"สรรพสามิต"ตั้งเป้ารีดภาษีบาปทะลุ6แสนล้าน

กรมสรรพสามิตเชื่อมือรีดภาษีปีงบประมาณ 2563 เกิน 6 แสนล้าน ไม่พลาดเป้าหมายเหมือนปีนี้

นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ตั้งเป้าหมายการเก็บภาษีปีงบประมาณ 2563 ให้กรมสรรพสามิตแล้วจำนวน 6.26 แสนล้านบาท เชื่อมั่นว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการชะลอตัวลงบ้าง นอกจากนี้การใช้อัตราภาษีใหม่ของสินค้าต่างเริ่มเข้าระบบไม่มีภาษีเหลื่อมปีเหมือนตอนเริ่มใช้กฎหมายใหม่ในช่วงปลายปี 2561 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ กรมสรรพสามิตยังได้เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษี ที่ผ่านมาได้มีการตั้งสำนักตรวจสอบราคาขายปลีก และสำนักงานการตรวจการเสียภาษีย้อนหลัง ทำให้การเก็บภาษีของกรมได้เพิ่มมากขึ้น โดยในอนาคตจะมีการปรับวิธีการทำงานอีกหลายเรื่อง ซึ่งจะทำให้กรมเก็บภาษีมากขึ้น

สำหรับปีงบประมาณ 2562 กรมสรรพสามิตได้รับมอบหมายเก็บภาษี 6.22 แสนล้านบาท แต่คาดว่าจะเก็บภาษีได้จริงประมาณ 5.8 แสนล้านบาท เนื่องจากมีปัญหาตอนเริ่มใช้กฎหมายใหม่ มีภาษีน้ำมัน และภาษีเบียร์ ถูกเก็บล่วงหน้าในปีงบประมาณ 2561 ทำให้การเก็บภาษีปีงบประมาณ 2562 จะเก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป็นจริง

“เป้าการเก็บภาษีปีงบประมาณ 2563 เมื่อเทียบกับเป้าปี 2562 จะเห็นว่าเพิ่มขึ้นไม่มาก แต่หากเทียบกับเป้าหมายที่คาดว่าจะเก็บได้จริง การเก็บภาษีจะเพิ่มขึ้น 4-5 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8-10%” นายพชร กล่าว

นายพชร กล่าวว่า กรมสรรพสามิตไม่มีแผนการเพิ่มอัตราภาษีสินค้าใหม่ นอกจากภาษีบุหรี่ที่ต้องทำตามกฎหมายที่ระบุไว้ชัดเจนว่า วันที่ 1 ต.ค. 2562 ให้เก็บภาษีตามมูลค่าเป็น 40% เท่ากันทุกราคา จากที่ปัจจุบันบุหรี่ที่ราคาซองละไม่เกิน 60 บาท เสียภาษี 20%

นอกจากนี้ กรมสรรพสามิตยังสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมให้ไทยเป็นฐานของอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งตอนนี้ทางกรมสรรพสามิตรอประกาศความชัดเจนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อที่จะกำหนดอัตราภาษีพิเศษ เพื่อเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาลงทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งจะเป็นโครงการสำคัญทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้สูง n