"โออาร์" บริษัทเรือธงใหม่กลุ่ม ปตท. ลุยธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก มุ่งสู่แบรนด์ระดับโลก
ปตท. เปิดตัวธุรกิจเรือธง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ "โออาร์" เจาะ 3 ธุรกิจหลัก น้ำมัน-นัน-ออยล์-ธุรกิจต่างประเทศ
ปตท. เปิดตัวธุรกิจเรือธง บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ "โออาร์" เจาะ 3 ธุรกิจหลัก น้ำมัน-นัน-ออยล์-ธุรกิจต่างประเทศ
นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ กล่าวในงาน "TOGETHER FOR BETTERMENT: รวมพลัง ร่วมสร้าง เพื่อทุกวันที่ดีขึ้น" พร้อมเปิดตัว "โออาร์" อย่างเป็นทางการ
โดยเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2561 บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ได้ปรับโครงสร้าง โดยนำหน่วยธุรกิจน้ำมันและบริษัทในเครือที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเดิมเป็นหน่วยธุรกิจหนึ่งของ ปตท. มาอยู่ภายใต้บริษัท ชื่อ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (โออาร์) มีฐานะเป็นบริษัทเรือธง (Flagship) ของกลุ่ม ปตท. ด้านการดำเนินธุรกิจน้ำมันและธุรกิจค้าปลีกทั้งในประเทศและต่างประเทศ
พร้อมวางวิสัยทัศน์ ในการเป็นแบรนด์ไทยชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจควบคู่กับการสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมชุมชน รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจชุมชนเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ ตลอดจนการสร้างมูลค่าร่วมให้เกิดแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุล
โออาร์ ประกอบด้วยธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน กลุ่มธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ (Non-Oil) และกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ โดยมีกลุ่มธุรกิจสนับสนุนช่วยผลักดันให้ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก สามารถดำเนินธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับกลุ่มธุรกิจน้ำมัน โออาร์ ครองส่วนแบ่งตลาดรวมน้ำมันเป็นอันดับ 1 ในประเทศมาอย่างยาวนานกว่า 26 ปี โดยมีธุรกิจที่โดดเด่น ได้แก่ สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น (PTT Station) ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนสถานีบริการน้ำมันฯ ทั่วประเทศกว่า 1,850 แห่ง
ผลิตภัณฑ์หล่อลื่น ภายใต้แบรนด์ พีทีที ลูบริแคนท์ส (PTT Lubricants) ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในประเทศอย่างต่อเนื่องถึง 10 ปี และส่งออกไปจำหน่ายแล้วกว่า 40 ประเทศทั่วโลก การจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ให้กับลูกค้ากลุ่มอากาศยาน เรือขนส่ง และอุตสาหกรรม การจำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied Petroleum Gas: LPG) ให้กับลูกค้าภาคอุตสาหกรรม ภาคขนส่ง และภาคครัวเรือน ภายใต้แบรนด์ ก๊าซหุงต้ม ปตท. โดยมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหัวใจสำคัญ
สำหรับกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ (Non-Oil) โออาร์ คือ ผู้บุกเบิกธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ (Non-Oil) ภายในสถานีบริการน้ำมันฯ เป็นรายแรกของประเทศ โดยมีร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน (Café Amazon) ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี โดยปัจจุบันมีจำนวนสาขาภายในประเทศรวมกว่า 2,800 สาขา
นอกจากนี้ โออาร์ ยังได้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าและบริการอื่น ๆ (Non-Oil) มาเพิ่มความหลากหลาย เติมเต็มผลิตภัณฑ์และบริการ อาทิ ร้านค้าสะดวกซื้อจิฟฟี่ ชานมไข่มุกเพิร์ลลี่ ที เท็กซัส ชิคเก้น ฮั่วเซ่งฮง ติ่มซำ ศูนย์บริการยานยนต์ ฟิต ออโต้ (FIT Auto) ฯลฯ
รวมถึงบัตรพีทีที บลูการ์ด (PTT Blue Card) เป็นกลไกสำคัญในการสร้างความผูกพันและนำไปสู่การออกแบบเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภคเป็นการรายบุคคล (Individualized Customer Experience) ผ่านเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Big Data Analytics)
สำหรับกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ โออาร์ นำรูปแบบทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จภายในประเทศ ได้แก่ สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน ร้านค้าสะดวกซื้อจิฟฟี่ และศูนย์บริการยานยนต์ ฟิต ออโต้ ไปต่อยอดโดยปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เหมาะกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ อีกทั้งยังได้นำผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีไทย (SMEs) ไปขยายธุรกิจ สร้างการเติบโตร่วมกันในต่างประเทศ
ปัจจุบัน โออาร์ มี สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ในประเทศ ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเมียนมา รวมกว่า 280 แห่ง ร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน ในประเทศ ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ เมียนมา สิงคโปร์ มาเลเซีย จีน ญี่ปุ่น และโอมาน รวมกว่า 200 สาขา ร้านค้าสะดวกซื้อจิฟฟี่ กว่า 70 สาขา รวมถึงศูนย์บริการยานยนต์ ฟิต ออโต้ อีกด้วย
โออาร์ ดำเนินธุรกิจโดยนำความต้องการของลูกค้ามาเป็นศูนย์กลาง (Customer Focus) และใช้แนวคิด โซเชียล อินคลูซีฟเนส (Social Inclusiveness) เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มโดยเฉพาะสังคมชุมชนและเอสเอ็มอีไทย ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบรูปแบบธุรกิจเพื่อร่วมกันสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ที่ โออาร์ เข้าไปดำเนินธุรกิจ
โดย โออาร์ มุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมของผลิตภัณฑ์และบริการ ตลอดจนเป็นผู้ทดลองดำเนินธุรกิจต้นแบบตามที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มได้ช่วยกันออกแบบไว้จนประสบความสำเร็จ เพื่อส่งมอบธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแล้วนั้น ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยได้เป็นเจ้าของ ดังจะเห็นได้จากการที่สถานีบริการน้ำมัน พีทีที สเตชั่น และร้านกาแฟ คาเฟ่ อเมซอน กว่าร้อยละ 80 ลงทุนและดำเนินการโดยผู้แทนจำหน่าย หรือ แฟรนไชส์ซี
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของ โออาร์ เป็นไปตามแนวทางบีซีจี (BCG: Bio-Economy Circular-Economy Green-Economy) ซึ่งหมายถึงเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว โออาร์ เป็นผู้นำการจำหน่ายน้ำมันดีเซล บี 10 ให้เป็นน้ำมันดีเซลชนิดหลักของประเทศ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์ม และช่วยลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 การใช้แก้วกระดาษเคลือบพลาสติคชีวภาพ ฯลฯ
ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจของ โออาร์ ช่วยให้เกิดการสร้างงานของประเทศกว่า 85,000 อัตรา และช่วยส่งเสริมเอสเอ็มอีไทยกว่า 3,800 ราย โออาร์ จะเติบโตร่วมกับสังคมชุมชนไทยและเอสเอ็มอีไทย พร้อมนำเอสเอ็มอีไทย สร้างการเติบโตร่วมกันในเวทีโลก เพื่อมุ่งสู่การเป็นแบรนด์ไทยชั้นนำระดับโลกที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ