กรมศิลป์ตั้งพิพิธภัณฑ์ มรดกวัฒนธรรมอิสลาม ที่นราธิวาส

โดย กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมศิลป์

กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ได้ริเริ่มโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอาน ณ โรงเรียนสมานมิตรวิทยา จ.นราธิวาส คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2562

กรมศิลป์ ริเริ่มโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2556 โดยความร่วมมือจาก จ.นราธิวาส ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ความเป็นมาของโครงการนี้ สืบเนื่องจากโรงเรียนสมานมิตรวิทยา ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ได้เก็บรวบรวมคัมภีร์อัลกุรอาน โบราณ อันเป็นคัมภีร์บันทึกหลักคำสอนของพระศาสดา รวมทั้งหลักการ ข้อปฏิบัติของมุสลิมผู้นับถือศาสนาอิสลามทุกคนทั่วโลก ซึ่งได้มาจากชาวไทยมุสลิมในท้องถิ่น และในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง (ปัตตานี นราธิวาส ยะลา) ตลอดจนชาวมุสลิมในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย เป็นจำนวนมาก โดยมีคัมภีร์บางส่วนเขียนด้วยภาษาบาลีแบบทิเบต ที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นเป็นจำนวนมาก ราว 70 เล่ม

กระทรวงวัฒนธรรม จึงได้สนับสนุนงบประมาณโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอาน ณ โรงเรียนสมานมิตรวิทยา ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ให้กรมศิลปากรมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2556 เพื่อเตรียมการและการดำเนินงานในขั้นตอนต่างๆ ตามหลักวิชาการ เช่น การอนุรักษ์คัมภีร์อัลกุรอาน ด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ การสำรวจเก็บข้อมูลวิชาการ การจัดประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากนักวิชาการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ การจัดทำบทจัดแสดง การออกแบบและก่อสร้างพิพิธภัณฑ์  เป็นต้น

ปัจจุบันกรมศิลปากรได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารจัดแสดงคัมภีร์อัลกุรอานและอาคารต่างๆ ตามโครงการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์คัมภีร์อัลกุรอาน และเอกสารโบราณของโรงเรียนสมานมิตรวิทยา ตามหลักวิชาการ การอนุรักษ์ให้คงอยู่และสืบทอดต่อไปในอนาคต

การจัดแสดงคัมภีร์อัลกุรอาน ศิลปวัตถุ โบราณวัตถุ และสิ่งของเครื่องใช้ในวิถีชีวิตของมุสลิมใน จ.นราธิวาส  และจังหวัดใกล้เคียง ในพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอานแห่งนี้ เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์สมานฉันท์ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ของรัฐบาลให้เป็นรูปธรรม ตลอดจนเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในหลักศาสนาอิสลามแก่ชาวมุสลิมและผู้ที่นับถือศาสนาอื่น อันจะนำมาซึ่งการยอมรับในความแตกต่างทางวัฒนธรรม และสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นสืบไป

ในขณะนี้การก่อสร้างอาคารจัดแสดงคัมภีร์อัลกุรอาน และอาคารต่างๆ บนเนื้อที่ 7 ไร่ 25 ตารางวา ซึ่งจัดซื้อโดยมูลนิธิพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม และคัมภีร์อัลกุรอานคัดด้วยลายมือ มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก สำหรับระยะเวลาในการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จบริบูรณ์ตามวัตถุประสงค์ ภายในปีงบประมาณ 2562