อนาคตบัตรพลาสติก ยุคใช้เงินผ่านดิจิทัล

14 เมษายน 2561

หากเปิดดูกระเป๋าสตางค์ของหลายคนวันนี้อาจมีบัตรพลาสติกอยู่หลายใบไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็ม

โดย จารุพันธ์ จิระรัชนิรมย์

หากเปิดดูกระเป๋าสตางค์ของหลายคนวันนี้อาจมีบัตรพลาสติกอยู่หลายใบไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเอทีเอ็ม หรือบัตรกดเงินสด ทว่ายุคนี้การใช้จ่ายทำได้ง่ายแม้ไม่มีบัตร แค่มีสมาร์ทโฟนในมือเครื่องเดียวก็จ่ายได้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า แล้วอนาคตบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตยังคงอยู่ต่อไปหรือไม่

ในงานมันนี่ เอเชีย 20/20 ที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อไม่นานมานี้ได้พูดถึงประเด็นบัตรเครดิตและเดบิต กับการรักษาการเติบโตและสร้างความสนิทสนมกับลูกค้า โดย หลิง ไฮ ประธานร่วม เอเชียแปซิฟิก มาสเตอร์การ์ด มองว่า หากคิดถึงการชำระเงิน ลูกค้าจะคิดถึงการใช้บัตรเครดิตก่อนเพราะชอบที่ไม่ต้องชำระทันที ซึ่งมาสเตอร์การ์ดเป็นแบรนด์หนึ่งที่ได้รับการยอมรับแข็งแกร่ง ลูกค้าจะรู้สึกมั่นคงและรู้สึกว่าชำระได้ เมื่อเห็นตราสัญลักษณ์มาสเตอร์การ์ด

แม้มีช่องทางใหม่ เช่น คิวอาร์ โค้ด ที่สแกนแล้วจ่ายได้เลย แต่การสแกนคิวอาร์ โค้ดเพื่อจ่าย ก็ต้องมีแหล่งที่มาของเงินอยู่ดี ซึ่งเงินยังต้องมาจากสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน (นันแบงก์) หรืออาจมาจากบัญชีเติมเงิน แต่สุดท้ายไม่ว่าจะมาจากแหล่งไหน สิ่งสำคัญ คือ คนยังเชื่อในโครงสร้างการชำระเงินแบบเครดิตอยู่ดี

ดังนั้นแม้มีช่องทางใหม่มา แต่บัตรพลาสติกก็ยังคงอยู่ต่อไปได้ แต่อาจเป็นการออกบัตรพลาสติกเพื่อให้ลูกค้ามองเห็นจับต้องได้

ขณะที่การใช้งาน อาจนำนวัตกรรมใหม่มาผสมผสาน เช่น มาสเตอร์การ์ดที่มี “มาสเตอร์พาส คิวอาร์” ให้นำหมายเลขบัตรเครดิตมาใส่ในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อี-วอลเล็ต) จากนั้นสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตนั้น สรุปคือแม้มีนวัตกรรมใหม่ให้ชำระเงินผ่านดิจิทัลมากขึ้น แต่ในที่สุดการชำระเงินเหล่านี้ยังต้องอาศัยเครือข่ายอย่างมาสเตอร์การ์ดอยู่ดี

แอนนี่ จาง กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ดิสคัฟเวอร์ โกลบอล เน็ตเวิร์ค กล่าวว่า ปัจจุบันมีระบบชำระเงินใหม่ๆ ถูกสร้างขึ้น ทำให้คนชำระเงินสะดวกขึ้น เช่น ทุกคนสร้างรหัสบัตรเครดิตขึ้นเองได้ แต่สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้ทำให้บัตรพลาสติกหายไป

ยูอิจิโร คาโดวากิ รองประธานอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจและประสานงานเจซีอี อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า การมีรูปแบบชำระเงินมากขึ้น ทำให้เรื่องตราสินค้าของผู้ที่เป็นตัวกลางชำระเงินโดยใช้เครดิตถูกมองเห็นน้อยลงเช่น ถ้าคนอยู่ในรถยนต์แล้วชำระเงินได้เลยผ่านเทคโนโลยีที่ติดตั้งในรถก็คงไม่เห็นตราสินค้าของผู้ให้บริการตัวกลาง แต่อันที่จริงเจ้าของตราสินค้าเหล่านี้ก็ยังทำงานอยู่เบื้องหลังการชำระเงินอยู่

ทั้งนี้ มองว่าแม้มีช่องทางชำระเงินใหม่ แต่บัตรพลาสติกยังมีความสำคัญ และยังได้รับความนิยมในบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ที่แม้ใช้เทคโนโลยีชำระเงินผ่านมือถือมาตั้งแต่ปี 2547 แต่จนถึงวันนี้ยังมีประชากร 6% เท่านั้นที่ชำระเงินบนมือถือเพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย ทำให้บัตรพลาสติกยังเป็นที่นิยม และการให้ความสำคัญเรื่องการออกแบบบัตรพลาสติกก็ยังมีความสำคัญ

พิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานบัตรเครดิต บริษัท บัตรกรุงไทย (เคทีซี) กล่าวว่า บัตรเครดิต หรือบัตรพลาสติกอื่น คงต้องอยู่ต่อไปอีกระยะ แม้วันนี้จะเริ่มก้าวสู่สังคมไร้เงินสด (แคชเลส) ชำระผ่านโทรศัพท์มือถือแล้ว แต่ยังเห็นคนจำนวนมากที่ยังสบายใจใช้บัตรพลาสติกอยู่

ทั้งนี้ ในอนาคตอาจเป็นไปได้ที่สังคมจะไปสู่ขั้นทำบัตรพลาสติกเพื่อเก็บไว้ แล้วนำรหัสบัตรผูกไว้บนโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้งาน แต่บอกไม่ได้ว่าจะเร็วแค่ไหน เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับทุกฝ่ายต้องช่วยกันผลักดันทำให้ลูกค้ารู้สึกปลอดภัยกับการใช้จ่ายด้วยเครดิตในช่องทางนี้ จากนั้นจะเกิดการบอกต่อ และมีคนกล้าใช้เพิ่มขึ้น

“ต่อไปบัตรพลาสติกอาจยังมีเพื่อเก็บไว้ หรืออาจไม่ต้องออกบัตรพลาสติกเลยแล้วให้เพียงหมายเลขบัตรเสมือน (เวอร์ชวล นัมเบอร์) ก็ได้ ส่วนวันนี้ถ้าไปใช้จ่ายในจุดรับชำระเงินที่มีเครื่องรับบัตร อีดีซี ก็ยังต้องใช้บัตรพลาสติกจริงๆ อยู่ นอกจากจุดรับชำระเงินนั้นจะมีการชำระเงินแบบที่สแกนแล้วจ่ายได้ทันที บัตรพลาสติกก็อาจไม่จำเป็น” พิทยา กล่าว

สุวิชชา สุดใจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บิสซิเนส อินโนเวชั่น ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า บัตรพลาสติกจะยังมีต่อไปหรือไม่ในอนาคต จะสัมพันธ์กับจุดรับชำระเงิน เพราะจุดรับชำระเงินเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ผลักดันพฤติกรรมชำระเงินของคนให้เปลี่ยนไป หากจุดรับเปลี่ยนรูปแบบไม่มีเครื่องรับบัตรแล้วก็คงนำบัตรพลาสติกไปใช้ไม่ได้ แต่หากยังมีเครื่องรับบัตร บัตรพลาสติกก็ยังมีต่อไป

จะเห็นได้ว่า ต่อให้เทคโนโลยีใหม่จะเข้ามาเร็วอย่างไร แต่ไม่ได้หมายความว่า จะกลืนกินรูปแบบการชำระเงินเก่าๆ เลือนหายไปทันที เช่น การใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิตแบบที่จับต้องได้ จะยังคงอยู่ต่อได้ เพราะจุดรับชำระเงินยังมีรูปแบบการรับชำระต่างกันไป เช่นเดียวกับคนที่มีความชอบ ความสะดวกใช้จ่ายในรูปแบบที่ต่างกัน 

Thailand Web Stat