ทายาทตั้งตรงจิตรทุ่ม200ล้านผุดรีสอร์ทชะอำ
ทายาทตระกูลตั้งตรงจิตร ทุ่ม 200 ล้านบาทลุยธุรกิจ "เฌอ รีสอร์ท" หาดชะอำ เน้นเจาะกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มลูกค้าต่างชาติ
ทายาทตระกูลตั้งตรงจิตร ทุ่ม 200 ล้านบาทลุยธุรกิจ "เฌอ รีสอร์ท" หาดชะอำ เน้นเจาะกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มลูกค้าต่างชาติ
นายอัครพัจน์ ตั้งตรงจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท จิสประพัจน์ ดีเวลลอปเมนท์ เปิดเผยว่าบริษัทฯได้ลงทุน 200 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจเฌอ รีสอร์ท จำนวน 36 ห้อง เนื้อที่ 2 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณหาดชะอำ กม. 214 ที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยได้เปิดให้บริการ มานาน 10 เดือน ปัจจุบันมีอัตราการเข้าพักของลูกค้าประมาณ 50% และคาดว่าหลังจากผ่านช่วงเทศกาลปีใหม่ในช่วงต้นปีหน้าจะมีลูกค้าเข้าพักถึง 70-80% เนื่องจากบริษัทฯเน้นทำตลาดต่างประเทศโดยเจาะกลุ่มไปยังลูกค้าเฉพาะมากขึ้น เช่นลูกค้าคนไทยกลุ่มวัยรุ่น ที่ต้องการพักโรงแรมที่มีการออกแบบมีเอกลัษณ์เฉพาะตัว รวมไปถึง ลูกค้าเกาหลี ที่จะเข้ามาจัดแต่งงานในประเทศไทย หรือกลุ่มลูกค้าชาวรัสเซียเป็นต้น
"การแข่งขันในธุรกิจโรงแรมมีสูง เราต้องพยายามทำการตลาดเพื่อหากลุ่มลูกค้าเฉพาะเช่น กลุ่มลูกค้าชาวเกาหลีและไต้หวัน ที่จะมาจัดงานแต่งงานในไทย หรืออย่างก่อนหน้านี้ก็ได้ทำการตลาดเจากลุ่มลูกค้าชาวอินเดีย ที่มาจัดงานเลี้ยงวันเกิดในรูปแบบที่ต้องการความเป็นส่วนตัวเช่นปิดโรงแรมเลี้ยง เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันเรามีลูกค้าต่างชาติประมาณ 5% และมั่นใจว่าในปีหน้าลูกค้าต่างชาติจะเพิ่มเป็น 30%"นายอัครพัจน์กล่าว
อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนจะขยายเฟส 2 เพื่อก่อสร้างห้องพักเพิ่มอีก 40 ห้อง โดยจะก่อสร้างเป็นอาคาร 8 ชั้น ใช้เงินลงทุนนอีกประมาณ 100 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 70 ล้านบาท และค่าที่ดิน 30 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในช่วงไตรมาสของปีหน้า และจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างนาน 1 ปี โดยโครงการในเฟสแรกนั้นคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 7 ปี
นายอัครพัจน์ กล่าวว่าตระกูลตั้งตรงจิตร ดำเนินกิจการห้างหุ้นส่วนจำกัด ยาตราใบโพธิ์ มานานกว่า 100 ปี ซึ่งตนเองได้ขยายไลน์ธุรกิจของครอบครัวมาทำ ห้างหุ้นส่วนจำกัด จิสประพัจน์ ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์สมุนไพรตราเฌอเอม ตั้งแต่ปี 2543 ซึ่งผลิตยาดม ยาหม่อง พิมเสนน้ำ การบูร เป็นต้น
ปัจจุบันตลาดยาดมในเมืองไทยมีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ยี่ห้อโป๊ยเซียน ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 70% ซึ่งตลาดมีอัตราการเติบโตปีละ5-10% แต่หากแบ่งเป็นประเภทเป็นยาดมสมุนไพรมูลค่าตลาดจะอยู่ที่ 50 ล้านบาท หรือ 5% ของตลาดรวม ซึ่งสินค้าตราเฌอเอม ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ประมาณ 50 % โดยมีรายได้ในปีนี้ 20 กว่าล้านบาทเติบโตต่อปีไม่ต่ำกว่าปีละ 10% อย่างไรก็ตามบริษัทฯมีแผนจะให้ความสำคัญกับตลาดส่งออกมากขึ้น จากปัจจุบันส่งออกอยู่ 1% ไปยังประเทศแคนาดา รวมถึงการผลิตสินค้าในรูปแบบโออีเอ็มเพิ่มขึ้น