แปลนทอยส์ ของเล่น...รักษ์โลก
แปลนทอยส์ แบรนด์ของเล่นไม้สำหรับเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก ที่พ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กใน 65 ประเทศทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี ทั้งในแง่ของดีไซน์โดดเด่น ปลอดภัย...
แปลนทอยส์ แบรนด์ของเล่นไม้สำหรับเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก ที่พ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กใน 65 ประเทศทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี ทั้งในแง่ของดีไซน์โดดเด่น ปลอดภัย...
โดย...นราทิพย์ กวางเส็ง
แปลนทอยส์ แบรนด์ของเล่นไม้สำหรับเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก ที่พ่อแม่ผู้ปกครองและเด็กใน 65 ประเทศทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี ทั้งในแง่ของดีไซน์โดดเด่น ปลอดภัยตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงเด็กโต 7-8 ขวบ โดยมีสัดส่วนการขายในตลาดต่างประเทศถึง 95% ที่เหลือขายในไทย 5%
แปลนทอยส์ถือกำเนิดขึ้นมาเป็นเวลาเกือบ 35 ปีแล้ว จากกลุ่มสถาปนิกที่มีแนวคิดที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ที่สำคัญ คือ ไม่ว่าจะทำอะไรจะต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม จึงไปนำไม้ยางพาราที่หมดอายุการให้น้ำยางแล้วมาผลิตเป็นของเล่นแห่งแรกของโลก ทำให้ต้นยางที่หมดอายุแล้วไม่ถูกเผาทำลาย
การนำสิ่งที่เรียกว่าขยะกลับมาใช้ให้เกิดประโยนช์สูงสุด จึงเป็นที่มาแปลนทอยส์ ของเล่นเด็กไม้ยางพารา ปราศจากสารเคมี และปลอดสารพิษ นับตั้งแต่นั้นมาโรงงานสำหรับผลิตของเล่นจากไม้ยางพาราจึงตั้งอยู่ที่ จ.ตรัง เพื่อให้ใกล้กับแหล่งวัตถุดิบ
แนวคิดในการดำเนินงานของบริษัท คือ Green Toy-Green Company หรือยึดหลักของเล่นที่เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้วิธีการผลิตสีเขียว หรือ 4R ได้แก่ Rethink คิดใหม่ Reduce ลดของเสีย Reuse การใช้ซ้ำ และ Recycle นำมาปรับใช้ใหม่ ดังนั้นกระบวนการผลิตของแปลนทอยส์จึงได้รับการออกแบบให้ลดปริมาณการเกิดขยะ ประหยัดการใช้พลังงาน รณรงค์ให้นำวัสดุต่างๆ กลับมาใช้ใหม่ใช้นวัตกรรมการรีไซเคิลกระดาษ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อปรับปรุงและรักษาสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ
ในเรื่องความปลอดภัยนั้นก็เป็นหลักสำคัญที่สุดในการผลิต เพราะของเล่นเด็กนอกจากเด็กจะเล่นแล้วยังมีโอกาสที่เด็กจะเอาของเล่นเข้าปาก ดังนั้นกระบวนการผลิตที่ต้องใช้กาว บริษัทก็ใช้ กาว E-Zero ที่ปราศจากสารฟอร์มาลดีไฮด์ ส่วนสีที่มีตัวทำละลายเป็นน้ำกับผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น ไม่มีส่วนประสมของสารปรอท ตะกั่ว โลหะหนักต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อเด็ก
รวมไปถึงการใช้หมึกที่ทำมาจากถั่วเหลืองในการผลิตสิ่งพิมพ์ต่างๆ หรือการใช้กระดาษรีไซเคิลเพื่อลดปริมาณขยะ
จากกระบวนการผลิตที่เป็นแนวคิดหลักตั้งแต่การก่อตั้งบริษัทจึงทำให้ของเล่นไม้ยางพาราแปลนทอยส์ได้รับอนุญาตให้เข้าไปจัดจำหน่ายในประเทศต่างๆ โดยไม่ถูกกีดกัน เป็นจุดแข็งของสินค้าที่สามารถแข่งขันเทียบชั้นกับแบรนด์ของเล่นไม้ในต่างประเทศได้อย่างสบายๆ
วิชัย เตติวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แปลนครีเอชั่นส์ ผู้ผลิตและ จัดจำหน่ายของเล่นไม้ยางพาราแบรนด์แปลนทอยส์ กล่าวว่า นอกจากแนวคิดในเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ถือเป็นหัวใจหลักในการดำเนินงานของบริษัทแล้ว ในเรื่องของตัวสินค้า หรือโปรดักส์ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ฉะนั้นสินค้าของแปลนทอยส์จึงแบ่งออกเป็น 4 หมวด ได้แก่
1.หมวดของเล่นสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน หรือแปลนพรีสกูล (PlanPreschool)
2.หมวดของเล่นกิจกรรมจำลอง แปลนแอ็กทิวิตี (PlanAcivity)
3.หมวดของเล่นบ้านตุ๊กตา แปลนดอลล์เฮาส์ (PlanDollhouse)
4.หมวดของเล่นเมืองจำลอง แปลนซิตี (PlanCity) เป็นของเล่นที่จับกลุ่มเด็กทั่วไป หรือผู้ปกครองที่มีลูกอายุ 3-6 ขวบ
ต้นปีหน้าบริษัทจะเปิดตัวหมวดของเล่นใหม่อีก 1 หมวด คือ หมวดของเล่นเพื่อการเรียนรู้ เอ็ดดูเคชัน ทอยส์ (Education Toy) เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าไปยังโรงเรียนอนุบาล จนถึงโรงเรียนในระดับประถมต้น
บริษัทเล็งเห็นว่า กลุ่มโรงเรียนเหล่านี้จะให้ความสำคัญกับการเล่นเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก โดยเฉพาะโรงเรียนอินเตอร์ฯ โรงเรียน 2 ภาษา และโรงเรียน 3 ภาษา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปัจจุบันอัตราการเกิดของประชากรทั่วโลกมีอัตราเฉลี่ยต่ำลง ทำให้ครอบครัว 1 ครอบครัวมีเด็กเพียงคนเดียวต่อผู้ใหญ่ 5-6 คน ส่งผลให้เด็กได้รับการใส่ใจมากขึ้นและผู้ปกครองกล้าที่จะทุ่มเทกับลูกมากขึ้น และมองหาสิ่งที่ช่วยพัฒนาของลูกในเรื่องของการเรียนรู้ ความฉลาด ดังนั้นแปลนทอยส์ ซึ่งจับกลุ่มลูกค้าระดับบีขึ้นไป จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
ด้านแผนการดำเนินงานในปีหน้า บริษัทจะปรับสัดส่วนการขายในประเทศและสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นเป็น 10% ทำให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเหลือ 90% เพื่อบริหารความเสี่ยงในแง่ของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น สอดคล้องไปกับกำลังการผลิตที่ทางบริษัทได้ลงทุนไปแล้วเมื่อปี 2551-2552 ถึง 300 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 5 ล้านชิ้น จาก 2 ล้านชิ้น
ดังนั้น ในปีหน้านอกจากบริษัทจะขยาย ตลาดในประเทศทั้งลูกค้าทั่วไป และกลุ่มองค์กร ที่เป็นโรงเรียนต่างๆ แล้ว บริษัทยังจะขยายตลาดใหม่ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก โดยเล็งไปที่ประเทศในทวีปอเมริกาใต้ เช่น บราซิล ชิลี เป็นต้น ด้วยแผนการตลาดเชิงรุกในปีนี้บริษัทจึงตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 500 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 15% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมียอดขาย 450-480 ล้านบาท
วิชัย การันตีอีกว่า ไม่ว่าบริษัทจะทำ การตลาดอย่างไรก็จะไม่ลืมเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ล่าสุดบริษัทมีแผนลงทุน 350 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตพลังงานจากชีวมวล (Biomass Gasification & Power Generation) เพราะบริษัทเห็นขยะจากการผลิตของเล่นไม้ เช่น พวกขี้เลื่อย เศษไม้ จำนวนมหาศาลต่อวัน มาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิต กระแสไฟฟ้า หมุนเวียนใช้ในโรงงาน ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดเงินแล้ว ยังสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ปีละประมาณ 70-80 ล้านบาท คาดว่าโรงงานดังกล่าวจะเริ่มดำเนิน งานได้ในปีหน้า