ชวนปลูกมะระ-กล้วยหอม พืชทางเลือก แทนนาข้าวผลผลิตต่ำในจ.ปทุมธานี
สศก.แนะพืชทางเลือกน่าสนใจ กำไรดี ทดแทนนาข้าวปทุมธานีหลังผลผลิตต่ำพื้นที่ไม่เหมาะสมกว่า 2.1 หมื่นไร่
สศก.แนะพืชทางเลือกน่าสนใจ กำไรดี ทดแทนนาข้าวในจ.ปทุมธานี หลังผลผลิตต่ำพื้นที่ไม่เหมาะสมกว่า 2.1 หมื่นไร่
นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จากการศึกษาสินค้าเกษตรสำคัญที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงสุด (Top4)ของพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ได้แก่ ข้าวนาปี ข้าวนาปรัง ปาล์มน้ำมัน และไก่เนื้อ พบว่ามีพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมกับการปลูกข้าว 21,418 ไร่ ขณะที่มีพื้นที่เหมาะสำหรับปลูกข้าวจำนวน 323,679 ไร่
สำหรับการปลูกนาปี เกษตรกรได้ผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) จากการผลิต ในพื้นที่มีความเหมาะสมมากและเหมาะสมปานกลาง เฉลี่ย 1,448 บาท/ไร่ ส่วนพื้นที่มีความเหมาะสมน้อยและไม่เหมาะสมได้ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย 1,290 บาท/ไร่ ด้านข้าวนาปรัง พื้นที่มีความเหมาะสมมากและปานกลาง ผลตอนแทนเฉลี่ย 1,007 บาท/ไร่ ส่วนพื้นที่มีความเหมาะสมน้อยและไม่เหมาะสม เฉลี่ย 997 บาท/ไร่ ส่วนปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่มีความเหมาะสมมากและปานกลาง เฉลี่ย 2,089 บาท/ไร่ ส่วนพื้นที่มีความเหมาะสมน้อยและไม่เหมาะสม เฉลี่ย 1,955 บาท/ไร่ และไก่เนื้อ เกษตรกรมีผลตอบแทนสุทธิ 4.57 บาท/ตัว
หากพิจารณาสินค้าทางเลือกให้แก่เกษตรกร เพื่อปรับเปลี่ยนการทำการเกษตรแทนการทำนา ขณะนี้เกษตรกรได้มีการปรับเปลี่ยนการผลิตและพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพเพื่อเพิ่มมูลค่าอย่างหลากหลาย ดังนี้ 1. กล้วยหอม มีต้นทุนการผลิต 20,363 บาท/ไร่ เกษตรกรได้ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย 26,646 บาท/ไร่ ซึ่งกล้วยหอมทองตลาดทั้งในและต่างประเทศมีความต้องการเป็นอย่างมาก และขณะนี้กล้วยหอมทองปทุมธานี ยังเป็นสินค้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ซึ่งหากเกษตรกรสามารถสร้างจุดแข็งและขยายผลต่อยอดเพิ่มมูลค่าในการแปรรูปได้
2.เตยหอม สามารถจำหน่ายได้ 3 แบบ คือ ตัดต้นขาย ขายเฉพาะใบ และขายแขนง (หน่อ) ปัจจุบันผลผลิตเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง มีพ่อค้าคนกลาง เข้ามารับซื้อในแหล่งผลิต ต้นทุนการผลิตกรณีตัดต้นขาย มีต้นทุน 16,397 บาท/ไร่ ผลตอบแทนสุทธิ 15,103 บาท/ไร่
3.มะระจีน เป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยมีระยะการปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวใช้เวลา 45 วัน มีต้นทุนการผลิต 14,597 บาท/ไร่ ผลตอบแทนสุทธิ 8,647 บาท/ไร่ 4.ฝรั่งกิมจู ต้นทุนการผลิต 19,123 บาท/ไร่ ผลตอบแทนสุทธิ 25,877 บาท/ไร่ 5.การปลูกหญ้าปูสนาม ระยะปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว 35 - 40 วัน มีต้นทุนการผลิต 8,325 บาท/ไร่ ผลตอบแทนสุทธิ 11,460 บาท/ไร่ และ6.การเลี้ยงไก่พื้นเมือง ต้นทุนการผลิต 90 บาท/ตัว ผลตอบแทนสุทธิ 54 บาท/ตัว
ด้านนายชีวิต เม่งเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจเกษตรที่ 7 กล่าวว่า ยังมีสินค้าทางเลือกอีกหลายชนิดที่ตลาดต้องการ เช่น การทำเกษตรผสมผสานที่สร้างรายได้และให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ และพืชผักปลอดภัย ซึ่งปัจจุบัน กลุ่มแปลงใหญ่ผัก GAP นำไปขายโครงการผักร่วมใจที่ตลาดไท และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแปรรูปปลาน้ำจืดที่ผลิตปลาดุกมีคุณภาพและนำปลาดุกมาแปรรูปหลากหลายเพื่อเพิ่มมูลค่า
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพื้นที่เหมาะสมสำหรับการปลูกข้าว ควรส่งเสริมสร้างมูลค่าโดยรวมกลุ่มผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ผลิตข้าวบริโภค ข้าวหอมหรือข้าวนิ่มเพื่อการแปรรูปจำหน่ายในจังหวัด รวมถึงการพัฒนาสินค้า เช่น การแปรรูป เป็นน้ำมันรำข้าว เป็นต้น โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเชื่อมโยงหาช่องทางการตลาดและเน้นการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ และร่วมวางแผนการผลิตสินค้าและการตลาดสินค้าให้เหมาะสมกับพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกษตรกรได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับการลงทุนมากที่สุด