ความรู้เกี่ยวกับเช็คขีดคร่อม

07 พฤศจิกายน 2560

เดชา กิตติวิทยานันท์ในทางการค้าการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่ซื้อสินค้าหรือใช้บริการเจ้าหนี้ทางการค้า โดยทั่วไปก็จะใช้ใบวางบิลหรือใบส่งของเป็นเครื่องมือในการทวงเงินค่าสินค้าหรือบริการ แต่ถ้าเจ้าหนี้ให้ลูกค้าออกเช็คหรือสั่งจ่ายเช็คให้กับเจ้าหนี้ก็จะทำให้เจ้าหนี้มีเครื่องมือในการบังคับชำระหนี้มากขึ้น เพราะการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย หากเช็คเด้งเจ้าหนี้ซึ่งเป็นผู้ทรงมีสิทธิไปแจ้งความหรือไปฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดีอาญากับลูกหนี้ได้ เป็นเครื่องมือในการบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้เร็วขึ้นเพราะถ้าไม่ชำระก็จะต้องติดคุกติดตะราง

เดชา กิตติวิทยานันท์

ในทางการค้าการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่ซื้อสินค้าหรือใช้บริการเจ้าหนี้ทางการค้า โดยทั่วไปก็จะใช้ใบวางบิลหรือใบส่งของเป็นเครื่องมือในการทวงเงินค่าสินค้าหรือบริการ แต่ถ้าเจ้าหนี้ให้ลูกค้าออกเช็คหรือสั่งจ่ายเช็คให้กับเจ้าหนี้ก็จะทำให้เจ้าหนี้มีเครื่องมือในการบังคับชำระหนี้มากขึ้น เพราะการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย หากเช็คเด้งเจ้าหนี้ซึ่งเป็นผู้ทรงมีสิทธิไปแจ้งความหรือไปฟ้องศาลเพื่อดำเนินคดีอาญากับลูกหนี้ได้ เป็นเครื่องมือในการบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้เร็วขึ้นเพราะถ้าไม่ชำระก็จะต้องติดคุกติดตะราง

ในทางปฏิบัติลูกหนี้จะจ่ายเช็คเงินสดโดยไม่ขีดคร่อมเจ้าหนี้เอาไปขึ้นเงินก็ได้ หรือถ้าผู้ออกเช็คกลัวว่าเช็คจะหายและมีมิจฉาชีพนำไปขึ้นเงินก็จะขีดคร่อมเช็ค เช็คขีดคร่อมต้องนำเข้าบัญชีผู้รับเงินเท่านั้น และมี 2 แบบ ขีดคร่อมทั่วไป และขีดคร่อมเฉพาะ (ระบุชื่อธนาคารไว้) ที่ผ่านมาศาลฎีกาเคยพิพากษาเกี่ยวกับเช็คขีดคร่อมมาหลายคดีแล้ว ท่านผู้อ่านลองไปศึกษาดูนะครับ

1.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1705/2527

โจทก์ซื้อตั๋วแลกเงินพิพาทระบุชื่อบริษัทผู้รับเงินและได้ขีดคร่อม ห้ามเปลี่ยนมือ (A/CPAYEEONLY) ไว้แล้วนำไปชำระหนี้ค่าซื้อรถยนต์ให้แก่บริษัทซึ่งระบุชื่อไว้ในตั๋วแลกเงินดังกล่าว แต่มีบุคคลอื่นนำตั๋วแลกเงินพิพาทเข้าบัญชีของตนผ่านธนาคารจำเลยเพื่อเรียกเก็บเงินจากธนาคารผู้จ่าย เป็นเหตุให้ธนาคารผู้จ่ายจ่ายเงินตามตั๋วแลกเงินให้บุคคลอื่นไป แม้ตั๋วแลกเงินพิพาทจะได้ขีดคร่อมและมีข้อความอันมีความหมายถึงห้ามเปลี่ยนมือ ผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายโดยตรงก็คือบริษัทผู้รับเงินตามตั๋วแลกเงินหาใช่โจทก์แต่อย่างใดไม่ โจทก์จึงมิได้เป็นผู้ทรงตั๋วแลกเงินรายพิพาทไม่มีอำนาจฟ้องเรียกร้องให้ธนาคารจำเลยต้องรับผิดใช้เงินตามตั๋วแลกเงินดังกล่าว

การที่โจทก์ไม่ได้รับมอบรถยนต์ที่ซื้อจากบริษัทผู้รับเงินตามตั๋วแลกเงินพิพาท มิใช่ความเสียหายโดยตรงอันเกิดจากการกระทำของจำเลย และพฤติการณ์ของจำเลยที่ส่งตั๋วแลกเงินพิพาทไปเรียกเก็บเงินจาก ธนาคารผู้จ่าย ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการทำละเมิดต่อโจทก์อันจะทำให้โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยได้

2.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2551

โจทก์ที่ 1 ลงลายมือชื่อและประทับตราสำคัญของห้างหุ้นส่วนจำกัดโจทก์ที่ 2 สั่งจ่ายเช็คขีดคร่อมของธนาคาร ท. ให้แก่ ส. หรือผู้ถือ แม้เป็นเช็คห้ามเปลี่ยนมือ แต่ผู้เป็นเจ้าของอันแท้จริงแห่งเช็คนั้นคือผู้รับเงินตามเช็ค มิใช่โจทก์ทั้งสองซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายเช็ค โจทก์ทั้งสองก็มิได้เป็นผู้ทรงเช็ค จึงมิใช่เจ้าของอันแท้จริงแห่งเช็คนั้นตาม ป.พ.พ. มาตรา 1000 ที่จะมีอำนาจฟ้องธนาคารจำเลยให้รับผิดชดใช้เงินตามเช็ค ทั้งการที่จำเลยเรียกเก็บเงินตามเช็คจากธนาคาร ท. ไปเข้าบัญชีเงินฝากของผู้อื่นเพื่อเรียกเก็บเงิน ก็ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ทั้งสองในอันที่จะทำให้โจทก์ทั้งสองมีอำนาจฟ้องจำเลยให้ชดใช้ค่าเสียหายได้

3.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1539/2530

การที่ธนาคารจำเลยนำเช็คซึ่งระบุชื่อโจทก์เป็นผู้รับเงินและเป็นเช็คขีดคร่อมเฉพาะมีคำสั่งในระหว่างเส้นขีดคร่อมนั้นว่า ACCOUNTPAYEEONLY ไปเข้าบัญชีของจำเลยร่วม โดยกระทำไปตามคำสั่งของจำเลยร่วม ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการของโจทก์ มีอำนาจสั่งจ่ายเงินจากบัญชีของโจทก์ได้ ทั้งไม่ได้ความว่าการที่จำเลยไม่นำเงินตามเช็คดังกล่าวมาเข้าบัญชีโจทก์เป็นเหตุให้โจทก์ต้องเสียหายธนาคารจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้เงินตามเช็คแก่โจทก์

เช็คที่มีข้อความครบถ้วนตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 988 แล้ว ถึงแม้จะใช้ถ้อยคำว่า "โปรดจ่าย" หรือใช้ถ้อยคำว่า "ให้ใช้เงิน" ก็ย่อมมีความหมายอย่างเดียวกันว่าให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็คนั้นจึงเป็นเช็คที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย

4.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1530/2519

เช็คที่จำเลยออกให้ ส. ไม่ใช่เช็คขีดคร่อม กรณีต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 997 วรรค 3 ซึ่งบัญญัติยกเว้นความรับผิดของธนาคารไว้ เมื่อธนาคารได้จ่ายเงินตามเช็คไปโดยสุจริต และปราศจากความประมาทเลินเล่อ และแม้เงินในบัญชีของจำเลยจะมีไม่พอจ่ายก็ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 991 ก็หาได้บังคับโดยเฉียบขาด มิให้ธนาคารจ่ายเงินเกินบัญชีของผู้เคยค้าไม่ ดังนั้นจำเลยต้องรับผิดต่อธนาคารโจทก์

5.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4568/2530

โจทก์เป็นเจ้าของเช็คซึ่งธนาคาร ร. ในต่างประเทศมีคำสั่งให้ธนาคารจำเลยใช้เงินจำนวนหนึ่งแก่ห้าง อ. เพื่อชำระหนี้ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบิน แต่ห้าง อ. แจ้งว่าไม่ได้รับเช็คดังกล่าว โจทก์จึงได้ส่งเช็คฉบับใหม่มาชำระให้แก่ห้าง อ. อีกฉบับหนึ่ง ภายหลังโจทก์ทราบว่าจำเลยได้ใช้เงินตามเช็คฉบับแรกซึ่งมีผู้ปลอมตราประทับและลายมือชื่อผู้จัดการห้าง อ. มาเรียกเก็บเงินไปก่อนแล้วดังนี้ โจทก์ในฐานะเจ้าของเช็คพิพาทผู้มีสิทธิในเงินจำนวนที่สั่งจ่ายตามเช็ค ซึ่งยังไม่ตกไปถึงมือผู้รับเงินตามความประสงค์ของโจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยได้

ธนาคารจำเลยใช้เงินตามเช็คพิพาทอันเป็นเช็คขีดคร่อมเฉพาะผ่านธนาคาร ส. ซึ่งส่งเช็คมาเรียกเก็บเงิน การที่จำเลยมิได้ตรวจสอบลายมือชื่อและตราประทับของผู้สลักหลังในเช็คพิพาทยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ใช้เงินตามเช็คไปโดยประมาทเลินเล่อ เพราะเช็คขีดคร่อมที่ส่งมาเรียกเก็บจากธนาคาร ส.นั้นเป็นหน้าที่ของธนาคาร ส. ผู้รับเช็คที่จะตรวจสอบไม่ใช่หน้าที่ของจำเลย ซึ่งใช้เงินผ่านธนาคาร ส. ดังนั้นแม้ลายมือชื่อและตราประทับที่ปรากฏในเช็คพิพาทจะเป็นการสลักหลังปลอมก็ตามจำเลยก็ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์

ถ้าไม่มีเงินก็อย่าออกเช็คชำระหนี้ มิฉะนั้นติดคุก

Thailand Web Stat