ขอมก็คือเขมรนั่นแหละ

21 ตุลาคม 2561

ได้ยินมานานนมแล้วเรื่องคนบอกว่าขอมไม่ใช่เขมร

โดย กรกิจ ดิษฐาน 

ได้ยินมานานนมแล้วเรื่องคนบอกว่าขอมไม่ใช่เขมร อธิบายยืดยาวโดยไม่มีการอ้างอิงหลักโบราณคดีและนิรุกติศาสตร์อะไร ที่น่าตกใจคือมีคนเชื่อเยอะซะด้วย คือถ้าอ่านจารึกสักนิดจะรู้เลยว่า คนเขมรในกัมพูชากับคนที่สร้างอาณาจักรเขมรโบราณเป็นพวกเดียวกัน พูดภาษาเดียวกัน หน้าตาเหมือนกัน (พิจารณาจากรูปสลักเอาเถิด) แค่ยกจารึกโบราณที่ใช้ภาษาเขมรนี่ก็ไม่ต้องเถียงกันแล้วครับ พวกเดียวกันแหงๆ แล้วเขาศึกษากันมาจนพรุนแล้วเรื่องวิวัฒนาการของภาษาเขมรโบราณ ยุคกลาง ยุคปัจจุบันว่ามันสืบทอดมากันอย่างไร

ปัญหาอยู่ที่คำว่า “ขอม” มันไม่เห็นจะเหมือนคำว่าเขมร มีคนไทยที่มีความรู้อธิบายไปมาก ที่น่าฟังที่สุดคือทฤษฎีที่บอกว่า ขอมมาจากคำว่ากรอม (ក្រោម) ที่แปลว่า ล่าง/ต่ำ (หมายถึง คนที่อยู่ที่ราบต่ำ) จิตร ภูมิศักดิ์ อธิบายเรื่องนี้ไปแล้ว แต่ผมไม่ค่อยเชื่อ

คนไทยจำนวนหนึ่งคิดว่า เขมรกับขอมเป็นคนละพวก แต่คนเขมรเขากลับบอกว่าเป็นพวกเดียวกันโดยคำว่า “ขอม” เป็นคำเรียกชนชาติเขมรโบราณ

นักวิชาการกัมพูชาบางคนเสนอว่า កម (กอม) > ខម (ขอม) > កមេរុ (กเมรุ) > ក្មេរ (กเมร)> ខ្មែរ (เขมร) (ทัศนะของ រស់ សារេត) ในยุคโบราณคนเขมรเรียกตัวเองว่า กเมร ต่อในยุคกลางมาเลือนเป็นเขมร ซึ่งคนไทยยังเรียกแบบนี้อยู่ แต่ในปัจจุบันคนเขมรในกัมพูชาเรียกเพี้ยนเป็นแขมร์ แขมร์กับเขมรเป็นคำเดียวกัน

ทฤษฎีนี้บอกว่า “คอม” (หรือขอม) ใช้มาก่อนเขมร ซึ่งตรงกับคำอธิบายของสมเด็จพระสังฆราชจวน ณาต

เรื่องนี้ผมค่อนข้างเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะส่วนตัวเชื่อว่าชื่อ กัมพูชาหรือกัมโพช เป็นชื่อที่คนท้องถิ่น+คนอินเดียอพยพ ขอยืมมาจากอาณาจักรกัมโพช ทางตอนเหนือของอินเดีย เช่นเดียวกับชื่อบ้านนามเมืองอื่นๆ ในแหลมทองที่ยืมมาจากอินเดียทั้งนั้น (ทวารวดี อโยธยา สิงหปุระวัชรปุระ ราชปุระ ฯลฯ)

อนุชนของอาณาจักรกัมโพช คือชนกลุ่มหนึ่งในอัฟกานิสถาน ปัจจุบันยังเรียกตัวเองว่า Kom หรือ Kam ย่อมาจาก Kamboja (กัมโพช) อนุมานจากการเรียกชื่อชนชาติของเจ้าของชื่อกัมโพชเดิมในอินเดีย-อัฟกานิสถาน ก็พอมีทางเป็นได้ว่า คนพื้นเมืองสุวรรณภูมิที่ยืมชื่อกัมโพชมาใช้จะเรียกตัวเองว่า Kom ไปด้วย และนี่คือที่มาของคำว่า កម (กอม) อันเป็นต้นเค้าของคำว่า ขอม และเขมร

คำว่า อักษรขอม (អក្សរខម) มีความหมายว่าอักษรเขมรแบบเดิม รักษาพยัญชนะบางตัวที่กัมพูชาไม่ใช้แล้ว แสดงว่า “ขอม” เป็นตัวแทนของเขมรเก่า

ที่จริงแล้วภาษาไทยกลางกับเขมรนี่ใกล้ชิดกันกว่าที่คิด

นานเดือนก่อน ผมนั่งอ่านเรื่องการปกครองไทยสมัยก่อน สงสัยว่า “ปลัด” แปลว่าอะไร แต่มั่นใจว่าต้องไม่ใช่คำไทยแท้ ในพจนานุกรมภาษาไทยแปลว่า เจ้าหน้าที่ระดับรองหัวหน้า เช่น “ปลัดมณฑล” เป็นรองสมุหเทศาภิบาล ปลัดมณฑลจึงใหญ่เทียบเท่าเจ้าเมือง ส่วน “ปลัดเมือง” เป็นรองผู้ว่าราชการ “ปลัดอำเภอ” เป็นรองนายอำเภอ เป็นต้น

ว่ากันตามหน้าที่แล้ว ปลัดควรจะหมายถึงผู้ช่วยด้วย หลังจากค้นพจนานุกรมภาษาเขมรพบว่า “ปลัด” เป็นภาษาเขมร เขียนว่า បាឡាត់ (บาฬัต) และยังเขียนว่า ប៉ាឡាត់ (ปาฬัต) เป็นรองผู้ปกครองระดับเขต หรือเมือง สมัยก่อนเขียนว่า បាល័ដ្ឋ (บาลัฐฎ)ในทางพุทธจักร หมายถึงตำแหน่งเลขาธิการพระราชาคณะ

สรุปว่า ปลัดเป็นภาษาเขมรและใช้ในความหมายเดียวกับไทย

แต่ว่าในภาษาเขมรยังมีอีกคำหนึ่งที่มีฟังก์ชั่นคล้ายกับคำว่าปลัด คือคำว่า ភូឈួយ (ภูฌวย) แปลว่า รองเจ้าหน้าที่ระดับสูง เช่น ภูฌวยเสนาบดี ภูฌวยรัฐมนตรี ภูฌวยเขต

“ภูฌวย” คำนี้มาจากภาษาไทยแน่นอน คือคำว่า “ผู้ช่วย” นั่นเอง จะเห็นว่าไทยกับเขมรผลัดกันยืมไปยืมมา ไม่ใช่ไทยไปรับของเขามาฝ่ายเดียว ที่จริงแล้ว วัฒนธรรมปัจจุบันของเขมรน่าจะได้จากไทยไปเยอะพอๆ เขมรโบราณให้กับไทยโบราณ ทั้งภาษา ประเพณีราชสำนัก และการละคร ในราชสำนักเขมรนั้นพูดไทยปร๋อกันทีเดียว ราชาศัพท์หลายคำก็ภาษาไทยทั้งนั้น

เดี๋ยวนี้คำว่า บาฬัตกับภูฌวยไม่ค่อยใช้กันแล้ว ไปใช้คำว่า รอง (​រង) แทน เช่น อภิบาลรอง (អភិបាល​​​រង) หมายถึงรองผู้ว่าราชการ (อภิบาลใช้เหมือน เทศ+อภิบาล คือเจ้ามณฑลของไทยสมัยก่อน)

เห็นไหม? แม้แต่คำว่า “รอง” ก็เหมือนภาษาไทยอีก

เดี๋ยวนี้คนเขมรเกรียนๆ ชอบอ้างว่าไทยขโมยโน่นขโมยนี่ไปจากพวกเขา ทั้งๆ ที่วัฒนธรรมมันถ่ายกันไปมา การที่จะยอมรับว่าตัวเองรับของไทยไปมันไม่ทำให้หน้าแตกหรอก ออกจากแสดงความเป็นคนใจกว้างด้วยซ้ำ ดูอย่างญี่ปุ่น ภูมิใจจะตายที่รับวัฒนธรรมจากจีน จีนเองก็ไม่อายที่จะรับของเดิมของตัวเองที่หายไปกลับมาจากญี่ปุ่น เพื่อฟื้่นฟู

ประเทศพัฒนาแล้วมันต้องแบบนี้

Thailand Web Stat