สุพันธุ์ มงคลสุธี ชู 5 ยุทธศาสตร์นำทัพ ส.อ.ท.

06 พฤษภาคม 2561

เวียนมาบรรจบครบวาระการแต่งตั้งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

โดย ดวงนภา ประเสริฐพงษ์

เวียนมาบรรจบครบวาระการแต่งตั้งประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คนใหม่อีกครั้ง เมื่อประธาน ส.อ.ท.คนก่อนดำรงตำแหน่งครบวาระ 2 ปี โดยเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาได้มีการเลือกตั้งภายในเกิดขึ้น ส่งผลให้ สุพันธุ์ มงคลสุธี ได้รับคะแนนเสียงโหวตจากสมาชิก ส.อ.ท.ชนะแบบลอยลำ และได้ขึ้นเป็นประธาน ส.อ.ท.คนใหม่ในสมัยที่ 2 จากที่ก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งประธาน ส.อ.ท.มาแล้ว ในวาระปี 2557-2559

“ตอนนี้ก็ต้องปรับตัวเยอะ เพราะวันนี้เทคโนโลยีภาคอุตสาหกรรมเปลี่ยนไป การบริโภคเปลี่ยน ฉะนั้นเราต้องเปลี่ยนตัวเราด้วย เพราะภาคอุตสาหกรรมจะมีปัญหามากถ้าเราไม่ปรับตัวเอง ทั้งด้านนวัตกรรม เรื่องของเทคโนโลยี เราเลยตั้งเป้าว่าวันนี้เราจะเป็น “อินดัสตรี ทรานส์ฟอร์เมชั่น” เป็นการเปลี่ยนที่ต้องปรับให้เข้ากับผู้บริโภคเร็วที่สุด ส.อ.ท.วันนี้ก็เข้มแข็ง เราก็อยากให้เข้มแข็งขึ้นไปอีกทั้งภาพลักษณ์ ทั้งวิธีการทำงานกับภายในและภายนอก ดังนั้นต้องทำให้ ส.อ.ท.เป็นที่ยอมรับ” สุพันธุ์ กล่าว

สุพันธุ์ มงคลสุธี ชู 5 ยุทธศาสตร์นำทัพ ส.อ.ท.

ในการเข้ามาเป็นประธานสมัยที่ 2 ทำให้เข้าใจถึงวิธีการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างดี ดังนั้นการวางเป้าหมายและการเดินไปให้ถึงจุดหมายเป็นสิ่งที่ต้องชัดเจน ขณะเดียวกันต้องประสานกับทีมงานให้เกิดความเข้าใจเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์
สำหรับยุทธศาสตร์สำคัญที่วางไว้มี 5 ด้าน ได้แก่ 1.เสริมสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายสภาอุตสาหกรรม โดยการทำงานร่วมกับทั้งภาครัฐบาล ภาคการศึกษา ตลอดจนภาคสังคมและประชาชน 2.เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยน การบริโภคเปลี่ยน มองว่าการเสริมสร้างขีดความสามารถการแข่งขันเป็นเรื่องใหญ่ ส.อ.ท.มีหน้าที่นำองค์ความรู้มาส่งต่อให้อุตสาหกรรมของไทย โดยร่วมกับภาครัฐหรือภาคการศึกษา ใช้กลไกการทำงาน 9 สถาบัน 10 สายงาน เครือข่าย 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และสภาอุตสาหกรรมทุกจังหวัดทั่วประเทศให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
3.ส่งเสริมสตาร์ทอัพ และยกระดับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ปัจจุบันทำงานใกล้ชิดรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ก็มองว่ามีอะไรที่ต้องทำร่วมกับเอสเอ็มอีอีกมาก โดยตั้งเป้าว่าควรทำงานในฟังก์ชั่นที่ชัดเจน เนื้องานไม่สะเปะสะปะ เช่น การทำงานกับศูนย์บ่มเพาะ ทำเรื่องนวัตกรรม ทำงานกับภาคการศึกษา การทำงานร่วมกับภาครัฐ เพราะภาครัฐมีเกือบทุกกระทรวงที่ทำงานกับเอสเอ็มอี ซึ่งจะผลักดันให้เอสเอ็มอีสมาชิก รวมทั้งเอสเอ็มอีภายนอกให้ได้ประโยชน์สูงสุด

สุพันธุ์ มงคลสุธี ชู 5 ยุทธศาสตร์นำทัพ ส.อ.ท.

4.สร้างธรรมาภิบาลความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการทำอุตสาหกรรมจะต้องทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วน เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าอย่างยั่งยืน และ 5.ยกระดับองค์กรและพัฒนาบุคลากรของ ส.อ.ท. โดยจะมีการประชุมร่วมกัน เพื่อกำหนดทิศทางการทำงาน และเกิดความตระหนักร่วมกันถึงวัตถุประสงค์การดำเนินงาน สอดคล้องกับการทำงานในยุคเปลี่ยนผ่านของภาคอุตสาหกรรม
“วันนี้เราเพิ่งฟอร์มทีมงานใหม่ ซึ่งก็มีการปรับเปลี่ยนพอสมควร เรามีการดึงเอกชนรายใหญ่เข้ามาทำงานเป็นรองประธาน เป็นประธานกลุ่ม หรือประธานสายงานมากขึ้น เพื่อต้องการสร้างโมเดลที่รายใหญ่จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือรายเล็ก สิ่งที่เราทำก็ต้องล้อไปกับงานของรัฐบาล สอดคล้องไปกับโครงการพี่ช่วยน้อง (บิ๊กบราเธอร์) ให้ได้” สุพันธุ์ เล่า
สุพันธุ์ ระบุว่า นอกจากการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ 5 ด้านแล้ว ส.อ.ท.ยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องทำให้แล้วเสร็จในช่วง 2 ปีที่ตนเข้ามาดำรงตำแหน่งด้วย ได้แก่ การปรับปรุง พ.ร.บ.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย การสร้างขีดความสามารถด้วยนวัตกรรมเพื่อให้สมาชิกมีความเข้มแข็ง การพัฒนารายได้เพื่อตอบโจทย์รัฐบาลในการก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง ตลอดจนการสร้างภาพลักษณ์ ส.อ.ท. ให้เป็นที่ยอมรับของสังคมต่อไปในระยะยาว 
Thailand Web Stat