posttoday

ซื้อข้าวราคานำตลาด ผู้ส่งออกจูงใจชาวนาปลูกพันธุ์พื้นนิ่ม ตั้งเป้าเพิ่มผลผลิตแข่งเวียดนาม

29 พฤษภาคม 2561

ผู้ส่งออกข้าวหนุนชาวนาปลูกข้าวขาวพื้นนิ่มสู้เวียดนาม นำร่อง 8 จังหวัดภาคกลาง 1 หมื่นไร่ ตั้งเป้ารับซื้อราคานำตลาด

ผู้ส่งออกข้าวหนุนชาวนาปลูกข้าวขาวพื้นนิ่มสู้เวียดนาม นำร่อง 8 จังหวัดภาคกลาง 1 หมื่นไร่ ตั้งเป้ารับซื้อราคานำตลาด

นายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยใน งานสัมมนาครบรอบ 100 ปี สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยว่า ปีนี้สมาคมมีแผนจะทำงานร่วมกับกรมการค้าภายใน จัดทำโครงการพลังประชารัฐพัฒนาข้าวไทย โดยเดือน มิ.ย. 2561 จะลงพื้นที่สำรวจ 8 จังหวัดในภาคกลาง เช่น จ.สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม เป็นต้น เพื่อเป็นจังหวัดนำร่องปลูกข้าวขาวพื้นนิ่ม เช่น พันธุ์พิษณุโลก 80 พันธุ์ กข 21 พันธุ์ กข 71 และพันธุ์ กข 77 ซึ่งจะเริ่มปลูกในปีการผลิตข้าวเปลือกนาปรัง ฤดูกาล 2561 พื้นที่ประมาณ 1 หมื่นไร่

ทั้งนี้ สมาคมจะส่งเสริมและสนับสนุนปัจจัยการผลิตให้กับเกษตรกร พร้อมทั้งรับ ซื้อข้าวในราคาประมาณตันละ 9,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาดข้าวเจ้าเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 8,000-8,500 บาท หรือสูงกว่าราคาตลาดประมาณตันละ 500 บาท เพื่อนำไปปรับปรุงส่งออก โดยราคาส่งออกข้าวพื้นนิ่มจะสูงกว่าข้าวขาวปกติ (ข้าวพื้นแข็ง) ประมาณตันละ 60-150 ดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบันราคาส่งออกข้าวขาว 5% ของไทยอยู่ที่ตันละ 460 ดอลลาร์ ขณะที่ข้าวขาวพื้นนิ่มจากเวียดนามพันธุ์ 5414 ส่งออกประมาณตันละ 500 ดอลลาร์ ข้าวพันธุ์ ST 5 ส่งออกตันละ 550 ดอลลาร์ เป็นต้น

"ข้าวชนิดนี้เป็นที่นิยมมากในตลาดจีนมาก โดยจีนมีความต้องการประมาณปีละ 7-8 ล้านตัน แต่ไทยไม่เคยมีการปลูก ทำให้เวียดนามได้เปรียบส่งออกข้าวชนิดนี้ เพราะเวียดนามหันมาส่งเสริมการปลูกเนื่องจากได้ราคาดี ดังนั้น ต่อไปไทยควรเร่งพัฒนาพันธุ์ เพื่อขยายตลาดส่งออกข้าวไปยังกลุ่มข้าวพื้นนิ่ม" นายเจริญ กล่าว

สำหรับทิศทางการส่งออกข้าวปี 2561 คาดว่าไทยจะส่งออกข้าวได้ตามเป้าหมาย 10 ล้านตัน โดยในช่วง 5 เดือนแรก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-15 พ.ค. 2561 ไทยส่งออกข้าวได้แล้ว 4.21 ล้านตัน เป็นอันดับสองรองจากอินเดียที่ส่งออกได้ 4.77 ล้านตัน ส่วนราคาข้าวขณะนี้ถือว่าปรับตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิอยู่ที่ตันละ 1,250 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับใกล้เคียงกับปี 2551 ที่ราคาส่งออกข้าวหอมมะลิเคยขึ้นไปสูงเฉลี่ยตันละ 1,200 ดอลลาร์ คิดเป็นราคาข้าวเปลือก 1.7-1.8 หมื่นบาท ใกล้เคียงราคาข้าวเปลือกในช่วงที่มีโครงการรับจำนำข้าว เพราะความต้องการข้าวในตลาดโลกมีมาก ขณะที่ผลผลิตมีน้อยลง

"มีโอกาสเห็นราคาส่งออกข้าวหอมมะลิถึงตันละ 1,300 ดอลลาร์ ในช่วงสั้นๆ 2-3 เดือนนี้ เพราะตลาดต่างประเทศยังมีความต้องการสูง และผลผลิตน้อย ส่วนข้าวขาวถือว่าปรับตัวสูงขึ้นมาแล้ว ขณะที่ปัญหาต้นทุนราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น กระทบเพียงเล็กน้อยยังไม่จำเป็นต้องปรับราคา" นายเจริญ กล่าว

อย่างไรก็ตาม มีความเป็นห่วงปัญหาค่าเงินบาทไม่มีเสถียรภาพ เพราะค่าเงินบาทเป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อการส่งออกข้าวไทย ถ้าเงินบาทแข็งจะทำให้ราคาสูงขึ้น การแข่งขันยาก โดยอัตราที่เหมาะสม ควรอยู่ที่ 33 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งขณะนี้ค่าเงินบาทอยู่ 31.75  บาท/ดอลลาร์