเปรียบราคาของแต่ละราย พร้อมกับการเลือกได้ว่าบริการใดมีส่วนลดพิเศษ และการติดตามสถานะการขนส่งได้อย่างสะดวกที่สุด
ขณะเดียวกันระบบยังมีการให้คำแนะนำขนส่งที่เหมาะสมกับผู้ใช้ รวมถึงผู้ใช้บริการสามารถชำระค่าขนส่งได้ผ่านออนไลน์ ด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต และมีระบบใบปะหน้าที่สามารถพิมพ์ใบปะหน้าจากระบบได้ทันที มีบริการติดตามพัสดุ ทราบหมายเลขติดตามพัสดุได้ล่วงหน้าจากระบบ อีกทั้งสามารถช่วยควบคุมรายจ่าย จากการทราบราคาขนส่งล่วงหน้า วางแผนการเลือกใช้งานได้ทันที นอกจากนี้ยังมีบริการรับของถึงบ้าน หรือไม่ต้องรับคิวเข้าแถว ส่งผลดีในการบริหารจัดการเวลาและช่วยลดต้นทุนในการเดินทาง
ทั้งนี้ การเปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลากว่า 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา บริษัทสามารถเติบโตได้ 3,200% จากจุดเริ่มต้นที่มีลูกค้าใช้บริการขนส่งสินค้าผ่านระบบเฉลี่ย 3,000 ชิ้น/เดือน และในปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการผ่านระบบแล้วกว่า 1 แสนชิ้น/เดือน
ปัจจัยที่ทำให้บริษัทมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง การนำเสนอบริการ ที่ดี และมีความแตกต่างแก่กลุ่มลูกค้า รวมถึงการมีพันธมิตรที่ดี และได้รับการสนับสนุนจากผู้ที่เกี่ยวข้องต่างๆ ทั้งการมีที่ปรึกษาเป็น "ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ" ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการตลาดดอทคอม และนายกสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย ในการร่วมให้คำแนะนำในด้านต่างๆ
ขณะเดียวกันยังได้รับการผลักดันเข้าร่วมโครงการของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) ในชื่อ เดอะ สตาร์ทอัพ และได้เข้าร่วมโครงการสตาร์ทอัพ วอร์เชอร์ ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) อีกทั้งได้รับการส่งเสริมจากนักลงทุนรายบุคคลที่เข้ามาลงทุนส่วนตัว
ล่าสุด ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวด "GSB สุดยอด SMEs Startup ตัวจริง" ภายใต้แนวคิด "ทำได้เลย ทำได้เร็ว ทำได้จริง" จัดโดยธนาคารออมสิน และได้รับเงินทุนส่งเสริมจำนวน 1 ล้านบาท และการได้ไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่นไปจนถึงการสนับสนุนในด้านต่างๆ
"สุทธิเกียรติ" กล่าวต่อว่า การทำสตาร์ทอัพจะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญทั้งเรื่องทีมงานทุกคนในการร่วมขับเคลื่อนถือว่าสำคัญอย่างมาก โดยในปัจจุบันมีทีมงานรวมจำนวน 16 คน ต่อมาการมีพันธมิตรทางธุรกิจ (พาร์ตเนอร์) ที่ดี สตาร์ทอัพไม่สามารถทำทุกอย่างคนเดียวได้ทั้งหมดจะต้องมีพาร์ตเนอร์ ซึ่งบริษัทมีพาร์ตเนอร์ที่ดีจำนวนมาก ต่อมาการมีที่ปรึกษาทางธุรกิจที่ดีเพื่อให้คำแนะนำในด้านต่างๆ รวมถึงต้องเป็นองค์กรที่มีการวางแผนระยะยาว และสามารถสร้างรายได้ทางธุรกิจได้ เพื่อทำให้องค์กรมีการขยายตัวได้ต่อเนื่อง
สำหรับการที่เข้ามาร่วมทำ "Shippop" ในครั้งนี้ มาจากการที่ตนเองได้ทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ดูแลเว็บไซต์ต่างๆ จำนวนมากกว่า 100 เว็บไซต์ โดยพบปัญหาของผู้ที่ทำอี-คอมเมิร์ซ ผู้ที่เปิดขายสินค้าต่างๆ ในเรื่องการขนส่งสินค้า และปัญหาการจ่ายเงิน ที่ไม่มีความสะดวก จึงเป็นจุดผลักดันทำให้สนใจต้องการเข้ามาแก้ปัญหาด้านนี้
"การได้เข้ามาทำทีมเรามีความสนุกและเป็นสิ่งที่อยากทำ ได้สร้างสรรค์เรื่องใหม่อย่างเต็มที่ ได้เข้ามาร่วมแก้ปัญหา หาวิธีทำให้กลุ่มลูกค้าได้รับบริการได้ง่ายและสะดวก" สุทธิเกียรติ กล่าว
ประกอบกับการที่เห็นว่าตลาดอี-คอมเมิร์ซของประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้บริการอีกจำนวนมาก ขณะเดียวกันจากข้อมูลบางส่วนในประเทศไทยพบว่ากลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการขนส่งสินค้าอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านชิ้น/เดือน จึงถือว่าเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีศักยภาพ บริษัทสามารถขยายส่วนแบ่งการตลาดได้เพิ่มขึ้นในอนาคต ส่วนอัตราการคิดค่าบริการแก่ลูกค้าบริษัทจะคิดตามอัตราการขนส่งตามจริง และไม่ได้มีการไปคิดเพิ่มเติมแก่ลูกค้าแต่อย่างใด
"สิ่งที่ยากสุดอย่างหนึ่งในการทำคือการทำให้กลุ่มร้านค้าต่างๆ เจ้าของร้านค้า หันมาใช้บริการของบริษัทมากที่สุด โดยกลุ่มร้านค้าต่างๆ ที่ได้ใช้บริการแล้ว ก็จะเกิดการบอกปากต่อปาก มีผลทำให้ร้านค้าต่างๆ รู้จักเพิ่มมากขึ้น และทีมงานทุกคนก็พร้อมให้บริการที่ดี ให้บริการที่เป็นมิตร ให้คำแนะนำ แก่ลูกค้าทุกคนอย่างเต็มที่" สุทธิเกียรติ กล่าว
ขณะเดียวกัน บริษัทจะมุ่งทั้งการให้บริการแก่ลูกค้า พร้อมกับการเสริมบริการใหม่ๆ เพื่อให้กลุ่มผู้ใช้บริการได้รับบริการที่ดีสุด โดยระยะต่อไปสนใจขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ซึ่งได้ขยายไปในมาเลเซียและสิงคโปร์แล้ว สำหรับการไปในตลาดต่างประเทศ จะมีการร่วมมือกับพันธมิตรในแต่ละประเทศ และตามแผนงานในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า จะขยายในภูมิภาคอาเซียนให้ครอบคลุมมากขึ้น รองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในทุกพื้นที่
"ผมชื่นชอบการทำเว็บไซต์ตั้งแต่ ช่วงเรียนประถมศึกษา 4 ที่เริ่มเขียนเว็บไซต์ ต่อมาในช่วงมัธยมก็เริ่มทำเสิร์ชเอนจิ้น มีการทำเว็บ สอนให้คนที่ใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น ให้ใช้เป็น รวมถึงได้ ทำต่อเนื่องในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย และ ได้เข้าร่วมโครงการยัง เว็บ มาสเตอร์ แคมป์ ที่ทีมได้รับรางวัลชนะเลิศ เมื่อเรียนจบ มหาวิทยาลัย ในคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้เข้ามาทำงานดูแลเว็บเด็กดี และในปัจจุบันได้มาทำ Shippop อย่างเต็มตัว" สุทธิเกียรติ กล่าว
ทั้งนี้ ได้วางเป้าหมายในระยะยาว Shippop จะมีกลุ่มลูกค้าเข้ามาใช้บริการและรู้จักแบรนด์เพิ่มมากขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง พร้อมกับการก้าวสู่ผู้นำการจัดการขนส่งในทุกอย่างทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน
"สุทธิเกียรติ" กล่าวทิ้งท้ายว่า การทำสตาร์ทอัพตนเองได้น้อมนำ พระบรมราโชวาทของ "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" มาเป็นแนวคิดสำคัญโดยเฉพาะใน เรื่องการคิดก่อนพูด เราเป็นสตาร์ทอัพต้องมีการพูดคุยและพร้อมรับฟังเสียงปัญหาจากลูกค้าและการพูดคุยในทีมกันอยู่เสมอ หลายต่อหลายครั้งอาจจะมีสิ่งที่ทำให้เราพูดอย่างไม่คิด จึงทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่ดีตามมาหลายๆ อย่าง ดังนั้นเราควรคิดก่อนพูด ก่อนจะพูดจะทําสิ่งอะไรจําเป็นต้องหยุดคิดเสียก่อนว่า ถ้าพูดไปแล้วเกิดผลดีผลเสียอย่างไร บางทีการพูดประโยคเดียวกันด้วยอารมณ์แตกต่างกันไป ก็ทำให้ผลลัพธ์แตกต่างกันอีกด้วย
ถือเป็นสตาร์ทอัพไทย ผลักดันสิ่งที่ชอบ และมีความชำนาญมาสู่ธุรกิจบริการที่มีความสร้างสรรค์ และนำเทคโนโลยีมาร่วมขับเคลื่อนองค์กรอย่างแข็งแกร่ง n