ณัฐณิชา บุญเลิศ ปรุงรสให้การเขียน
คนเรามีความฝันมีหลายสิ่งที่อยากทำ บางคนทำได้เพียงหนึ่ง
โดย มัลลิกา นามสง่า
คนเรามีความฝันมีหลายสิ่งที่อยากทำ บางคนทำได้เพียงหนึ่ง บางคนทำได้หลายอย่างตามที่ฝัน บางคนก็ปล่อยให้เป็นแค่ความฝันไป แต่สำหรับ “พลอย-ณัฐณิชา บุญเลิศ” เธอค่อยๆ เก็บเกี่ยวถักทอสร้างความฝันนั้นให้เป็นจริง จนฝันล่าสุดกำลังเติบโตไปพร้อมๆ กัน นั้นคือการเป็นเชฟ มีร้านอาหารของตัวเอง และมีผลงานหนังสือ
หลังจากที่พลอยเรียนจบจากคณะวิทยาลัยนานาชาติ สาขาการจัดการโรงแรม มหาวิทยาลัยศิลปากร (Vatel) แล้วเลือกฝึกแผนกครัวตลอดทั้ง 4 ปี ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ห้องอาหารสระบัว โรงแรม La Villa du Lao, Divonne les Bains ประเทศฝรั่งเศส แต่ชีวิตในการทำงานเลือกเป็นแอร์โฮสเตส อาชีพในฝันของสาวๆ หลายคนรวมถึงเธอด้วย
แต่ในที่สุดพลอยก็เบนเส้นทางสู่อาชีพเชฟอย่างจริงจัง เมื่อเป็นหนึ่งในผู้แข่งขันรายการมาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์ ซีซั่น 1 และเปิดร้านเล็กๆ ของตัวเอง ชื่อ พลอย คาเฟ่ และล่าสุดอีกหนึ่งความฝัน คือ การทำหนังสือเกี่ยวกับอาหาร “พลอยคุกบุ๊ก” (Ploy’s Cook Book)
“พลอยเคยฝันอยากมีร้านอาหารเล็กๆ ที่เราทำเองได้ทุกอย่าง แล้วที่ผ่านมาพลอยเคยเป็นคอลัมนิสต์ให้กับนิตยสารอาหาร ชอบอ่านสูตรอาหารในหนังสือมากกว่าดูยูทูบ เวลาคิดสูตรอาหารได้ก็จะเขียนลงในสมุดโน้ต จดสูตรไว้ตลอด ก็เป็นความฝันอยากมีหนังสือคุกบุ๊ก
เคยนำไอเดียไปเสนอสำนักพิมพ์อื่น แต่ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีนโยบายทำแล้ว เดี๋ยวนี้คนก็ดูจากยูทูบ แต่พลอยนึกถึงตัวเองและคนใกล้ตัวพลอยที่ยังชอบอ่านสูตรอาหารจากหนังสือ พลอยก็อยากทำให้กลุ่มนี้ต้องมีคนที่ยังชอบอ่านหนังสืออยู่ ในความคิดพลอยหนังสือไม่มีวันตาย
พลอยชอบอ่านหนังสือมาก ชอบซื้อหนังสือ โดยเฉพาะหนังสืออาหาร หน้าตาดีดูน่าอ่านก็อยากซื้อเก็บ ไปร้านอาหารร้านกาแฟเห็นหนังสือสวยๆ วางไว้ให้คนที่นั่งอ่านก็รู้สึกดี หนังสือก็ยังสำคัญอยู่ เป็นอีกทางหนึ่งของการสื่อสาร ไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตลอดเวลา”
เมื่อคิดจะทำหนังสือในภาวะที่วงการหนังสือกำลังถดถอย พลอยได้วางแผนมาอย่างดี เพื่อให้ “พลอยคุกบุ๊ก” เป็นหนึ่งในหนังสือที่คนอยากทำอาหารต้องมี และเป็นแรงบันดาลใจให้คนอยากทำอาหาร โดยได้ “พี-พีรดา ชีพสัตยากร” นักวาดภาพประกอบคนดังมาร่วมวาดประกอบ
“พลอยคุกบุ๊ก แบ่งเป็น 3 ส่วน มีสูตรอาหาร 21 สูตร แบ่งเป็นทำง่าย กลาง และยาก มีขั้นตอนขึ้นมาหน่อย เป็นสูตรที่พลอยคิดเองและที่ทำขายที่ร้าน
ท้ายเล่มมีวิธีการจัดจาน แล้วใช้รูปวาดสีน้ำของพีรดา อธิบายให้หนังสือดูน่าสนใจมากขึ้น จับหั่น ม้วนแบบนี้ เป็นรูปวาดฮาวทูนิดหนึ่งอยู่ในเล่มด้วย
วัตถุดิบก็ใช้ภาพวาดสีน้ำประกอบ เป็นเมนูที่ขั้นตอนไม่เยอะ วัตถุดิบหาซื้อได้ง่าย หลักๆ อยากให้คนที่อยู่คอนโดหรืออยู่บ้านไม่ใช่คนชอบทำอาหารก็สามารถทำได้ง่ายๆ
ตั้งใจไว้เลยอยากมีหนังสือที่รูปภาพสวยๆ สีน้ำประกอบ แล้วเนื้อหาต้องง่าย เข้าใจง่าย คนซื้ออ่านต้องทำได้ทุกอย่าง ทุกเมนู ไม่ต้องไปตามหาของยาก พลอยคิดถึงใจคนที่ทำไม่ต้องใช้กะทะหลายใบ ตะหลิวหลายอัน ทำเสร็จล้างนิดเดียว
ในหนังสือเล่มนี้ส่วนของการแนะนำตัวเองมีไม่กี่หน้า พูดถึงความไม่มั่นใจของตัวเอง เหมือนอินสไปเรชั่นให้คนอ่านที่ไม่มั่นใจตัวเอง
พลอยชอบเขียนหนังสือเพราะพูดไม่เก่ง เขียนมันดูกล้าอธิบายรายละเอียดมากกว่าพูด ในเพจตัวเองก็เขียน เล่าเรื่องสมัยที่ยังแข่งเชฟ ทำไมเราตัดสินใจทำแบบนี้ออกไป คนที่ดูรายการจบมาอ่านสิ่งที่เราเขียนเป็นบันทึกจะรู้จริงๆ แล้วพลอยคิดอะไร พลอยชอบถ่ายทอดทางตัวอักษรมากกว่า”
กับผลงานหนังสือถือเป็นการเปิดตัว ทำความรู้จักกับนักอ่านในอนาคตพลอยยังอยากเขียนหนังสือเกี่ยวกับแวดวงอาหารอีกหลายอย่าง
“พลอยไม่หวังให้คนอ่านอยากทำเมนูนี้แล้วมาเปิดดูในหนังสือเรา หวังให้คนที่อ่านหนังสือเล่มนี้ชอบหน้าตาน่ารักเห็นแล้วอยากทำมากกว่า ไม่ใช่อยากทำสปาเกตตีมาหาสูตรในหนังสือ แต่มารู้จักกันก่อน เมนูไหนถูกใจในเล่มนี้ค่อยอยากทำ
ถือเป็นอีกความฝันที่ทำสำเร็จ จริงๆ อยากทำหนังสืออีก เพราะอยากทำเมนูที่ยากขึ้นมา อย่างวิธีการจัดจานที่ดูมีอะไรมากขึ้น แล้วพอพลอยทำร้านอาหารก็เกิดไอเดีย อยากเขียนแทรกความรู้ของการทำร้านอาหารเข้าไปด้วย”
พลอยยังมีเรื่องราวราวดีๆ อีกมากในวงการอาหารที่เธอเชี่ยวชาญเตรียมนำมากลั่นกรองลงในรูปแบบหนังสือ