‘วันชัย ถนอมศักดิ์’ หลวงปู่ทวดช่วยชีวิต
ชวนมาเลาะเลียบศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ย่านเสาชิงช้า แต่ไม่ได้พาไปชิมไปไหว้พระ
โดย เอกชัย จั่นทอง ภาพ : วิศิษฐ์ แถมเงิน
ชวนมาเลาะเลียบศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ย่านเสาชิงช้า แต่ไม่ได้พาไปชิมไปไหว้พระ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดกันไปนะท่านผู้อ่าน วันนี้จะพาไปส่องพระของรักของหวง ที่ต้องการันตีบอกกันตรงนี้เลยว่าบุคคลเจ้าของพระเครื่องไม่เคยเปิดให้ใครชมมาก่อนเลย ไม่รอช้าขอไปเปิดอกหยิบแว่นขยายไปส่องพระของ “เอราวัณ 3” วันชัย ถนอมศักดิ์ หรือพี่แขก รองปลัดกรุงเทพมหานคร ที่เรียกว่าจัดเต็มและหวงมากที่สุด
ก่อนจะไปชมพระเครื่อง เรามาทำความรู้จักผู้ชายคนนี้กันก่อน “พี่แขก” เป็นคน อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช รับราชการครั้งแรกปี 2525 ตำแหน่งนิติกรกองรายได้ ของกรุงเทพฯ ถัดมาปี 2535 หัวหน้าฝ่ายปกครอง สนง.เขตตลิ่งชัน ปี 2537 หัวหน้าฝ่ายทะเบียน สนง.เขตมีนบุรี ปี 2539 หัวหน้าห้องนายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าฯ กทม. ถัดมาปี 2542 เป็นผู้ตรวจ 8 ปี 2548ผู้อำนวยการ สนง.เขตคลองเตย ปี 2549 ผู้อำนวยการ สนง.บางคอแหลม ปี 2558 ผู้อำนวยการสำนักผังเมืองฯ ปี 2560 ขยับนั่ง รองปลัด กทม. จนถึงปัจจุบัน
ไม่รอช้า รองปลัด กทม.หยิบสร้อยพระให้ชมก่อนบอกว่า พระเครื่องที่สวมคล้องคอประจำนั้น องค์แรกหลวงปู่ทวด รุ่นหลังเตารีด วัดช้างให้ 2.ชานหมาก หลวงพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน และ 3.สมเด็จโต วัดระฆัง ปี 2411 สมัยรัชกาลที่ 5 ทุกวันนี้แขวนติดตัว
อยู่เสมอ และไม่เคยให้ใครดูเลย เป็นครั้งแรกที่ให้ดูแบบนี้
สำหรับหลวงปู่ทวด ได้รับจากคุณพ่อ หลังตัดสินใจเดินทางออกจากบ้านปี 2517 เข้ามาผจญชีวิตเรียนต่อที่โรงเรียนวัดราชาฯ ในกรุงเทพฯ “พ่อเตือนเสมอก่อนนำพระสวมคอให้ตั้งนะโม 3 จบ แล้วตั้งใจถือศีล 1 ข้อ พระพุทธคุณจึงคุ้มครองตัวเรา ถ้าเราไม่มีศีลพระท่านก็ไม่คุ้มครอง ผมเลือกถือศีลการไม่โกหก ไม่พูดเท็จ ซื่อสัตย์สุจริต จริงใจ ไม่นินทาใคร เชื่อว่าจะไม่ทำให้เกิดเรื่องกับใคร”
กระทั่งมีโอกาสกลับบ้านเกิด บอกกับพ่อว่าเราถือศีลไม่โกหกตามที่พ่อให้เลือกปฏิบัติศีลข้อใดข้อหนึ่ง จากนั้นคุณพ่อให้ชานหมากหลวงพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ไว้ติดตัว เพราะเราเลือกถือศีลปฏิบัติด้วยการไม่โกหก ไม่พูดเท็จ ส่วนพระสมเด็จโต ได้จากชาวบ้านที่ให้มาแทนคำขอบคุณ
วันชัย ยังเล่าเสริมว่า สมัยเรียนนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง มีโอกาสลงไปช่วยเหลือประชาชนในต่างจังหวัด ช่วยไกล่เกลี่ยคดีความหลายคดีจนสำเร็จ ชาวบ้านจึงลงขันกันนำเงินมาให้ แต่เข้าใจว่าชาวบ้านเดือดร้อนอยู่แล้วจึงตอบปฏิเสธไปตลอด สุดท้ายชาวบ้านนำพระมาให้เป็นของขวัญแทนคำขอบคุณ จนมีพระสะสมเรื่อยมาจำนวนมากตั้งแต่ยังเรียน
นอกจากนี้ วันชัย ยังเคยรอดตายมาแล้ว สมัยเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหง เรื่องการเก็บค่าคุ้มครองแบ่งเป็นก๊กก๊วนชัดเจนว่าใครเก็บตรงจุดไหน วันชัยเก็บอยู่พักหนึ่งก่อนตัดสินใจเลิก กระทั่งวันหนึ่งจะไปห้องสมุดในมหาวิทยาลัยฯ เพื่ออ่านหนังสือ กลุ่มอื่นที่เก็บเงินค่าคุ้มครองคิดว่าเราจะไปเก็บเงินตรงนั้น กระทั่งตกค่ำถูกดักตีจนสลบ ตอนนั้นกำหลวงปู่ทวดองค์นี้ไว้ในมือ จนฟื้นตื่นปรากฏพระหาย
“ต่อมาพยายามนึกว่าพระหายไปไหน จึงท่องนะโม 3 จบ นึกถึงพระท่าน คิดในใจว่าถ้าเป็นของเรา และเราเป็นคนดีขอให้เจอพระองค์นี้ ไปหาบริเวณด้านหลังป้ายชื่อมหาวิทยาลัยฯ ปรากฏว่าเจอหลวงปู่ทวดอยู่ใต้เท้าเราจุดเดียวกันกับที่ถูกตี ตรงนี้ถือว่าคนพลุกพล่านมาก ถือว่าโชคดีที่เจอพระ เชื่อว่าพุทธคุณของหลวงปู่ทวดคุ้มครองเราให้ปลอดภัย”
วันชัย ยังให้แง่คิดว่า คนที่นับถือและสวมใส่พระ บูชาพระ น่าจะมีแนวความคิดตามหลักศาสนาพุทธ ที่เป็นองค์แทนพระพุทธเจ้า แทนพระรัตนตรัย ที่สั่งสอนแต่ความดี ดังนั้นถ้าทำดีปฏิบัติดีตามหลักศาสนา คิดว่า พระที่สวมใส่จะคุ้มครองเรา โดยเฉพาะคำพูดจะเป็นเกราะป้องกันตัวดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยึดถือปฏิบัติมาตลอดและบริหารหลักในการทำงานคือ สัจจะ ความอดทนประหยัด ซื่อสัตย์ ทั้ง 4 ข้อนี้ จะเป็นเครื่องป้องกันตัวเองได้ดีที่สุด