‘อีโค่ช็อป’ อีโค่ดีไซน์ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

19 พฤศจิกายน 2560

งานสัมมนาหัวข้อ "จับจุดเด่น สร้างจุดต่าง เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สิ่งแวดล้อม"

โดย ปิยนุช ผิวเหลือง

งานสัมมนาหัวข้อ "จับจุดเด่น สร้างจุดต่าง เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สิ่งแวดล้อม" โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) โดยวิทยากรนักออกแบบและนักธุรกิจเพื่อสังคม "พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร" แบ่งปันประสบการณ์การออกแบบผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรม

พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร ผู้ก่อตั้งบริษัท คิดคิด และศูนย์การเรียนรู้งานออกแบบที่เป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม (ECOSHOP common) รวมถึงกลุ่มอีโค่ดีไซน์ไทยไทย แบ่งบันประสบการณ์ว่าการสร้างสรรค์งานออกแบบที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมปรับใช้ได้กับทุกกลุ่มธุรกิจ

ทั้งนี้ ในกระบวนการผลิตหนึ่งๆ ต้องใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่าที่สุด แต่เมื่อเหลือเศษวัตถุดิบบางอย่างจึงนำมาต่อยอดเป็นงานออกแบบเพิ่มมูลค่าสินค้า เป็นการสร้างรายได้อีกทางหนึ่งของผู้ประกอบการ อีกทั้งยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม โดยนอกเหนือจากบริการออกแบบผลิตภัณฑ์เหลือใช้จากโรงงานของผู้ประกอบการแต่ละราย "คิดคิด" ยังออกแบบผลิตภัณฑ์ของตนเองภายใต้แนวคิดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เอื้อประโยชน์ต่อคนในสังคม และสร้างรายได้ได้จริง เป็นหัวใจการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ทางบริษัทได้เปิดตัวอีโค่ช็อปร้านจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อีโค่ดีไซน์ในปี 2552 บริเวณสยามแหล่งรวมตัวคนรุ่นใหม่ โดยจัดจำหน่ายสินค้า อีโค่ดีไซน์จากบริษัท คิดคิด และนักออกแบบท่าน อื่นๆ ที่มาร่วมด้วย ปัจจุบันแผนธุรกิจของอีโค่ช็อปมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยจะย้ายสู่ช่องทางออนไลน์เต็มรูปแบบ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ 70-80% ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนเลือกหุ้นส่วนทางธุรกิจ อาจเป็นกลุ่มสตาร์ทอัพเพื่อพัฒนาร้านค้าออนไลน์ร่วมกัน

นอกเหนือจากนี้ยังมีโครงการหลายโครงการที่ทำงานร่วมกับภาครัฐ ได้แก่ โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าจากกลุ่มชาวเขา โดยมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง โครงการประชารัฐ และโครงการ Give to give ร่วมกับตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น รวมถึงบริษัทเอกชนและรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ที่ต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์อีโค่ดีไซน์

‘อีโค่ช็อป’ อีโค่ดีไซน์ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

สำหรับแผนธุรกิจในอนาคตวางเป้าเปิดตัวแอพพลิเคชั่น Eco Life เวอร์ชั่นที่ 2 กลางปี 2561 ซึ่งเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้เปิดให้บริการแล้ว โดยเป็นแอพพลิเคชั่นที่สนับสนุนการเดินทางด้วยจักรยาน หรือเดินเท้า พบว่ามียอดดาวน์โหลด 2 หมื่นครั้งในปัจจุบัน อีกทั้งเดินหน้าประสานงานกับมหาวิทยาลัยในการใช้แอพพลิเคชั่นดังกล่าว

ขณะที่บริษัทไม่ได้จำกัดธุรกิจแค่งานออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่แตกยอดเป็นผลิตภัณฑ์ และบริการอื่นๆ ภายใต้โจทย์ความสนใจด้านสิ่งแวดล้อม สามารถขยายผลไปในทิศทางใดได้อีกบ้าง

จุดเริ่มต้นการก้าวสู่แวดวงอีโค่ดีไซน์ พิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า มาจากความชื่นชอบด้าน สิ่งแวดล้อม สนุกในงานที่ทำ เมื่อเริ่มต้นมาระยะหนึ่งจึงสามารถสร้างเครือข่ายผู้ที่สนใจงานออกแบบในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งสิ่งที่รู้และชื่นชอบในอดีต ย้อนกลับเป็นรายได้ที่ยั่งยืนในปัจจุบันแล้ว โดยมองว่าผู้ที่ทำงานด้านอีโค่ดีไซน์สามารถรวยได้ ซึ่งไม่ได้ชี้วัดแค่รายได้หรือตัวเงิน แต่เป็นการรวยในด้านอื่นๆ อยู่ที่นิยามของแต่ละท่าน

สำหรับการสื่อสารอีโค่ดีไซน์ถึงผู้บริโภค จะเป็นการสื่อสารรูปแบบที่อธิบายประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับจากผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่การสื่อสารที่มุ่งต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเดียว ซึ่งสุดท้ายจะย้อนกลับมาส่งผลกระทบด้านบวกยังสิ่งแวดล้อมในตัวของมันเอง

"ปัจจุบันคนไทยสนใจผลิตภัณฑ์อีโค่ดีไซน์มากขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่สนใจจะซื้อผลิตภัณฑ์" พิพัฒน์ กล่าว

ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ผู้ประกอบการที่ต้องพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ รักษามาตรฐาน ควบคู่กับการพัฒนาด้านการออกแบบ

"เรามุ่งสู่การพัฒนางานดีไซน์สินค้าให้มี นวัตกรรม ซึ่งผู้ผลิตและสร้างสรรค์ผลงาน ต้องคำนึงว่าการสร้างสรรค์ ผลงานจากของที่ไม่ใช้แล้วหรือขยะ เมื่อสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ออกมาแล้วนั้นต้องไม่เป็นการสร้างขยะอีกครั้ง คือไม่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคนวัตกรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญ" พิพัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

Thailand Web Stat