'อิชิตัน' อวดผลกำไรครึ่งแรกปี62 โตแรง 550% รับตลาดรวมชาเขียว6.4 พันล้านบาทในไทยฟื้น
ปรับกลยุทธ์รอบด้านทั้งการบริหารผลิตภัณฑ์ กิจกรรมการตลาด ขยายฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ แยกย่อยแคมเปญการตลาด พลิกกลับผลประกอบการ6เดือนแรกเฉียด3 พันล้านบาท เป้าสิ้นปีคาดโต 12%
ปรับกลยุทธ์รอบด้านทั้งการบริหารผลิตภัณฑ์ กิจกรรมการตลาด ขยายฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ แยกย่อยแคมเปญการตลาด พลิกกลับผลประกอบการ6เดือนแรกเฉียด3 พันล้านบาท เป้าสิ้นปีคาดโต 12%
นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตันกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยว่า ผลประกอบการธุรกิจงวดไตรมาส 2/2562 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 136.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 550% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนอยู่ที่ 30.4 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 19.8% เมื่อเทียบกับงวดไตรมาส 1/2562 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 114.20 ล้านบาท
ส่วนรายได้จากการขายอยู่ที่ 1,645.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,333 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากทิศทางดังกล่าว ส่งผลให้ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปีนี้ อิชิตันมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 251 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,940% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2.5 ล้านบาท มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 2,964.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2,654.5 ล้านบาท
นายตัน กล่าวว่าจากความสำเร็จในครั้งนี้ เป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้ในด้านต่างๆ ประกอบด้วย 1.การบริหารผลิตภัณฑ์ 2.การวางแผนกิจกรรมการตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ของสินค้าแต่ละผลิตภัณฑ์ 3.กลยุทธ์การเข้าถึงร้านค้าปลีกรายย่อยทั่วประเทศ ผ่านแคมเปญ “อิชิตัน ยกลัง ลุ้นเบนซ์ รวยทอง” เพื่อกระตุ้นตลาด Traditional Trade และ 4.การขยายตัวแทนจำหน่ายจาก DKSH เพิ่ม ส่งผลให้อิชิตันมีการกระจายสินค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ จากการขยายไลน์สินค้าเพื่อตอบรับเทรนด์สุขภาพ ภายใต้ผลิตภัณฑ์ชาเขียวพร้อมดื่มชิซึโอกะ โฮจิฉะ ชาเขียวคั่วพรีเมี่ยม ซึ่งนำเข้าใบชา 100% จากประเทศญี่ปุ่น ภายใต้กลยุทธ์สื่อสารการตลาดสร้างคุณค่าและประสบการณ์ใหม่ของตลาดชาเขียวพรีเมี่ยมในประเทศไทย และได้รับการตอบรับขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในกลุ่มชาเขียวระดับพรีเมี่ยมตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา จากปัจจุบันตลาดชาพรีเมี่ยมทั้งตลาดเติบโต 30.7% และเติบโตต่อเนื่อง มาตลอด3 ปี
ขณะที่บริษัทย่อย อิชิตัน อินโดนีเซีย รับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนน้อยลง จาก 55 ล้านบาทในไตรมาส 1/2562 เหลือเพียงขาดทุน 4.8 ล้านบาทในไตรมาส 2/2562 และมองว่า มีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากสินค้าได้รับการตอบรับ มีการบริหารจัดการ และการรับรู้ในแบรนด์ที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 ภาพรวมตลาดชาเขียวในประเทศไทยมีการเติบโตราว 5.5% ทั้งในแง่ยอดขายและปริมาณโตขึ้น 3.7% หรือมีมูลค่าอยู่ที่ 6,439 ล้านบาท แบ่งเป็นชาเขียวพรีเมี่ยมสัดส่วน 10.5% ของมูลค่าตลาดชาทั้งหมด
โดยชาเขียวพร้อมดื่มชิซึโอกะ มีส่วนแบ่งการตลาดชาอยู่ที่ 30.5% เป็นโอกาสขยายตลาดในประเทศไทย รวมถึง แผนการรุกตลาดกัมพูชา ลาว เมียนมา และ เวียดนาม (CLMV) และจีน อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง โดยในงวดไตรมาส 2 ที่ผ่านมา มีสัดส่วนส่งออกอยู่ที่ 27% ของยอดขายทั้งหมด บริษัทมั่นใจเป้าหมายรายได้ปีนี้จะเติบโต 12% จากปีก่อนที่มีรายได้ 5,216.2 ล้านบาท ตามที่วางไว้ได้