ย้อนเวลาสุสานจิ๋นซีในวันหยุดยาววันชาติจีน
ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงวันหยุดยาววันชาติจีน ที่ทางการจีนให้ประชาชนจีนหยุดยาวตั้งแต่วันที่1-7 ต.ค.
โดย ภากร กัทชลี เจ้าของเพจ ‘อ้ายจงเล่าจีน’ นักศึกษาปริญญาเอก สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยซีเตี้ยน มณฑลส่านซี
ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงวันหยุดยาววันชาติจีน ที่ทางการจีนให้ประชาชนจีนหยุดยาวตั้งแต่วันที่1-7 ต.ค. เป็นระยะเวลา 7 วันเต็ม ทำให้คนจีนพากันเดินทางกลับบ้านเกิด และเที่ยวในที่ต่างๆ ไม่ว่าจะนอกประเทศหรือในจีนเอง ทำให้ช่วงนี้ตามสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจีนจะเต็มไปด้วยผู้คน
จนมีคำกล่าวว่า เที่ยวในช่วงวันหยุดยาวของจีนก็เหมือนกับไปดูคนมากกว่าดูสถานที่ท่องเที่ยว แต่ถึงรู้อย่างนี้คนจีนก็ยังออกมาเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวจำนวนมาก เพราะคนเต็มไปหมดก็ถือเป็นสีสันอย่างหนึ่งของวันหยุดและคนจีนเองทำงานค่อนข้างหนัก หาเวลาหยุดยาวเพื่อเที่ยวผ่อนคลายค่อนข้างยาก ดังนั้นพอมีโอกาสหยุดยาวก็ใช้เวลาอย่างเต็มที่
เมื่อกล่าวถึงสถานที่ท่องเที่ยวในจีน ผู้เขียนขอถือโอกาสเล่าถึง “สุสานจักรพรรดิจิ๋นซี” หรือ สุสานทหารม้าดินเผาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ที่ทำสถิติ 3 วันแรกของวันหยุดยาววันชาติจีนปีนี้ มีผู้คนไปเข้าชมกว่า 1 แสนคน
ว่าแต่ผู้อ่านรู้หรือไม่ครับ ว่าแท้จริงแล้ว สุสานจักรพรรดิจิ๋นซี คือสถานที่ใดกันแน่ ทำไมถึงมีความสำคัญกับจีนเป็นอย่างมาก?
จักรพรรดิจิ๋นซี เป็นจักรพรรดิจีนพระองค์หนึ่งที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของจีน เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่เคยได้ยินชื่อจักรพรรดิจิ๋นซีเช่นกัน แต่หากพูดคุยกับคนจีน หรือไปเมืองจีน แล้วเอ่ยคำว่า จิ๋นซี คนจีนไม่รู้เรื่องอย่างแน่นอน เพราะจิ๋นซี เป็นภาษาจีนสำเนียงแต้จิ๋ว ในภาษาจีนกลาง เรียกพระนามของพระองค์ว่า ฉินสื่อหวง
โดยพระองค์ทรงสั่งให้สร้างสุสานของพระองค์เอาไว้ ก่อนที่พระองค์เสด็จสวรรคต ซึ่งกลายมาเป็นมรดกโลกและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจีน ในนาม สุสานจักรพรรดิจิ๋นซี และถ้าจะเรียกให้ถูกต้องตามภาษาจีน (กลาง) ต้องเรียกว่า สุสานฉินสื่อหวง ตามพระนามในภาษาจีนกลางของพระองค์
จิ๋นซีฮ่องเต้คือใคร
จิ๋นซีฮ่องเต้ หรือจักรพรรดิฉินสื่อหวง มีพระนามเดิมว่า อิ้งเจิ้ง อ๋องแห่งแคว้นฉิน ซึ่งในสมัยของพระองค์นั้น แผ่นดินจีน ไม่ได้รวมเป็นปึกแผ่น มีการแบ่งออกเป็นแคว้นต่างๆ หลายแคว้น รวมถึงแคว้นฉิน พระองค์จึงดำริรวบรวมแคว้นต่างๆ เข้าเป็นแผ่นดินเดียวกัน พระองค์จึงสร้างกองกำลังที่เข้มแข็งและเข้มงวดในการฝึกปรืออย่างมาก ทำให้สามารถรบชนะแคว้นอื่นๆ ได้ทั้งหมด และรวบรวมเป็นแผ่นดินเดียวกัน พร้อมทั้งสถาปนาราชวงศ์ฉิน ปกครองแผ่นดินจีนทั้งหมดได้สำเร็จ
จิ๋นซีฮ่องเต้ ยังเป็นจักรพรรดิที่สร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่น่าจดจำไว้บนแผ่นดินจีนอย่างมากมาย เช่น กำแพงเมืองจีน ที่พระองค์ทรงดำริให้สร้างขึ้น เพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรูภายนอก และสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ สุสานที่พระองค์ทรงดำริให้สร้างขึ้นไว้ก่อนที่พระองค์จะเสด็จสวรรคต นอกจากนี้ ยังวางรากฐานการเขียนอักษรจีน ระบบชั่งตวงวัด สกุลเงินตรา ล้วนแต่เป็นสิ่งสำคัญของจีนในเวลาต่อมา
แม้ว่า จิ๋นซีฮ่องเต้ จะเป็นผู้ที่ทำให้แผ่นดินจีนเป็นปึกแผ่น และสร้างประโยชน์ให้กับแผ่นดินจีนอย่างมากมาย แต่พระองค์ถูกประณามว่า เป็นจักรพรรดิที่เหี้ยมโหด และเป็นทรราชผู้หนึ่งของโลก
เนื่องจากในการรบเพื่อรวบรวมแผ่นดินจีน พระองค์ทรงเผาทำลายเมือง ทำลายหนังสือ และฆ่าบัณฑิต นักปราชญ์ ขุนนางและเจ้าเมืองของแคว้นต่างๆ เพื่อทำลายวัฒนธรรม การเมือง ภาษา และความคิดของแคว้นนั้น โดยพระองค์ทรงให้เหตุผลของการทำลายแคว้นต่างๆ ว่า หากต้องการรวบรวมแผ่นดินจีนเข้าเป็นหนึ่งเดียว จึงไม่สมควรให้แคว้นต่างๆ มีวัฒนธรรม ภาษา รูปแบบการเมืองการปกครองและแนวความคิดที่แตกต่างกัน ทุกสิ่งต้องเป็นหนึ่งเดียว
จิ๋นซีฮ่องเต้ เสด็จสวรรคตเมื่อมีพระชนมายุประมาณ 50 พรรษา สันนิษฐานว่าสวรรคตในวันที่ 10 ก.ย. 210 ปีก่อนคริสตกาล เนื่องจากโรคร้ายแรง หรือบางตำนานกล่าวว่า เกิดจากที่พระองค์ทรงเสวยยาที่มีสารปรอท เพราะเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ
ภายในสุสานมีอะไรบ้าง และจำนวนเท่าไหร่
ปัจจุบันรัฐบาลจีนขุดค้นพบสุสานจิ๋นซี แบ่งเป็น 3 หลุม ได้แก่ หลุมหมายเลข 1 หลุมหมายเลข 2 และหลุมหมายเลข 3 โดยหลุมหมายเลข 1 เป็นหลุมที่มีขนาดใหญ่และค้นพบวัตถุโบราณมากที่สุด
จากหลุมที่ค้นพบสุสานจิ๋นซีทั้ง 3 หลุม สรุปได้ว่า ค้นพบวัตถุโบราณที่เป็นกองทัพทหารดินเผา สรรพาวุธ รถม้าและม้าศึก จำนวนทั้งสิ้นกว่า 7,400 ชิ้น รวมพื้นที่ทั้ง 3 หลุม กว่า 2.5 หมื่นตารางเมตร
มีการคาดคะเนว่าอาณาเขตของสุสานจักรพรรดิจิ๋นซี มีพื้นที่มากกว่า 2,180 ตารางกิโลเมตร จากความยิ่งใหญ่ของสุสานแห่งนี้จึงทำให้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในปี 2530 (ค.ศ. 1987)
ทำไมถึงต้องมีสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้
เนื่องจากพระองค์มีความเชื่อในโลกหน้าและชีวิตอันเป็นนิรันดร์ พระองค์จึงต้องการให้สุสานของพระองค์ มีพระราชวัง กองทัพ ข้าราชบริพาร ยานพาหนะ ช้างม้าวัวควาย เหมือนกับเวลาที่พระองค์ยังคงมีชีวิตอยู่เพื่อไปรับใช้พระองค์