5G ได้รับความสนใจจากผู้ใช้เทคโนโลยีทั่วโลก
เทคโนโลยี 5G กำลังเป็นที่สนใจในวงกว้างทั้งจากผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ตั้งแต่รูปแบบการใช้งาน อุตสาหกรรมที่จะได้รับประโยชน์ ไปจนถึงเม็ดเงินที่ 5G จะนำมาสู่ธุรกิจด้านการสื่อสาร นอกจากนี้ในบางภูมิภาคได้มีการเปิดให้บริการ 5G แล้ว
ปัจจุบัน เทคโนโลยี 5G กำลังเป็นที่สนใจในวงกว้างทั้งจากผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ตั้งแต่รูปแบบการใช้งาน อุตสาหกรรมที่จะได้รับประโยชน์ ไปจนถึงเม็ดเงินที่ 5G จะนำมาสู่ธุรกิจด้านการสื่อสาร นอกจากนี้ในบางภูมิภาคได้มีการเปิดให้บริการ 5G แล้ว ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมหลายรายได้ออกมาให้ข้อมูลในเรื่องของความเร็วแรง ความปลอดภัยสูง และการให้บริการแบบ Super Power ดังนั้นเทคโนโลยี 5G ในวันนี้จึงไม่ใช่เพียงเรื่องราวเลื่อนลอยอีกต่อไป แต่เป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่จับต้องได้และใช้งานได้จริง
งานศึกษาวิจัยจากศูนย์ศึกษาผู้บริโภค Ericsson Consumer Lab เมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่า ผู้บริโภคต่างคาดหวังว่า 5G จะช่วยแก้ปัญหาและเป็นทางออกในการใช้เครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก และเป็นตัวเลือกใหม่สำหรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายภายในบ้าน ซึ่งปัจจุบันยังมีตัวเลือกไม่มากนัก
ผู้บริโภคจำนวนมากต่างต้องการใช้ 5G และมีความต้องการที่จะเปลี่ยนค่ายหากผู้ให้บริการปัจจุบันไม่เปิดให้บริการ 5G โดยกว่าครึ่งของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในไทย จีน และอินเดีย และกว่าหนึ่งในสี่ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และแคนาดา คาดหวังว่าค่ายมือถือจะเปิดให้บริการ 5G และพร้อมจะย้ายค่ายหากค่ายมือถือปัจจุบันยังไม่ให้บริการ 5G ภายใน 6 เดือน
อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญไม่ใช่อยู่ที่การตัดสินใจใช้ 5G แต่เป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับบริการใหม่นี้ ผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั่วโลกกล่าวว่าพวกเขายินดีจ่ายเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่กลุ่มผู้ติดตามเทคโนโลยียินดีจ่ายเพิ่มถึง 32 เปอร์เซ็นต์ สำหรับรูปแบบการใช้งานและช่องทางการจ่ายเงินใหม่ๆ ที่นอกเหนือไปจากสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เร็วแรง เสถียร และมีความปลอดภัยสูง ในขณะที่ผู้บริโภคในประเทศไทยยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่ม 30 เปอร์เซ็นต์ สำหรับบริการ 5G ที่ตอบโจทย์ความต้องการ นอกจากนี้ ผู้ใช้สมาร์ทโฟนคาดการณ์ว่าแอปพลิเคชันและบริการต่าง ๆ จาก 5G จะเกิดขึ้นและแพร่หลายอย่างรวดเร็ว ภายใน 2-3 ปีหลังจาก 5G เปิดให้บริการ โดยอาจแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละประเทศ และพฤติกรรมของผู้บริโภคในอนาคตจะเปลี่ยนไปจากยุค 4G
สำหรับการดูวิดีโอ มีการคาดหวังว่า 5G จะรองรับการบริการ Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) ซึ่งจะมีผลให้ผู้บริโภคดูวิดีโอบนโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นกว่า 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และมีการใส่อุปกรณ์และแว่นตา AR และ VR อย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยผลการศึกษาจาก Ericsson Consumer Lab เปิดเผยอีกว่า ภายในปีพ.ศ. 2568 1 ใน 5 ของผู้ใช้ข้อมูลบนโทรศัพท์มือถือจะใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า 200 กิกกะไบท์ต่อเดือนบนสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G
ทั้งนี้ แนวโน้มเทคโนโลยีในปัจจุบันเริ่มปรากฏชัดเจนว่าสมาร์ทโฟนเพียงอย่างเดียวจะไม่สามารถรองรับ 5G ได้ เพราะผู้บริโภคไม่มั่นใจว่าคุณสมบัติของสมาร์ทโฟนในปัจจุบันจะใช้ประโยชน์จาก 5G ได้เต็มที่หรือไม่ ดังนั้น สมาร์ทโฟนควรได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นตามความต้องการของผู้ใช้งาน เช่น หน้าจอพับได้ การฉายภาพโฮโลกราฟฟิค 3 มิติ และกล้องแบบ 360 องศา โดยผู้ใช้งานกว่าครึ่งทั่วโลกเห็นตรงกันว่า ภายในอีก 5 ปีข้างหน้าจะยังคงมีการใช้สมาร์ทโฟนอยู่ แต่ทุกคนจะใส่อุปกรณ์เสริม รวมถึงแว่นตา AR ด้วย
ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนยังให้ความคิดเห็นว่าแอปพลิเคชันต่าง ๆ จะรองรับการใช้งาน 5G ภายใน 2-3 ปีหลังจากการเปิดตัวเทคโนโลยี 5G ส่วนสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สายภายในบ้านและอุปกรณ์มือถือที่สามารถดาวน์โหลดได้อย่างรวดเร็วในระดับวินาที จะแพร่หลายภายใน 1 ปี และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งาน สำหรับสิ่งที่ผู้คนรอคอยมากที่สุดคือทีวี 5G ที่มีความคมชัดสูง แทนการใช้ทีวีเคเบิล นอกจากนี้ ผู้ใช้สมาร์ทโฟนยังสนใจให้มี 5G Hot Zone ซึ่งเป็นพื้นที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและน่าเชื่อถือตามสนามบิน ร้านค้า และย่านออฟฟิศ
ปัจจุบัน ผู้บริโภคเริ่มเล็งเห็นศักยภาพของ 5G ในขณะที่เทคโนโลยีใหม่นี้ยังคงพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมด้านการสื่อสารทั่วโลกจะได้รับผลประโยชน์ทางธุรกิจจาก 5G มากถึง 619 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปีพ.ศ. 2569 บทสรุป คือ ผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมต้องเร่งพัฒนาแผนดำเนินงานธุรกิจ 5G เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค และเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการ