อัดงบ 4.6 หมื่นล้าน ซ่อมสร้างถนนชนบท ผุดเส้นตะนาวศรีเลียบฝั่งอันดามันบูมท่องเที่ยว
กรมทางหลวงชนบท เตรียมเปิดประมูลงานซ่อม-สร้างถนนชนบททั่วประเทศ 4.6 หมื่นล้านบาท ภายใน 4 เดือน จ่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งอันดามันช่วงราชบุรี-ระนอง-ภูเก็ต หนุนการท่องเที่ยว
กรมทางหลวงชนบท เตรียมเปิดประมูลงานซ่อม-สร้างถนนชนบททั่วประเทศ 4.6 หมื่นล้านบาท ภายใน 4 เดือน จ่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งอันดามันช่วงราชบุรี-ระนอง-ภูเก็ต หนุนการท่องเที่ยว
นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า แผนพัฒนาถนนในภูมิภาค ปี 2563 มีงบประมาณทั้งสิ้น 48,000 ล้านบาท แบ่งเป็น งบลงทุน 46,560 ล้านบาท และงบประจำ 1,440 ล้านบาท โดยงบลงทุน 97% เป็นงานก่อสร้างและปรับปรุงถนนทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 3,000 สัญญา คาดจะเร่งเปิดประมูลทั้งหมดภายในเดือน มี.ค. ซึ่งจะมีการพัฒนาถนนเพื่อการท่องเที่ยว 1,000 ล้านบาท ได้แก่ พัฒนาถนนท่องเที่ยวภาคใต้ 537 ล้านบาท ถนนไทยแลนด์ริเวียร่า ถนนเลียบทะเลอ่าวไทย และ ถนนเลียบทะเลอันดามัน รวมถึงถนนเชื่อมต่อเส้นทางเขตเศรษฐกิจชายแดน ขณะที่งบด้านการเพิ่มความปลอดภัยทางถนน อยู่ที่ 4,000 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นราว 2,000 แห่งทั่วประเทศ
ด้านงบประมาณปี 2564 จะสรุปกรอบเพื่อเสนอกระทรวงคมนาคมภายในช่วงกลางเดือนม.ค. 2563 คาดว่าจะเสนอกรอบที่ราว 50,000 ล้านบาท ซึ่งจะมีโครงการขนาดใหญ่อาทิ แผนพัฒนาถนนผังเมืองปราจีนบุรี 1,800 ล้านบาท พัฒนาถนนผังเมืองเชียงราย 1,300 ล้านบาท และพัฒนาถนนผังเมืองมุกดาหาร 900 ล้านบาทเป็นต้น
อย่างไรก็ตามจะต้องเร่งเบิกงบประมาณปี 2562 ซึ่งค้างท่ออยู่ราว 2,000 ล้านบาท เพราะมีผลต่อการเสนอของบประมาณปี 2564 โดยปัญหาของงบค้างท่อนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากเศรษฐกิจไม่ดี ผู้รับเหมาจึงมีการทิ้งงานก่อสร้างราว 7 ราย จึงต้องเร่งเปิดประมูลหาผู้รับจ้างรายใหม่
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาถนนเลียบชายฝั่งอันดามัน มีชื่อว่า เส้นทางตะนาวศรีนั้น จะเลาะเลียบทะเลชายฝั่งอันดามัน เป็นถนนเพื่อการท่องเที่ยวเลียบชายฝั่ง (Scenic Route) เช่นเดียวกับเส้นทางไทยแลนด์ริเวียร่า โดยมีจุดเริ่มต้นที่ จ.ราชบุรี ใช้เส้นทางสายรองช่วงจอมบึง-แก่งกระจาน ก่อนสลับมาใช้ถนนเพชรเกษมสายหลักช่วง เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนไปแยกเข้าเส้นทาง Scenic Route ช่วงชุมพร-ระนอง-พังงา ก่อนสิ้นสุดเส้นทางที่จังหวัดภูเก็ต ระยะทางรวมมากกว่า 1,000 กม. ซึ่งเป็นไปตามแผนแม่บทยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวที่รัฐบาลกำหนดไว้ โดยในปัจจุบัน อยู่ระหว่างการศึกษาและจัดทำผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) รวมถึงการออกแบบรายละเอียดของโครงการฯ ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการต่างๆ และการจัดซื้อจัดจ้างต่อไป
นายปฐม กล่าวถึง การใช้ยางพาราตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ซึ่งต้องตั้งงบประมาณปี 2564 เพื่อดำเนินการติดตั้งแผ่นยางพาราครอบบิเออร์ (Rubber Fender barrier) นั้น กำหนดเป้าการใช้นำยางไม่ต่ำกว่า 25,000 ตัน เพื่อมาใช้ในโครงการก่อสร้างของ ทช.มูลค่า 14,500 ล้านบาท ขณะที่ในปีงบประมาณ 2563 นั้นคาดจะใช้น้ำยางดิบประมาณ 25,000 ตัน