สมาคมนักเขียนฯ มอบรางวัลนราธิปปี 2561

โดย สมาน สุดโต 

สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย มอบรางวัลนราธิป ปี 2561 ให้ ชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะนักเขียน และมอบให้นักประพันธ์อื่นๆ และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์อาวุโส รวมทั้งสิ้น 19 ท่าน เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2562 ณ ห้องประชุมใหญ่สำนักหอสมุดแห่งชาติ

ชื่อรางวัลนราธิป นำมาจากพระนามของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรรณไวทยากร กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ อันเป็นแนวคิดของ ประภัสสร เสวิกุล นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ปี 2544 ตรงกับ 110 ปีชาตกาลและครบรอบ 10 ปี ที่เสด็จในกรมฯ ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญระดับโลก

กนกวลี กันไทยราษฎร์ นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยคนปัจจุบัน กล่าวว่า รางวัลนี้เป็นรางวัลที่สมาคมนักเขียนฯ มอบเพื่อประกาศเกียรติคุณแด่นักเขียน กวี นักหนังสือพิมพ์ นักแปล และบรรณาธิการอาวุโส ผู้ทำงานยาวต่อเนื่อง และเป็นที่ยอมรับกว้างขวาง

ผู้รับรางวัลล้วนสูงวัย อายุอย่างต่ำ 75 ปีเมื่อเอ่ยนามก็เป็นที่รู้จักของสังคมนักอ่านบางท่านมิใช่เป็นแต่นักประพันธ์ หากแต่เป็นนักการเมือง มีตำแหน่งสูงถึงนายกรัฐมนตรี ได้แก่ ชวน หลีกภัย

บางท่านเป็นนักข่าวมาตลอดชีวิต เช่น มานิจ สุขสมจิตร หรือนักกลอน 2 ตายาย ที่ผู้คนในยุคซิกซ์ตี้ ที่สนใจบทกลอน ต้องได้ยินชื่อ มะเนาะ ยูเด็น และวันเนาว์ อดีตนักกลอนที่มีชื่อเสียง

รายนามผู้ได้รับรางวัลนราธิปมีดังนี้

1.ชวน หลีกภัย

2.ชูศักดิ์ ราษีจันทร์ (ต๊ะ ท่าอิฐ)

3.เทพศิริ สุขโสภา

4.นิภา ทองถาวร (บางยี่ขัน)

5.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

6.บุญญรัตน์ บุญญาธิษฐาน

7.ประยงค์ อนันทวงศ์

8.พวงเพชร ศานติพงศ์

9.พจน์ ยังพลขันธ์

10.มะเนาะ ยูเด็น

11.มานิจ สุขสมจิตร

12.เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์

13.วัชรี สายสิงห์ทอง

14.วันเนาว์ ยูเด็น

15.ศฤงคาร วาดเวียงไชย

16.ศักดิ์ ส.รัตนชัย

17.สัมพันธ์ ก้องสมุทร

18.สุนทร ทาซ้าย

19.เสมอ กลิ่นหอม

อดีตนายกรัฐมนตรี ชวน กล่าวหลังรับรางวัลว่า ตนนั้นมีผลงานเขียนไม่มาก แต่มีผลงานบรรยายมาก ทุกวันนี้ก็ยังบรรยายอยู่ ส่วนงานเขียนที่เคยมีในอดีตนั้นเป็นบันทึกเหตุการณ์ แต่กว่าจะได้ออกมาแต่ละตอนใช้เวลามาก สำนักพิมพ์ต้องส่งคนมานั่งเฝ้าเพื่อรอรับต้นฉบับ

ที่เรียกเสียงฮือฮาเมื่อได้เห็นตัวและฟังสำนวนโวหารบนเวที ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นกวีระดับอินเตอร์คือ เสมอ กลิ่นหอม เจ้าของนามปากกา ขุน รำยอง หลังรับรางวัลพิธีกรเชิญให้พูดอะไรเล็กน้อย จึงพูดว่าพิธีกรขอให้พูด 3 นาที แต่ ขุน รำยอง บอกว่าเขาเป็นมนุษย์เจ้าปัญหามาแต่เด็กๆ ตั้งแต่จำความได้ ถามปัญหาที่พ่อก็ตอบไม่ได้ เช่น ดวงอาทิตย์มาจากไหน พ่อบอกว่า กูไม่รู้ เห็นพระจันทร์ ดวงดาวก็อยากรู้ ถึงกับเคยนอนนับดวงดาวบนท้องฟ้า เมื่อเป็นมนุษย์เจ้าปัญหา ประสบการณ์มีมาก จึงขอเวลาพูด 3 นาทีครึ่ง ทั้งๆ ที่ให้เดี่ยวไมโครโฟน พูดถึง 3 ชั่วโมงก็ได้ พร้อมทั้งแสดงผลงานกวีให้ที่ประชุมทราบคือ กูคือตะวัน ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ ได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ และสมาคมกวีนานาชาติมอบประกาศนียบัตรให้ 1 ใบ พร้อมทั้งรับรองให้เป็นสมาชิกสมาคมนั้นตลอดชีพ

นิภา ทองถาวร หรือรู้จักในนาม นิภา บางยี่ขัน อดีตนักกลอน นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ฝากผลงานกลอนจำนวนมากในโลกวรรณกรรม และได้รับฉายาว่า บุษบา ท่าพระจันทร์ บอกว่าเคยทูลเชิญเสด็จในกรมฯ ให้มาทรงเป็นประธานชมรมวรรณศิลป์ ธรรมศาสตร์ และตนก็เคยได้รับรางวัลจากพระหัตถ์ด้วย

เทพศิริ สุขโสภา ศิลปินแห่งชาติ กล่าวว่า ตนเรียนวาดเขียนมา โดยไม่ได้คิดว่าวาดกับเขียนจะแยกจากกัน พร้อมทั้งสารภาพว่ามีความสุขเมื่อได้วาดภาพ มาวันนี้ก็คันไม้คันมืออยากวาดภาพเช่นกัน (ได้วาดภาพสัจภูมิ ละออ กรรมการประชาสัมพันธ์สมาคมนักเขียนฯ 1 ภาพ)

สัมพันธ์ ก้องสมุทร ศิลปินช่างเขียนจากเพาะช่างรุ่นเดียวกับ เทพศิริ สุขโสภา เคยบวชอยู่สำนักท่านพุทธทาสภิกขุ จึงรู้จักกับ โกวิท เอนกชัย หรือเขมานันทะ จึงฝากผลงานไว้ที่สำนักของท่านพุทธทาส เช่น ภาพเขียนเกี่ยวกับปฏิจจสมุปบาท และบางภาพในโรงมหรสพทางวิญญาณ ส่วนผลงานด้านประพันธ์ก็มี เช่น 2 ยอดนักรบแห่งกองทัพธรรม (พุทธทาส-ปัญญานันทะ) ในฐานะศิษย์เก่าสวนโมกข์ ได้เห็น วิลาศ มณีวัตได้เชิญชวนกุหลาบ สายประดิษฐ์ (ศรีบูรพา) ไปกราบท่านพุทธทาสภิกขุ และประทับใจที่ท่านพุทธทาส บอกศรีบูรพาในฐานะนักหนังสือพิมพ์ว่า จะเขียนอะไรก็ให้เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์

สุนทร ทาซ้าย บก.ไทยรัฐ อดีตมหาเปรียญธรรม 5 ประโยค นิเทศศาสตร์ จุฬาฯรุ่นที่ 1 อดีต สส.นครราชสีมา กล่าวว่า เขียนหนังสือมาหลายสิบปี เขียนทุกวัน เคยเป็นนายกสมาคมนักข่าว เคยอบรมเป็นทนายความตอนนั้นเพื่อนเตือนว่ากะล่อนไม่พอหรือ เป็นนักข่าวก็กะล่อน นักการเมืองก็กะล่อน หากเป็นทนายความ ก็ต้องกะล่อนอีก ในฐานะที่อยู่ในแวดวงนักข่าว (บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ) สารภาพว่าปัจจุบันอาชีพนักข่าวอยู่ในช่วงอัสดง โดยอยู่ในลำดับ 3 ที่ 1 คือ อาชีพรับจ้างซักผ้าอ้อม ที่ 2 คือ ช่างซ่อมรองเท้าและ 3 คือ อาชีพนักข่าว (น่าเศร้าจัง) แต่ก็ยังปลอบใจว่าอาชีพนักเขียนยังอยู่ได้ ตราบใดที่มนุษย์ยังมีการสื่อสาร

หลังมอบรางวัลเสร็จสิ้น ท่านผู้หญิงม.ร.ว.วิวรรณ วรวรรณ เศรษฐบุตร ในวัย85 ปี ซึ่งมากับหลานสาว ทายาท พล.ต.พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ กล่าวถึงท่านบิดาว่า นอกจากเป็นนักบัญญัติศัพท์แล้ว ยังเป็นนักหนังสือพิมพ์ วรรณไว คือพระนาม (ปากกา) ทรงก่อตั้งหนังสือพิมพ์ประชาชาติ (ยุค พ.ศ. 2477-2478) ทรงนิพนธ์บทความไว้มาก เช่น เรื่องประชาธิปไตย

วันมอบรางวัลนราธิปพงศ์ประพันธ์ของสมาคมนักเขียนฯ จึงนับว่าเป็นวันชุมนุมนักเขียนที่มีผลงานทางสร้างสรรค์ และไม่ปนยาพิษให้สังคม เป็นวันที่หลายท่านรอคอย