เคล็ดลับเลือกวัสดุ ให้บ้านเย็นสบาย
ถึงเวลาที่สภาพอากาศเดินทางเข้าสู่หน้าร้อน ก็เป็นต้องเหนื่อยหน่าย หงุดหงิด ส่วนที่มีผลต่ออุณหภูมิภายในบ้าน
ถึงเวลาที่สภาพอากาศเดินทางเข้าสู่หน้าร้อน ก็เป็นต้องเหนื่อยหน่าย หงุดหงิด ส่วนที่มีผลต่ออุณหภูมิภายในบ้านหลักๆ เลย ได้แก่ หลังคาและผนัง หากต้องการอยู่ในบ้านโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ หรือช่วยให้แอร์ทำงานน้อยที่สุดเพื่อเป็นการประหยัดไฟ ก็จำเป็นต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยป้องกันความร้อนที่เหมาะสม “ยิปซัม ตราช้าง” หยิบยกเทคนิคเพื่อการเลือกผลิตภัณฑ์ช่วยลดความร้อนภายในบ้านมาฝาก
เทคนิคการเลือกวัสดุ
หลังคาบ้าน : 70% ของความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้านมาจากหลังคา เพราะเป็นส่วนที่ต้องรับแสงแดดโดยตรง และส่งความร้อนผ่านลงมาที่ตัวบ้าน ควรเลือกฝ้าเพดานใต้หลังคาที่สามารถสะท้อนความร้อนได้ในตัว มีแผ่นสะท้อนความร้อน การเลือกรูปทรงหลังคา ยิ่งมีพื้นที่กักเก็บความร้อนด้านบนค่อนข้างมากจะช่วยลดอุณหภูมิของบ้านได้ เพราะโดยธรรมชาติอากาศร้อนจะลอยตัวขึ้นสู่ด้านบน
ฉนวนกันความร้อน : ด่านแรกในการป้องกันความร้อนจากหลังคาไม่ให้เข้าสู่บ้าน สามารถใช้ฉนวนกันความร้อนติดตั้งเข้าไปอีกชั้น เพื่อลดความร้อนภายในบ้านได้ดียิ่งขึ้น แผ่นฉนวนกันความร้อนสามารถติดตั้งร่วมกับหลังคา ฝ้าเพดาน หรือผนัง เพื่อป้องกันความร้อนเข้าสู่บ้านได้อีกทางหนึ่ง
ฝ้าชายคา : ควรเลือกฝ้าที่มีรูหรือช่องระบายอากาศผ่านเข้าออกได้ เพื่อรับลมเย็นและระบายความร้อนที่สะสมใต้โถงหลังคา
พื้นบ้าน : ควรเลือกใช้กระเบื้องหรือหินอ่อนปูชั้นล่าง เพราะกักเก็บความเย็นจากพื้นดินได้เป็นอย่างดี
ผนังภายใน : เป็นอีกหนึ่งส่วนของบ้านที่ถูกส่งผ่านความร้อนมาจากแสงแดดตลอดทั้งวัน ทำให้เกิดการสะสมความร้อนสูง ควรเลือกใช้วัสดุที่มีค่าการสะสมความร้อนต่ำ เช่น อิฐมวลเบา หรือเลือกใช้แผ่นยิปซัมที่มีความหนาอย่างน้อย 12 มม. และเพิ่มฉนวนกันความร้อนเพิ่มเติมเพื่อลดความร้อน ส่วนผนังภายนอกควรเลือกใช้สีขาว สีครีม สีพาสเทล ที่ช่วยสะท้อนความร้อน
ปัจจุบันแผ่นยิปซัมมีคุณสมบัติตอบสนองการใช้งานได้หลากหลายทั้งผนังและฝ้าเพดาน นอกจากการติดตั้งที่ไม่ซับซ้อน แผ่นยิปซัมบางประเภทยังผลิตให้มีคุณสมบัติโดดเด่นเฉพาะด้าน ฮีทบล็อก ตราช้างพลัส เทคโนโลยีของ “ชีตร็อคแบรนด์” สิทธิบัตรจาก ยูเอสจี (USG) ผู้ผลิตชั้นนำจากประเทศสหรัฐ เพิ่มคุณสมบัติป้องกันการส่งผ่านความร้อนโดยการบุแผ่นสะท้อนรังสีความร้อนด้านหลังแผ่น สามารถสะท้อนรังสีความร้อนได้ถึง 93.7% พร้อมคุณสมบัติน้ำหนักเบา แข็งแกร่ง ไม่แอ่นตัว เนื้อแผ่นสม่ำเสมอ ผ่านการรับรองตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และการทดสอบการสะท้อนรังสีความร้อนตามมาตรฐาน JIS R 3106 เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้อีกด้วย