posttoday

มองโลกไอที ที่พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ

17 ธันวาคม 2560

เกิดเป็นเด็กยุคดิจิทัล ไม่ควรพลาดมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ

โดย / ภาพ กั๊ตจัง

เกิดเป็นเด็กยุคดิจิทัล ไม่ควรพลาดมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ หลายคนที่เคยมาเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ นั้นมักจะพลาดมาชมพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ เพราะว่าตัวอาคารตั้งอยู่ไกลกว่าอาคารหลักพอสมควร อีกทั้งใช้เวลาเที่ยวแค่ 2 อาคารแรกก็หมดเวลาทั้งวันแล้ว วันนี้เราจึงพาไปชมพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศกันดูบ้างว่า ข้างในจะมีอะไรน่าสนใจบ้าง

เมื่อเดินเข้ามาภายในอาคารส่วนแรกที่เราจะได้พบก็คือ ส่วนการจัดแสดงความเป็นมาด้านการสื่อสารของมนุษย์ ซึ่งทางเดินของพิพิธภัณฑ์ถูกออกแบบมาให้เดินชมในส่วนของชั้น 2 ก่อน

ดูเหมือนเป็นแนวคิดหลักในการจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ทุกที่ก็คือ การย้อนอดีตตั้งแต่แรกเริ่มการสื่อสารของมนุษยชาติตั้งแต่การวาดภาพตามผนังถ้ำเพื่อสื่อเรื่องราวต่างๆ ในยุคสมัยนั้น คนที่ชอบประวัติโบราณคดีน่าจะชอบในโซนแรก เพราะมีการอธิบายความหมายของบางรูปที่พอเข้าใจได้ เช่น ผู้ชาย ผู้หญิง อาวุธการออกล่าสัตว์ พระอาทิตย์ การบูชาเทพเจ้า อันแสดงถึงวิถีีชีวิตชนเผ่าโบราณ ที่แม้จะอยู่คนละที่แต่มนุษย์ก็รู้จักพัฒนาการสื่อสารที่มีความละเอียดซับซ้อนได้มากกว่าสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ

มองโลกไอที ที่พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ

การสื่อสารในยุคแรกเน้นการสื่อสารในรูปแบบง่ายๆ คือ วาดสิ่งที่ต้องการจะสื่อออกมาเป็นรูปโดยตรงและเรียงลำดับเรื่องราวออกมา แต่ยังติดในเรื่องการสื่อสารความต้องการบางอย่างออกมาไม่ได้ จึงเริ่มมีวิวัฒนาการตัวอักษรขึ้นมา ซึ่งเห็นได้ชัดเจนที่สุดจาก
ภาษาจีนที่ใช้ลากเส้นแทนรูปร่างสิ่งต่างๆ และแปรเปลี่ยนไปตามธรรมชาติ เปลี่ยนจากการบันทึกจากผนังถ้ำมาเป็นแผ่นไม้และพัฒนารุดหน้าอย่างรวดเร็วด้วยการทำกระดาษและน้ำหมึก ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารในยุคแรกๆ ที่ช่วยจดบันทึกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และสื่อสารระหว่างกันได้เป็นอย่างดี

เดินตามทางมาอย่างช้าๆ เราจะเริ่มเห็นการสื่อสารด้วยรูปแบบอื่นๆ ที่มนุษย์คิดค้นขึ้น อย่างเช่นการใช้ควันไฟส่งสัญญาณ การใช้หอกระจายข่าว การใช้นกพิราบสื่อสาร การใช้ม้าเร็วส่งสาร แต่ละวิธีล้วนมีข้อดีข้อเสียและความเหมาะสมในการใช้งานแตกต่างกันออกไป จนเข้าสู่ยุคของการสื่อสารด้วยระบบไปรษณีย์ มีการส่งจดหมายและโทรเลขได้เริ่มต้นขึ้น

มองโลกไอที ที่พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ

พอเดินมาถึงยุคนี้เราก็เริ่มรู้สึกสนุกกับการเดินพิพิธภัณฑ์มากขึ้น เพราะมีเกมให้เล่นหลายอย่างให้เราสื่อสารด้วยวิทยุสื่อสาร มีการจัดแสดงตู้โทรศัพท์สมัยโบราณ เวลาที่จะต่อสายหาใครก็ต้องเรียกเข้าส่วนกลางให้คนเดินเสียบต่อคู่สายให้ จนกระทั่งการมาของระบบคอมพิวเตอร์ที่ช่วยต่อสายให้อัตโนมัติและรองรับการใช้งานคู่สายได้นับแสนได้ภายในเวลาเดียวกัน

ในขณะเดียวกันเราได้เห็นเทคโนโลยีการสื่อสารด้านอื่นๆ อย่างเช่นวิทยุโทรทัศน์ เติบโตมาในยุคของเทคโนโลยีการสื่อสารด้วยระบบวิทยุโทรทัศน์ จอทีวี 14 นิ้วรุ่นโบราณที่ยุคหนึ่งเราเคยคิดว่ามีขนาดใหญ่มากกลายเป็นจอเล็กจิ๋วเมื่อเทียบกับจอภาพแอลอีดี 40 นิ้ว ที่อยู่ในโซนถัดไป

มองโลกไอที ที่พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ

มีห้องจัดรายการโทรทัศน์และห้องจัดรายการวิทยุที่เปิดให้เด็กๆ เข้าชมเป็นรอบ แสดงให้เห็นถึงยุครุ่งเรืองของสื่อวิทยุโทรทัศน์และสื่อสิ่งพิมพ์ ก่อนที่เราจะเดินเข้าสู่ยุคดิจิทัลที่อยู่ชั้น 1 ต่อไป เมื่อการพัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทแทนที่การทำงานของมนุษย์ไปทีละส่วน

เดินลงมาที่ชั้น 1 เราจะเห็นรูปแบบวิวัฒนาการของเครื่องคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ยังใช้ซีพียูอินเทล i486 เด็กรุ่นใหม่อาจจะเห็นเป็นแค่ของเก่าชิ้นหนึ่ง แต่สำหรับคนที่มีประสบการณ์ใช้งานแล้วจะเป็นตัวช่วยระลึกความหลังได้เป็นอย่างดี เพราะในช่วงเวลาหนึ่งราวปี 2530 เป็นช่วงเวลาที่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลมีราคาถูกลงและเริ่มเป็นที่แพร่หลายใช้งานในประเทศไทยมากขึ้น

ส่วนเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเข้ามาในประเทศไทยและใช้งานเชิงพาณิชย์ประมาณปี 2538 ในยุคนั้นการใช้บริการอินเทอร์เน็ตจะต้องใช้โมเด็มต่อสายโทรศัพท์เพื่อโทรเข้าเซิร์ฟเวอร์ หากมีสายโทรเข้ามาระหว่างเล่นอินเทอร์เน็ตจะหลุด เช่าใช้งานนับเป็นรายชั่วโมง ที่ความเร็ว 35-56 กิโลบิต เราก็จะได้ระลึกความหลังกันที่นี่ซึ่งถือว่ามีครบ ซึ่งในโซนคอมพิวเตอร์จะมีเกมให้เด็กๆได้เล่นประกอบคอมพ์ผ่านกล้องจับความเคลื่อนไหว และยังมีห้องสำหรับอบรมการใช้งานคอมพิวเตอร์และเวิร์กช็อปเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อีกมากมาย

มองโลกไอที ที่พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ

โซนถัดมาเป็นเทคโนโลยีหุ่นยนต์และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งเราจะได้เรียนรู้เรื่องของการเขียนโปรแกรมเล็กๆ น้อยๆ และการใส่คำสั่งควบคุมหุ่นยนต์ของเล่น และที่สำคัญมีเกมให้เด็กๆได้เล่นกันมีทั้งเกมคอมพิวเตอร์ที่ใช้กล้องเว็บแคม และเกมที่ใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์ในการทำงาน และปิดท้ายก่อนเดินออกจากพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ด้วย ตู้จัดแสดงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ยุคเก่า บ้างเคยแค่ผ่านตาแต่หลายอย่างก็เคยผ่านมือกัน

หากจะใช้เวลาเดินศึกษาที่พิพิธภัณฑ์นี้อย่างจริงจังน่าจะใช้เวลาอยู่ประมาณ 4 ชั่วโมงเต็ม ถึงจะเที่ยวชมได้ครบ แต่หากอยากทำกิจกรรมควรเผื่อเวลาให้ทั้งวันสำหรับที่นี่ บอกเลยว่าคนที่ชอบเรื่องเทคโนโลยี ไอทีไม่ควรพลาดมาเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศแห่งนี้