ล้อมคอกคำสั่งATO
โบรกเกอร์ตื่นล้อมคอก หาวิธีป้องกันรับมือคำสั่งซื้อ ATO ราคาสูงผิดปกติ
โบรกเกอร์ตื่นล้อมคอก หาวิธีป้องกันรับมือคำสั่งซื้อ ATO ราคาสูงผิดปกติ
แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า โบรกเกอร์หลายแห่งเริ่มหาวิธีป้องกันคำสั่งซื้อหุ้นก่อนเปิดตลาด หรือ ATO หลังจากเกิดเหตุการณ์กับ TOP13CA ที่ราคาเปิดสูงผิดปกติ ซึ่งโบรกเกอร์บางแห่งมีแนวคิดไม่รับคำสั่งซื้อขายหุ้น ATO โดยเฉพาะหุ้นที่เข้าซื้อขายวันแรก เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ไม่มีความแน่นอนและผันผวนสูง
นอกจากนี้ โบรกเกอร์บางแห่งได้ลดความเสี่ยงหลักทรัพย์ที่ราคาผันผวนสูง ด้วยการให้วางเงินสดก่อนซื้อในบัญชีแคชบาลานซ์ หรือจำกัดจำนวนหุ้นแต่ละคำสั่ง
นางบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ความผิดพลาดที่เกิดกับลูกค้ากิมเอ็งฯ ใน|ส่วน TOP13CA เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นกิมเอ็งฯ เป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายทั้งหมด
สำหรับการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอีกนั้น บล.กิมเอ็งฯ ได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องและให้ฝ่ายระบบซื้อขายมาชี้แจงเพื่อหาทางแก้ไข
“บริษัทมีมาตรการแก้ไขได้แล้ว ซึ่งจะนำโปรแกรมในการมอนิเตอร์มาใช้ เพื่อติดตามการซื้อขายหุ้น” นางบุญพร กล่าว
นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) กล่าวว่า บริษัทไม่ห้ามเจ้าหน้าที่การตลาดและลูกค้าคีย์คำสั่งซื้อขายหุ้น ATO ทางอินเทอร์เน็ต แต่เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นต้องรับผิดชอบเอง เพราะคำสั่ง ATO เป็นคำสั่งที่มีความไม่แน่นอน
นอกจากนี้ ยังกำหนดจำนวนหุ้นสูงสุดต่อ 1 คำสั่งซื้อ (ออร์เดอร์) ไม่เกิน 9.9 ล้านหุ้น
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีรภพ กรรมการผู้จัดการ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า สมาคมยังไม่รู้รายละเอียดเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นความผิดพลาดของระบบ บล.กิมเอ็งฯ หรือความผิดลูกค้า ซึ่งต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง
สำหรับมาตรการป้องกันนั้นนายกฯ สมาคม กล่าวว่า ได้เสนอตลาดหลักทรัพย์กำหนดให้หลักทรัพย์ที่มีความผันผวนวางเงินสดก่อนซื้อในบัญชีแคชบาลานซ์ ซึ่งตลาดอยู่ระหว่างการพิจารณา
“ขณะนี้ถือว่าแต่ละโบรกเกอร์มีการป้องกันตัวกันเองดีอยู่แล้ว ซึ่งบางแห่งกำหนดให้ใช้บัญชีแคชบาลานซ์กับหุ้นที่ราคาผันผวน และ DW” นายกสมาคมฯ กล่าว
แหล่งข่าวจากวงการตลาดทุน เปิดเผยว่า การสั่งห้ามนักลงทุนส่งคำสั่งซื้อ ATO ไม่สามารถทำได้ ถือเป็นการลิดรอนสิทธินักลงทุนที่มีเครดิตหรือมีเงินลงทุน
สำหรับหุ้น TCAP13CB ซึ่งเป็นตัวที่ 5 ของ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ในโครงการ “DW รุ่นใหม่ 13 วัน ... 13 ตัว “ปรากฏว่าเปิดการซื้อขายวันแรก ปกติ ไม่มีเหตุการณ์ซ้ำรอย TOP13CA เปิดตลาดที่ราคา 2.90 บาท และไล่ขึ้นไปสูงสุดที่ 3.10 บาท อย่างรวดเร็ว จากนั้นมีแรงขายออกมาต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนไม่กล้าเข้ามาเก็งกำไร กดราคาปรับตัวลงต่อเนื่อง และปิดต่ำสุดที่ 1.96 บาท แต่ยังสูงกว่าราคาเสนอขายที่ 1.01 บาท ถึง 94% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 153 ล้านบาท
ส่วน TOP13A ราคารูดลงรุนแรง 1.95 บาท หรือ 33.33% ปิดที่ 3.90 บาท มูลค่าซื้อขายเพียง 20 ล้านบาท เทียบกับวันแรกที่ผิดปกติเปลี่ยนมือมากถึง 307 ล้านบาท และคาดว่าราคายังมีโอกาสอ่อนตัวลงเข้าสู่ความเหมาะสม
ด้าน บล.เคจีไอ กล่าวว่า ผู้บริหารของ KGI มีนโยบายให้เลื่อนการเสนอขาย DW ที่เหลือจำนวน 6 ตัวออกไป เนื่องจากต้องการชะลอความร้อนแรงและให้เวลากับนักลงทุนได้ทำความเข้าใจกับ DW ให้มากกว่านี้
น.ส.นฤมล อาจอำนวยวิภาส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ KGI กล่าวว่า DW ทั้ง 6 ตัวที่ถูกเลื่อนการเสนอขาย ได้แก่ CPAL13CA, PTTA13CA, LH13CA, PTTE13CC, BBL13CA และ KBAN13CC
“BANP13CC และ KTB13CA จึงเป็น DW 2 ตัวสุดท้ายของปีนี้ ที่ KGI จะได้เสนอขายให้กับนักลงทุน” น.ส.นฤมล กล่าว
ตลาดหลักทรัพย์กำหนดให้นักลงทุนต้องวางเงินสดทั้ง 100% ก่อนซื้อ BAY13CA, IVL13CB, TOP13CA ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. ถึงวันที่ 17 ธ.ค. 2553