เปิดแผนพัฒนาพะเยา โลจิสติกส์ล้านนาตะวันออก

โดย อักษรา ปิ่นนราสกุล 

แม้ จ.เชียงราย จะเป็นพื้นที่หลักของการพัฒนาเมืองเศรษฐกิจชายแดนด้วยการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ แต่ จ.พะเยา ซึ่งอยู่ติดกันก็พลอยได้อานิสงส์สำคัญจากเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ที่เตรียมจะดำเนินการไปด้วย โดยเฉพาะโครงการสำคัญ คือ รถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ

คงศักดิ์ ธรานิศร ประธานหอการค้าจังหวัดพะเยา ในฐานะคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) ของ จ.พะเยา ได้เปิดเผยถึงแนวทางที่เตรียมจะพัฒนาต่อยอดจากโครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้นว่า ขณะนี้ จ.พะเยา อยู่ในห้วงเวลาที่สำคัญ ในการผลักดันต่อยอดการพัฒนาเศรษฐกิจของพื้นที่ เพื่อให้มีความเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น หลังจากที่การเคลื่อนไหวในส่วนของภาครัฐเริ่มส่งสัญญาณในทางบวก โดยเฉพาะการที่มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการอนุมัติเรื่องสำคัญถึงสองเรื่องในคราวเดียวกัน ได้แก่ การยกระดับจุดผ่อนปรนชั่วคราวบ้านฮวก ให้เป็นจุดผ่านแดน
ถาวร และกรณีของการสร้างรถไฟทางคู่ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของซึ่งก็เป็นเส้นทางที่ผ่านตัว จ.พะเยา ด้วยเช่นกัน

คงศักดิ์ กล่าวว่า ภาคเอกชนโดยหอการค้าจังหวัดพะเยา ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดพะเยา สมาคมพะเยา YEC บริษัท ประชารัฐพะเยา ชมรมธนาคาร สมาพันธ์เอสเอ็มไทยจังหวัดพะเยา ได้เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เพื่อรับฟังแนวทางและยุทธศาสตร์ของทางภาครัฐ ด้วยการหาจุดร่วม เพื่อทั้งภาครัฐและเอกชนได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดไปพร้อมๆ กัน

“จากการหารือร่วมกัน ได้มีการพูดถึงการผลักดันเส้นทางโลจิสติกส์สายล้านนาตะวันออก เชียงของ เทิง เชียงคำ จุน ปง เชียงม่วน สอง แพร่อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพื่อให้เป็นเส้นทางขนส่งสายใหม่ ในการขนส่งสินค้า ทั้งขาเข้าและขาออก จากการเชื่อมโยงเส้นทางกับประเทศเพื่อนบ้าน ในส่วนของถนนสายเอเชียเดิม ก็จะเป็นเส้นทางเพื่อการเดินทางและการท่องเที่ยว”

ประธานหอการค้าจังหวัดพะเยา กล่าวว่า จุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก ตรงข้ามกับแขวงไชยบุรี ประเทศลาว ทางภาครัฐและเอกชนเห็นพ้องกันว่า เป็นโอกาสของ จ.พะเยา ในการเชื่อมสู่ประเทศเพื่อนบ้าน การเดินทางสามารถไปถึงเมืองต่างๆ ของประเทศลาวได้อย่างสะดวก โดยเฉพาะเมืองมรดกโลกหลวงพระบาง รวมถึงเส้นทางที่จะผ่านไปยังชายแดนเดียนเบียนฟู ชายแดนระหว่างลาวกับเวียดนาม

ทั้งนี้ จากด่านบ้านฮวก เข้าสู่เมืองคอบ เมืองเงิน แขวงไซยะบูลี จากนั้นข้ามสะพานข้ามแม่น้ำโขงเข้าสู่เมืองปากแบ่ง แขวงอุดมไซย มุ่งตรงสู่เมืองไชย จากนั้นไปตามเส้นทางหมายเลข 13 ซึ่งจะไปเชื่อมกันกับถนนสาย R3A ที่แยกนาเตย เขตแขวงหลวงน้ำทา ระยะทางประมาณ 300 กม. โดยจุดนี้ทางหนึ่งไปยังสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 แขวงบ่อแก้ว และเข้าสู่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ของไทย ระยะทางอีกประมาณ 200 กม. กับอีกด้านหนึ่งก็จะเข้าสู่แขวงหลวงน้ำทา และไปยังด่านบ่อเต็นชายแดนลาว-จีน และเส้นทาง R3A จากด่านบ่อเต็น ก็จะเชื่อมต่อไปถึงจิ่งหง ศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางแม่น้ำโขง และเมืองคุนหมิง ศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนตอนใต้

ระยะทางจากด่านบ้านฮวกจนถึงด่านบ่อเต็นประมาณ 350 กม. หากข้ามแดนต่อไปยังจิ่งหง ก็มีระยะทางอีกประมาณ 200 กม. และจากจิ่งหงต่อไปยังคุนหมิงระยะทางอีกประมาณ 400 กม. รวมระยะทางจากบ้านฮวกถึงคุนหมิง ประมาณ 800 กม.หรือจากด่านบ้านฮวกไปถึงเมืองมรดกโลกหลวงพระบางก็จะมีระยะทางประมาณ 400 กม.

“ในเวลานี้เป็นห้วงเวลาประวัติศาสตร์ ที่จะมียุทธศาสตร์ใหม่ๆ ซึ่งจะทำให้ จ.พะเยา เปลี่ยนไปจากเดิมอีกขั้นหนึ่ง นับจากปี 2520 อ.พะเยา ได้เปลี่ยนเป็น จ.พะเยา ในปี 2542 พะเยามีวิทยาเขตสารสนเทศพะเยา มหาวิทยาลัยนเรศวร ในปี 2553 ได้เปลี่ยนเป็น ‘มหาวิทยาลัยพะเยา’ และปีนี้ ปี 2561 จุดผ่อนปรนชั่วคราวบ้านฮวก ได้ยกระดับเป็นจุดผ่านแดนถาวรหรือด่านสากล ซึ่งก็จะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ จ.พะเยา เลยทีเดียว” คงศักดิ์ กล่าว

นี่คือยุทธศาสตร์ที่น่าจับตา หากทุกฝ่ายร่วมกันเดินหน้าให้เกิดขึ้นจริงก็จะถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของ จ.พะเยา เลยทีเดียว