คิดต่างพารวย! ลงทุนหลักหมื่นปั้น "สบู่ผิวขาวไทย" สู่ตลาดแอฟริกา สร้างรายได้เดือนละนับล้าน
เผยเส้นทางธุรกิจวัยรุ่นไทยที่ทำให้สบู่ช่วยให้ผิวขาวแสนธรรมดา สามารถครองใจลูกค้าแอฟริกานำมาซึ่งรายได้หลักล้าน
โดย…วิรวินท์ ศรีโหมด
ผลิตภัณฑ์สบู่ช่วยให้ผิวขาว ปัจจุบันมีขายมากมายในท้องตลาดและสังคมออนไลน์ ยุคที่สินค้าประเภทเดียวกันมีมาก แต่ลูกค้าเท่าเดิม ผู้ประกอบการจึงพยายามงัดกลยุทธ์และหาช่องทางใหม่ๆ เพื่อทำให้อยู่รอด
หนึ่งในคนที่ประสบความสำเร็จเเละสร้างรายได้หลักล้านต่อเดือนคือ ภคินี แจ้งกุลบุตร หรือ นิล อายุ 27 ปี เจ้าของแบรนด์สบู่ช่วยให้ผิวขาว สกายลินน์ (SKYLINN)
วันนี้เธอจะมาเล่าถึงชีวิตและเส้นทางธุรกิจ ที่กล้าหันหลังให้งานประจำ ออกมาทำธุรกิจความงามในยุคที่ตลาดมีคู่แข่งมากมายอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ
และต่อไปคือเส้นทางชีวิตของวัยรุ่นเจ้าของธุรกิจหลักล้าน
จากชีวิตพนักงานสู่เจ้าของธุรกิจหลักล้าน
ภคินี จบการศึกษาสาขาวิชาเทคโนโลยีสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังเรียนจบเดินทางเข้ามาทำงานกรุงเทพฯ เป็นพนักงานประจำบริษัทรับผลิตสื่อ ทำหน้าที่ตัดต่อกราฟฟิกตามสิ่งที่ชอบ
นิล เล่าว่า ทำงานประจำได้ประมาณ 2 ปี วันหนึ่งรู้สึกเหนื่อยเพราะแต่ละวันทำงานเยอะมากแทบไม่มีเวลาพัก แต่เงินเดือนได้เท่าเดิม จึงรู้สึกเบื่อและตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เดินทางกลับไปอยู่บ้านที่ อ.หัวหินคอยรับงานฟรีแลนซ์ด้านกราฟฟิกดีไซเนอร์ ทว่าผ่านไป 2 ปี ความเหน็ดเหนื่อยก็ไม่ลดลง ขณะที่รายได้ก็ไม่เพิ่มขึ้น จึงคิดหาไอเดียสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตขึ้น
จุดเริ่มต้นบนถนนธุรกิจของนิลเกิดจาก การเริ่มอ่านหนังสือประวัติชีวิตและวิธีคิดของคนที่ประสบความสำเร็จบนเส้นการธุรกิจ จนกระทั่งวันหนึ่งได้กรอกใบสมัครเข้าร่วมอบรมการทำธุรกิจขายตรงอาหารเสริม
“คนรอบข้างห้ามก็ไม่ฟัง เราไม่เชื่อเพราะคิดว่าทำได้ นำเงินเก็บทั้งหมดที่มีและขอยืมพ่อแม่ไปลงทุน เริ่มจากโพสต์สินค้าขายผ่านทางเฟซบุ๊กพร้อมแท็กชื่อเพื่อนๆ เดินทางออกไปหาลูกค้ากลับบ้านดึกดื่นทุกวัน แต่แทบไม่ได้เงินกลับคืนมาเลย”
วันเวลาผ่านไปได้สักระยะ แฟนหนุ่มชาวแอฟริกาเห็นว่า สิ่งที่เธอทำนั้นเข้าข่ายได้ไม่คุ้มเสีย งานหนักแต่เงินน้อย ที่สำคัญวิธีการทำงานยังเหมือนเป็นการหลอกลวงให้ความหวังผู้อื่น จึงแนะนำให้หยุดและตั้งสติใหม่เพื่อคิดหาวิธีสร้างรายได้ทางอื่น
นิล บอกว่า ตอนนั้นยังไม่เชื่อ จนกระทั่งเพื่อนๆ เริ่มรำคาญเพราะไปรบกวนพวกเขามากเกินไป ถูกด่าและอันเฟรนด์เกือบหมด ทำให้ได้สตินึกถึงสิ่งที่แฟนเคยเตือน จึงหยุดทำธุรกิจขายตรง
บุกตลาดสบู่ขาวในแอฟฟริกา สร้างเงินเดือนละ 3 ล้าน
นอกจากแฟนหนุ่มจะเตือนสติให้เลิกขายตรงแล้ว ยังชี้ช่องทางสว่างทางธุรกิจให้อีกด้วย โดยแนะนำให้ผลิตสบู่ปรับผิวขาวใส ส่งไปขายยังประเทศในแถบแอฟริกา
“เขาบอกว่าคนแอฟริกาบางกลุ่มอยากมีผิวขาว มองว่าคนผิวขาวคือคนที่ดูแลผิวได้สะอาด อีกอย่างคนที่นั่นส่วนใหญ่ยังยอมรับและนิยมผลิตภัณฑ์ดูแลบำรุงผิวจากประเทศไทยอยู่แล้ว เพราะมีคุณภาพดี ราคาไม่แพงหากเทียบกับสินค้าจากประเทศอื่น”
เดือน ก.ค. 2558 นิลและแฟนหนุ่มเริ่มวางแผนธุรกิจเพื่อนำสบู่ส่งไปขายยังประเทศแถบแอฟริกา โดยศึกษาปัญหาสภาพผิวของคนประเทศแถบดังกล่าว สรรพคุณของผลไม้แต่ละชนิดที่ช่วยจัดการปัญหา เช่น ปรับผิวให้ขาวเนียน สมานแผล แก้ปัญหาผิวกระ เป็นต้น จากนั้นเริ่มติดต่อโรงงานรับผลิตสบู่ ครีม โลชั่นที่ได้มาตรฐาน
“ตอนนั้นต้องใช้เงินประมาณ 90,000 บาท แต่เรากับแฟนแทบไม่มีเงินเก็บ ก็พยายามหาเงินมาลงทุนและไปร่วมหุ้นกับน้องชาย จนได้สินค้ามา และได้เริ่มส่งออกไปขายตามประเทศต่างๆ ช่วงประมาณเดือน ต.ค. 58”
ช่วงเริ่มต้นของนักธุรกิจหญิงเงินล้าน พบเจอกับปัญหามากมาย เรื่องที่หนักใจที่สุดคือการถูกโกง ส่งของไปแต่ลูกค้าไม่โอนเงินกลับมา สร้างความเสียหายเป็นเงินไม่น้อยกว่า 5,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 170,000 บาท อย่างไรก็ตามไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาท้อ เพราะคิดว่าเริ่มแล้วหยุดไม่ได้ จึงเก็บความผิดพลาดเป็นบทเรียน ปรับปรุงการซื้อขาย-ชำระเงินให้รอบคอบและมีความรัดกุม หากลูกค้าจะสั่งสินค้าต้องจ่ายล่วงหน้า 50-80 เปอร์เซ็นต์
เจ้าของแบรนด์สบู่สกายลินน์ เผยว่า หลังทำมา 2 ปี กระแสตอบรับดีมาก ปัจจุบันส่งออกมากกว่า 10 ประเทศ เช่น โมซัมบิก กานา กินี ไนจีเรีย ไอวอรี่โคสต์ เบนิน มาดากัสการ์ โดยส่งออกครั้งประมาณ 5,000 - 20,000 ก้อน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่าหลักล้านบาทต่อเดือน
สำหรับแผนธุรกิจอนาคต นิลตั้งเป้าว่า จะพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม เช่น โลชั่น เซรั่มผิวขาว ส่วนระยะยาวหากมียอดจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น อาจก่อสร้างโรงงานผลิตสินค้าเพื่อง่ายต่อการจัดจำหน่าย
เคล็ดลับพาสินค้าไทย ตีตลาดนอก
ภคินี ยอมรับว่า การทำธุรกิจส่งออกต่างประเทศนั้นมีอุปสรรคปัญหาหลายอย่าง แต่หลักสำคัญต้องทำให้สินค้าได้มาตรฐานของประเทศปลายทาง ซึ่งต้องศึกษากฎหมาย เช่น ข้อกำหนดเรื่องเอกสาร การควบคุมคุณภาพสินค้าบรรจุภัณฑ์ เรื่องเหล่านี้ไม่ยาก หากศึกษาเรียนรู้
สาววัย 27 ปี ทิ้งท้ายว่า เคล็ดลับในการทำธุรกิจส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ คือการศึกษาและกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน จากนั้นค่อยเลือกสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ ไม่ใช่ผลิตออกมาก่อนแล้วค่อยหาตลาดรองรับ และหากอยากเติบโตต้องกล้าที่จะเสี่ยงเปิดหาตลาดใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่ประเทศไทย ที่สำคัญคือการควบคุมคุณภาพสินค้าและการบริการให้มีมาตรฐาน ซึ่งต้องใส่ใจและเต็มที่กับการทำงาน
