แบงก์ชาติบอกว่าลดดอกเบี้ยแก้บาทแข็งไม่ได้
แบงก์ชาติเผยลดดอกเบี้ยนโยบายไม่ช่วยแก้เงินบาทแข็งค่า ความเสี่ยงด้านการเงินยังมีมากทั้งหนี้ครัวเรือนสูง การเก็งกำไรลงทุนมีความเสี่ยงมากขึ้น
แบงก์ชาติเผยลดดอกเบี้ยนโยบายไม่ช่วยแก้เงินบาทแข็งค่า ความเสี่ยงด้านการเงินยังมีมากทั้งหนี้ครัวเรือนสูง การเก็งกำไรลงทุนมีความเสี่ยงมากขึ้น
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เงินบาทแข็งค่าขึ้นเป็นผลจากเงินดอลลาร์สหรัฐมีทิศทางอ่อนค่า มีเงินทุนไหลเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ทำให้มีการเกินดุลบัญชีสะพัดทำให้เงินบาทแข็ง โดยเงินทุนไหลเข้าในลงทุนในหลักทรัพย์กระจุกตัวในบางช่วงทำให้ค่าเงินบาทผันผวน
ทั้งนี้ ธปท. มีความกังวลและเข้าดูแลเงินบาทอย่างใกล้ชิด แต่ก็เป็นห่วงที่ประเทศไทยจะมีความถูกจัดเป็นประเทศที่มีการแทรกแซงค่าเงิน
"อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของไทยอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาค การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจึงอาจไม่ส่งผลมากนักกับการแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็ง" นายวิรไท กล่าว
ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยนโยบายของอยู่ที่ระดับ 1.75% ซึ่งการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ล่าสุด ยังคงไว้เท่าเดิม เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวมากกว่าที่คาดไว้ มีการการขยายตัวทางเศรษฐกิจเหลือ 3.3% โดยคาดว่าการส่งออกจะขยายตัวได้ 0%
อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่ผ่านมา ธปท. ได้ปรับปรุงมาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาท และเพิ่มความเข้มงวดในการรายงานข้อมูลการลงทุนในตราสารของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งยังต้องรอประเมินผลว่ามาตรการที่ออกมาแก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่าได้หรือไม่
นอกจากนี้ ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินไทยโดยรวมไม่ได้ลดลง และมีบางจุดมีความเปราะบางเพิ่มขึ้น ทั้งหนี้ครัวเรือนสูง การเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุนมีพฤติกรรมลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และการออกกฎหมายความคุมสหกรณ์ออมทรัพย์ล่าช้า