ฮ่อเฮียตี๋-พี่น้องที่ดี หรือผีไร้ญาติ
การฉลองตรุษจีนของชาวไทยเชื้อสายจีนมีขนบธรรมเนียม
การฉลองตรุษจีนของชาวไทยเชื้อสายจีนมีขนบธรรมเนียมและพิธีกรรมอยู่ไม่น้อย แต่ในส่วนที่มีลักษณะเฉพาะท้องถิ่นมากหน่อยนับวันจะยิ่งเห็นน้อยลงทุกที
หนึ่งในนั้นคือพิธี ไป๊ฮ่อเฮียตี๋
ไป๊ฮ่อเฮียตี๋ (拜好兄弟) เป็นชื่อพิธีในสำเนียงแต้จิ๋ว พิธีนี้ปฏิบัติกันกว้างขวางกันในกลุ่มวัฒนธรรมหมิ่นหนาน
(闽南 – ได้แก่ชาวฮกเกี้ยน แต้จิ๋ว) และชาวจีนอพยพ
ถ้าใครเสิร์ชหาชื่อพิธีกรรมนี้เป็นภาษาจีนในอินเทอร์เน็ต จะพบว่าข้อมูลจากศูนย์กลางวัฒนธรรมจีนของจีนแผ่นดินใหญ่ แทบจะไม่มีคำอธิบายเอาไว้เลย
“ไป๊” แปลว่าไหว้ “ฮ่อ” แปลว่าดี ส่วน “เฮียตี๋” แปลว่าพี่ชายน้องชาย
“ไป๊ฮ่อเฮียตี๋” จึงแปลตรงตัวว่าไหว้พี่ชายน้องชายที่ดี ซึ่งเนื้อหาของพิธีก็คือการเซ่นไหว้ผีไร้ญาติ หรือสัมภเวสีนั่นเอง
ในไทยมักจะจัดพิธีนี้กันปีละสองครั้ง คือช่วงกลางปีในเทศกาลสารทจีน (15 ค่ำ เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติจีน) และช่วงวันเริ่มต้นปี ซึ่งก็คือวันตรุษจีน โดยจะทำพิธีในช่วงบ่าย หลังเซ่นไหว้บรรพบุรุษในช่วงเช้าเสร็จเรียบร้อย
แต่การเซ่นไหว้สัมภเวสีในวันตรุษจีนกลับไม่ค่อยจะมีใครทำกันแล้ว ไม่เหมือนในวันสารทจีนที่ยังสืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน
ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนัก เพราะการเซ่นไหว้สัมภเวสีในวันสารทจีนพัวพันแน่นหนากับคติของทางพุทธมหายานมายาวนาน แพ็กเกจของวันสารทจีนซึ่งเชื่อว่าเป็นช่วงประตูนรกเปิดที่มีทั้งพิธีเทกระจาด ไหว้สัมภเวสี ฯลฯ จึงดูเข้าขากันอย่างดี
ปัจจุบันชาวจีนในไต้หวัน มาเลเซีย และสิงคโปร์ ก็ยังคงจัดพิธีเซ่นไหว้สัมภเวสีในวันสารทจีนอยู่เช่นกัน
แต่สำหรับไป๊ฮ่อเฮียตี๋ในวันตรุษจีน มันดูงอกเงยออกมาพิกล ในวันมงคล จะเซ่นสัมภเวสีไปทำไม?
จึงไม่น่าแปลกใจที่นับวันจะมีคนทำพิธีนี้น้อยลง แถมยังเปลี่ยนโปรแกรมไปไหว้เทพแห่งทรัพย์สินแทน
แต่ผมมากระจ่างเอาเมื่อได้ฟังคุณนิรันดร นาคสุริยันต์ (นามปากกาเหล่าตั๊ง) จากงานบรรยาย “เรื่องควรรู้ในเทศกาลตรุษจีน” ที่จัดโดยอาศรมสยาม-จีนวิทยา
อาจารย์เหล่าตั๊งนั้นเชี่ยวชาญทั้งภาษาจีนกลางและจีนแต้จิ๋ว รวมถึงด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีน ที่น่าสนใจมากก็คือ ท่านใช้ความคุ้นเคยต่อวัฒนธรรมแต้จิ๋วบนแผ่นดินไทยในวัยเด็กมาเชื่อมโยงเข้ากับความรู้ภาษาจีนอย่างกลมกล่อม จนถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้รู้และเข้าใจขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมจีนแต้จิ๋วบนแผ่นดินไทย
อ.เหล่าตั๊ง เล่าว่า เมื่อตอนเป็นเด็กพอเห็นผู้ใหญ่เรียกพิธีเซ่นไหว้นี้ว่า “ไป๊ฮ่อเฮียตี๋” ก็เอามาเรียกตามบ้าง แต่พออาม่าได้ยินเข้า ก็หันมาดุทันที
“อย่างลื้อต้องเรียกไป๊ฮ่อเจ๊กแปะ!”
ไป๊ฮ่อเจ๊กแปะ แปลตรงตัวว่า ไหว้คุณลุงคุณอา (พี่น้องฝั่งพ่อ) ที่ดี
แนะ! ชื่อพิธีนี้ จากชื่อพิธีเซ่นไหว้พี่ชายน้องชายที่ดีพอเปลี่ยนรุ่นไป กลับต้องเรียกว่าเซ่นไหว้คุณลุงคุณอาฝั่งพ่อแทน... สัมภเวสีมีเลื่อนลำดับญาติเคร่งครัดจริงจังซะอย่างนั้น
(ขอให้อดทนต่อการแปลศัพท์ลำดับญาติแบบตร๊งตรงแต่ยืดยาวนี้หน่อยนะครับ เพราะมันกำลังจะเฉลยที่มา)
แล้ว อ.เหล่าตั๊ง ก็เล่าถึงเหตุการณ์ในวันที่ 2 ส.ค. 1922
ในวันนั้นชายฝั่งทะเลแถบเมืองเถ่งไฮ่ (เมืองหนึ่งของชาวแต้จิ๋ว) มีพายุไต้ฝุ่นลูกใหญ่เข้าปะทะ
ไต้ฝุ่นลูกนั้นทำให้เกิดคลื่นยักษ์ซัดกระหน่ำชายฝั่งอย่างต่อเนื่อง คลื่นสูงอย่างน้อย 4 เมตร กวาดเอาชายฝั่งทะเลราบเป็นหน้ากอง ซึ่งก็คือปรากฏการณ์ Storm Serge ที่เรารู้จักกัน
คนจีนเรียกพายุครั้งนี้ว่า “วาตภัย 2 สิงหาคม” (八二风灾)ภาษาอังกฤษเรียก “1922 Swatow Typhoon”
ก่อนพายุขึ้นฝั่งที่เถ่งไฮ่ ยังได้แผลงฤทธิ์กับทั้งเกาะไต้หวันและฟิลิปปินส์ ซึ่งสถานการณ์เลวร้ายไม่แพ้กัน
เหตุภัยพิบัติเช่นนี้เมื่อร้อยปีที่แล้วย่อมต่างจากยุคนี้อย่างลิบลับ พายุไม่มีชื่อเล่น ไม่มีสัญญาณเตือนภัยก่อนเกิดเหตุ และกว่าจะมีคนเข้าช่วยเหลือฟื้นฟูหายนะได้ย่อมเนิ่นนานและยากเย็น
ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่าแถบแต้จิ๋วมีคนตายจากเหตุการณ์นี้มากกว่า 6 หมื่นคน
และเมื่อพายุสงบลง คนที่ตายก็ตายไป ส่วนพวกที่อยู่รอดมาท่ามกลางไร่นาที่เสียหายรุนแรง บ้านเรือนพังทลาย หากจะรอแผ่นดินกลับมาฟื้นฟู ก็มีค่าท่ากับรอความตายดีๆ นี่เอง
คนหนุ่มทั้งหลายอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ ต้องตัดสินใจขึ้นเรือบากหน้าไปสู่แผ่นดินอื่น อย่างน้อยก็ยังมีความหวังที่จะทำงานส่งข้าวของเงินทองกลับมาช่วยเหลือคนแก่เอย เด็กเล็กเอย ที่จำต้องอยู่ดูแลบ้าน
เกิดเป็นช่วงที่ชาวจีนอพยพเข้ามาเมืองไทยระลอกใหญ่ โดยเฉพาะชาวเถ่งไฮ่ ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติโดยตรง
อ.เหล่าตั๊ง อธิบายว่า ที่จริง “วาตภัย 2 สิงหาคม” เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเหตุการณ์หนึ่ง ยุคนั้นยังมีภัยพิบัติอื่นๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำเติมมาครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งจากสงครามและจากความแห้งแล้ง ทั้งหมดล้วนบีบบังคับให้ชายที่พอมีกำลังต้องหนีความยากลำบากทิ้งบ้านมาต่างแดน
ชายหนุ่มจากต่างถิ่นต่างเมืองต่างขึ้นเรือกันมา แม้ต่างเป็นคนแปลกหน้า แต่ก็ล้วนเลือกกำหนดชะตากรรมใหม่ โดยมีต้นทางเป็นเรือลำเดียวกัน
หากใครพอมีญาติพี่น้องอยู่ที่ปลายทางแล้วก็อุ่นใจหน่อย แต่ถ้าไม่มี ก็ต้องอาศัยพรรคพวกที่เพิ่งรู้จักกันบนเรือร่วมช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หรือบางคนอาจจะเผื่อแผ่ความหวังให้คนอื่นได้บ้าง ถ้าหากตนมีญาติอยู่ปลายทางที่พอให้เพื่อนใหม่พึ่งพิงได้
แต่เรื่องพลิกผันก็เกิดขึ้นได้เสมอ ที่คิดว่ามีญาติก็อาจหาญาติไม่เจอ หรือที่ไม่มีใครเลยตั้งแต่แรกและไม่สามารถหาที่พึ่งได้สักที่ ก็ต้องอาศัยข้าวต้มป่อเต็กตึ๊งประทังความหิวเป็นวันๆ ไป
ที่การงานไปได้ไม่ดี ตายไปไม่มีใครจัดงานศพให้ก็มีไม่น้อย...ได้ใช้บริการป่อเต็กตึ๊งครบวงจร
แต่บ้างก็โชคดี อดทนทำงานเป็นกุลีสักปีสองปี ก็สามารถเก็บหอมรอมริบมีกิจการค้าขายร่ำรวย
เมื่อคืนวันผ่านไป อดไม่ได้ที่จะย้อนนึกถึงเพื่อนที่เคยได้ร่วมชะตากันมาแต่เก่าก่อน ที่ไหนได้พอรู้ข่าวอีกที เพื่อนบางคนกลับไปไม่รอด ต้องตายอย่างผีไร้ญาติ
“เราโชคดีแต่เพื่อนโชคร้าย ทั้งที่จุดเริ่มต้นต่างก็เริ่มจากเรือลำเดียวกัน”
เมื่อคิดถึงจุดนี้ ความทุกข์ความสุขย่อมปะปนคละเคล้า
“อย่ากระนั้นเลย ในวันที่เรามีความสุขอิ่มเอมเช่นวันตรุษจีน เราควรจะเซ่นไหว้อุทิศส่วนบุญให้กับเพื่อนๆ ที่ไม่ได้โชคดีอย่างเรา”....
อย่างที่ อ.เหล่าตั๊ง ว่าไว้ นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งในที่มาของพิธีไป๊ฮ่อเฮียตี๋
แต่ด้วยความเข้าใจตัวอย่างนี้ จึงทำให้เข้าใจได้ว่า...
ทำไมการจัดพิธีนี้ในวันตรุษจีนจึงแพร่หลายกันอยู่ในชาวจีนอพยพ
ทำไม “ไหว้พี่ชายน้องชายที่ดี” (ไป๊ฮ่อเฮียตี๋) แต่กลับไม่มีพี่สาวน้องสาว
ทำไมเมื่อเปลี่ยนรุ่นไป ผู้ใหญ่จึงต้องให้เด็กๆ เรียกพิธีนี้เป็น “ไหว้คุณลุงคุณอาฝั่งพ่อที่ดี” (ไป๊ฮ่อเจ๊กแปะ)
และทำไมพิธีการนี้จึงเลือนรางลงในหมู่ชาวไทยเชื้อสายจีนรุ่นใหม่ แล้วหันไปเปลี่ยนโปรแกรมเป็นไหว้เทพแห่งทรัพย์สินแทน
ฮ่อเฮียตี๋ หากจะแปลให้เข้าใจง่ายๆ ก็ต้องแปลว่าผีไร้ญาติ แต่สำหรับคนกลุ่มหนึ่งรุ่นหนึ่งนั้น ผีไร้ญาติเหล่านี้กลับไม่ใช่แค่สัมภเวสีที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนาม พวกเขามีหน้าตา มีตัวตน มีจิตใจ และมีทุกข์มีกังวลที่สัมผัสได้ อยู่ในความทรงจำของผู้เซ่นไหว้อย่างชัดเจน
ผมเพิ่งรู้สึกได้ถึงความโชคดีของการมีญาติมิตรมากมาย และเข้าใจความอ้างว้างของคำว่า “ไร้ญาติขาดมิตร” ในวินาทีนั้นเอง
แล้วจึงรู้สึกได้อีกว่า การเซ่นไหว้ฮ่อเฮียตี๋ในวันตรุษจีน ไม่ได้มีความขัดแย้งกันแต่อย่างใด
หนึ่งในกลไกที่ทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตนี้โชคดีและมีมงคล คือเมื่อเรารำลึกถึงชีวิตของคนที่ยากลำบากและโชคร้ายกว่าเราได้ และเรายังมีใจอยากให้เขาพ้นทุกข์และมีกำลังพอที่จะช่วยเหลือ ไม่ว่าจะอยู่ร่วมหรือต่างภพกันก็ตาม
...ของเซ่นในพิธีเซ่นไหว้ฮ่อเฮียตี๋มักจะนำไปแบ่งปันเพื่อนบ้าน หรือทำทานให้คนยากจน...