เปิดตัวโครงการ The Estelle สุขุมวิท 26
พบกับคอนโดมิเนียมระดับ Ultimate Luxury ท่ามกลางแสงสีและแฟชั่นนำเทรนด์ใจกลางย่านสุขุมวิท The Estelle Phrom Phong โครงการคอนโดมิเนียมล่าสุดจากการร่วมลงทุนระหว่าง Raimon Land Plc
พบกับคอนโดมิเนียมระดับ Ultimate Luxury ท่ามกลางแสงสีและแฟชั่นนำเทรนด์ใจกลางย่านสุขุมวิท The Estelle Phrom Phong โครงการคอนโดมิเนียมล่าสุดจากการร่วมลงทุนระหว่าง Raimon Land Plc ผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมียมแห่งประเทศไทย และ Tokyo Tatemono เจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาริมทรัพย์กว่าร้อยปีที่ประเทศญี่ปุ่น
การร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้ นับเป็นการพลิกวงการอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากทั้งทาง Tokyo Tatemono และ Raimon Land ต่างไม่ได้เน้นเรื่องผลกำไรเป็นที่ตั้ง Tokyo Tatemono เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในด้านพัฒนาอสังหาฯ โดยมีแรงบันดาลใจมาจากความต้องการที่จะยกระดับความเป็นอยู่ของสังคมด้วยการเติมเต็มความฝันของผู้คนด้วยการสรรค์สร้างพื้นที่พักอาศัยที่เปี่ยมด้วยความสงบสุข ซึ่งสอดคล้องกับอุดมการณ์ของ Raimon Land ที่ต้องการสร้างชีวิตที่ดีขึ้น
The Estelle Phrom Phong จึงได้รับการออกแบบเพื่อดึงจุดเด่นของตัวอาคารที่แบ่งออกเป็นสัดส่วนสำหรับการใช้งานได้อย่างเต็มพื้นที่ บนทำเลกว่า 3,188 ตร.ม. และตั้งอยู่บนที่จอดรถทั้ง 7 ชั้น
ในส่วนของอาคารที่พักอาศัย 37 ชั้น ประกอบไปด้วย 157 ยูนิต โดยมีให้เลือกตั้งแต่ 1-4 ห้องนอนบนพื้นที่ที่แบ่งไว้ทั้ง 4 ส่วน ซึ่งความสูงของเพดานในห้องแต่ละประเภทจะแตกต่างกันไปตั้งแต่ 3.15 เมตรจนไปถึง 6 เมตรสำหรับห้องประเภท Duplex
พื้นที่ทั้ง 4 ในส่วน จะมีการจัดสรรจำนวนยูนิตเพียง 2 ยูนิตต่อชั้น โดยมีลิฟต์ส่วนตัวที่สามารถเข้าไปยังที่พักอาศัยได้โดยตรง ซึ่งยูนิตในส่วนหน้าและส่วนหลังของพื้นที่จะเป็นห้องพักระดับพรีเมียมที่สามารถมองเห็นวิวได้ดีที่สุดของตัวอาคาร สำหรับยูนิตที่ตั้งอยู่บริเวณส่วนกลางของอาคารบริเวณทางเดินที่หันไปทางทิศเหนือและใต้ของคอนโดมิเนียม จะเปิดรับวิวได้บางส่วนผ่านดีไซน์ของ façade ที่ตั้งใจออกแบบมาเพื่อปกคลุมทั้งตัวอาคาร ให้ดูสะอาดและเรียบหรูซึ่งเป็นจุดเด่นของ The Estelle Phrom Phong
พื้นที่ในส่วนกลางได้รับการออกแบบเพื่อสร้างความสงบในพื้นที่ หลีกหนีความวุ่นวายของบรรยากาศเมืองที่รายล้อมตัวอาคาร พื้นที่สีเขียวได้รับการประดับประดาบนผนังอาคารด้วยพันธุ์ไม้เขียวชอุ่มหลากหลายชนิด เน้นการดีไซน์ที่สร้างบรรยากาศจากภายนอกสู่ภายใน ด้วยการสร้างสรรค์องค์ประกอบในสัดส่วนเสมือนจริง ที่ผู้พักอาศัยสามารถเข้าถึง และช่วยส่งผ่านความรู้สึกจากถนนด้านนอกไปสู่ลิฟต์ ไม่ว่าจะเป็นบ่อน้ำสไตล์ญี่ปุ่น กระเบื้องปูทางที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ที่เข้ากันได้ดีกับพืชพันธุ์สไตล์ญี่ปุ่น และส่วนพื้นที่ทางเดินที่สร้างบรรยากาศที่สงบไปจนถึงชั้นต่างๆ ด้านบน ที่มีการดีไซน์ใน ทิศทางเดียวกัน ซึ่งรวมไปถึงบริเวณพื้นที่ของสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ส่วนกลาง พื้นที่ดาดฟ้า และ Sky Gym ในชั้น 27 ที่ผู้พักอาศัยสามารถเปิดรับวิวขอบฟ้าท่ามกลางความร่มรื่นของเงาไม้
ดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนใคร
งานดีไซน์ในส่วนของสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน และภูมิทัศน์ ของ The Estelle เป็นการออกแบบที่ต้องการพรีเซนต์ภาพรวมในทิศทางเดียวกันแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแต่ส่วน เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่แตกต่างในขณะที่มีองค์รวมร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้
ในส่วนของการออกแบบตกแต่งภายในของห้องนอน SCDA Interior ได้พัฒนางานดีไซน์ไปใน 2 ทิศทางเพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง
"Urban Retreat" โดดเด่นด้วยงานดีไซน์เรียบหรู และร่วมสมัย เพื่อมอบบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสงบภายในห้องพัก พร้อมเฟอร์นิเจอร์ และรายละเอียดการตกแต่งที่เหนือระดับ ในโทนสีอ่อน อบอุ่น ประดับตกแต่งด้วยวัสดุจากธรรมชาติวางทับซ้อนอย่างมีสไตล์ ช่วยสร้างความรื่นรมย์และบรรยากาศสุดหรูหรา
"Millennial Chic" ห้องพักในสไตล์สดใสและสดชื่น การตกแต่งภายในออกแบบในโทนเย็นอย่างเป็นธรรมชาติ ตอบรับกับสีสันสดใสฉูดฉาดของเฟอร์นิเจอร์ โดยมีสีทองแดงตัดกรอบ ส่งให้ห้องมีความเรียบง่ายแต่โดดเด่นสง่างามด้วยการ ตกแต่งที่คำนึงถึงในทุกๆ รายละเอียด งานดีไซน์ที่ใช่สำหรับคนเมืองที่มีสไตล์อย่างแท้จริง
ครบพร้อมในที่เดียว
สิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ส่วนกลาง ประกอบไปด้วย ทางเดินไปสู่ที่จอดรถในร่มที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ ล็อบบี้ที่ตกแต่งในสไตล์ เซ็น แบบญี่ปุ่น sky gym ห้องฝึกโยคะที่มาพร้อมกับวิวเมือง 360 องศา บริเวณชั้น 8 ได้รับการตกแต่งเป็นสวนญี่ปุ่นเพื่อให้ผู้พักอาศัยได้เพลิดเพลินไปกับสระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่ และ สระสำหรับเด็ก ห้องแช่น้ำร้อนสไตล์ญี่ปุ่นแยกสำหรับชายและหญิง ห้องแช่น้ำเย็น สระน้ำเกลือ และซาวน่า นอกเหนือจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับรับประทานอาหารและจัดงานต่างๆ และห้องจัดงานสำหรับต้อนรับแขกอีก 2 ห้อง
ในด้านความปลอดภัย ในแต่ละชั้นจะมีการ์ดส่วนตัวที่สามารถเข้าไปในห้องพักของตัวเองเท่านั้น และกล้องวงจรปิดที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะติดตั้งไว้ในบริเวณที่จอดรถ ล็อบบี้ ลิฟต์ และทางเดินหลัก ซึ่งในพื้นที่ล็อบบี้ และสระว่ายน้ำจะมีสัญญาณ wi-fi เพื่ออำนวยความสะดวก
เพื่อเพิ่มระดับความหรูหราในแบบที่คุณชอบ ผู้พักอาศัยสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์และระบบครัวสไตล์ยุโรปได้อีกด้วย นอกจากนี้ ทางโครงการมีบริการ Concierge service ที่จอดรถในจำนวน 1.25 คัน/ยูนิต พร้อมที่จอดรถซูเปอร์คาร์ สถานีชาร์จไฟรถอีโคคาร์ และอนุญาตให้ผู้พักอาศัยสามารถเลี้ยงสัตว์ได้
โครงการนี้จะเริ่มก่อสร้างในไตรมาสที่ 2 ปี 2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสแรกของปี 2565