มีสไตล์ การาจ กรุงเทพฯ กล้าแปลก แหวกขนบเดิม

 

สี่แยกห้วยขวางไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป กับการเกิดขึ้นใหม่ของโรงแรม มีสไตล์ การาจ กรุงเทพฯ บูติกอาร์ติสต์โฮเทลที่จะพาไปสัมผัสมิติใหม่ของการออกแบบ

 

ด้วยคอนเซ็ปต์ “การาจ ฟังก์กี้” (Garage Funky) ที่ได้นำชิ้นส่วนยานพาหนะมาสร้างสรรค์เป็นงานชิ้นแปลก ตกแต่งให้โรงแรมกลายเป็นพื้นที่ระเบิดไอเดียและกล้าขบถจากขนบเดิมๆ

 

คำว่า ฟังก์กี้ หมายถึง ความแปลก นอกกรอบ แหวกกฎประเพณี เหมือนคนที่แต่งตัวฮิปปี้ต่างจากคนทั่วไป มารวมกับคำว่า การาจ แปลว่า โรงรถหรืออู่ซ่อมเครื่องยนต์

 

สถาปนิก กิติศักดิ์ สุธรรมโชติ ได้นำอะไหล่ของรถยนต์ รถบรรทุก มอเตอร์ไซค์ เรือ ไปจนถึงเครื่องบิน ซึ่งเป็นของสะสมของเจ้าของมาดีไซน์ให้เป็นของตกแต่งชิ้นเก๋ สร้างบรรยากาศความดิบแต่สนุกสนานไปพร้อมกัน

 

โรงแรมให้บริการห้องพัก 75 ห้อง เริ่มต้นที่ห้องสแตนดาร์ด ขนาด 22 ตร.ม. เก๋ไก๋ตรงชิ้นงานศิลปะจากอะไหล่รถบนหัวเตียง ห้องน้ำทรงโค้ง และการออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่สามารถใส่เก้าอี้นั่งเล่น โต๊ะทำงาน และมินิบาร์เข้าไปได้อย่างไม่อึดอัด

 

ถัดมาคือ ห้องสแตนดาร์ดบัลโคนี ห้องกว้างขึ้นเป็น 30 ตร.ม. ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น ห้องน้ำกว้างขึ้น และมีระเบียงส่วนตัว รวมถึงห้องสำหรับ 3 คน ประกอบด้วย 1 เตียงใหญ่ และอีก 1 เตียงเล็กสำหรับกลุ่มเพื่อนและครอบครัว

 

นอกจากห้องพักปกติแล้ว ทางโรงแรมยังมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ไม่เหมือนใคร ด้วยธีมห้องพักพิเศษเรียกว่า ห้องเอ็กซ์พีเรียน จำนวน 6 ห้อง 6 สไตล์ ได้แก่ ห้องซาฟารี พาเข้าไปสู่โลกแห่งพงไพรและสิงสาราสัตว์ ให้อารมณ์เหมือนกำลังเดินเข้าสู่ป่าลึกที่มีทั้งเสือ ยีราฟ ม้าลาย ช้าง และกวาง

 

 

ห้องคาซาโนวา พาไปสัมผัสห้วงอารมณ์ของหนุ่มเจ้าสำราญ ในบรรยากาศหรูหราจากรถคลาสสิก งานศิลปะ และสาวงาม

 

ห้องดีปโอเชี่ยน ดำดิ่งสู่โลกใต้ทะเลลึก ด้วยรูปวาดของสัตว์ทะเลที่สามารถเรืองแสงได้ ให้ความรู้สึกราวกับว่าสัตว์เหล่านั้นกำลังแหวกว่ายอยู่จริง

 

ห้องการาจ หรือห้องนายช่างใหญ่ที่หลงใหลเครื่องยนต์กลไก ภายในห้องจึงตกแต่งด้วยชิ้นส่วนรถยนต์และอุปกรณ์ซ่อมบำรุงดีไซน์เก๋

 

ห้องเดอะสไปรัล หรือห้องแห่งเกลียวลวด ชิ้นส่วนสำคัญที่สอดแทรกอยู่ในส่วนต่างๆ ของรถยนต์ จึงได้นำรูปแบบของส่วนประกอบนี้มาใช้เป็นธีมในการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นเกลียวลวดที่ดูแข็งแรง สปริงที่ดูยืดหยุ่น ภาพวาดลายเส้นเกลียว ไปจนถึงตัวคาแรกเตอร์มิชลิน

 

และปิดท้ายที่ ห้องอินทูเดอะวูด อีกหนึ่งความชอบของเจ้าของนั่นคือ ไม้ จึงนำมาใช้เป็นส่วนประกอบหลักในการตกแต่งให้เหมือนป่าหลังบ้าน โดยไม้ทุกชิ้นเป็นไม้จริงที่เจ้าของได้เก็บสะสมไว้ให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติแม้อยู่บนตึกสูง

 

ส่วนห้องอาหารต้องไม่พลาดเมนูไฮไลต์อย่างลาบเบอร์เกอร์ และบีฟแอนด์เบียร์เบอร์เกอร์ สำหรับสายชิลทางโรงแรมมีบาร์ให้บริการที่ชั้น 2 และบนดาดฟ้า ซึ่งที่นี่จะกลายเป็นแหล่งแฮงเอาต์และจุดนัดพบแห่งใหม่ที่แตกต่างทั้งดีไซน์และทิวทัศน์เหนือฟ้าใจกลางเมือง

 

โรงแรม มีสไตล์ การาจ กรุงเทพฯ มีจุดเด่นตรงความแตกต่าง โดยใช้ความหลงใหลในสิ่งที่รักเป็นแรงผลักดันให้เกิดเป็นผลงานศิลปะทั่วโรงแรม กลายเป็นที่พักมีสไตล์ใจกลางกรุงเทพฯ และ Me Style เป็นของตัวเองสำหรับคนมีสไตล์