ยาสูบปรับใหญ่ ตั้งเป้ากลับมากำไรพันล้านเหมือนอดีต

นายภาณุพล รัตนกาญจนภัทร ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) กล่าวว่า ยสท. จัดตั้งทีม Brand Ambassador หรือบุคคลที่จะทำหน้าที่สื่อสารออกไปว่า ยสท. ทำอะไรบ้าง นอกจากนี้ ต้องสร้างพันธมิตรในทุกระดับทั้งชาวไร่ผู้เพาะปลูกใบยาสูบในสังกัดกว่า 50,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ การพบปะเยี่ยมเยียนคู่ค้า Modern trade ร้านค้าส่งยาสูบทั่วประเทศ การส่งเสริมช่องทางการจำหน่าย หรือแม้กระทั่งการร่วมมือกับ Stakeholder ทุกฝ่ายสร้างประโยชน์แบบ win-win

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ ยสท. ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจที่มีรายได้มากมายมหาศาลเหมือนเช่นในอดีตที่ผ่านมา ไม่สามารถจำหน่ายบุหรี่ได้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ยังมีโครงสร้างภาษีที่ทำให้ ยสท. สูญเสียโอกาสในการทำกำไร ยสท. จึงต้องหารายได้จากทุกช่องทาง การส่งเสริมให้มีการปลูกพืชเศรษฐกิจอื่นๆ ทดแทนยาสูบ

อีกทั้ง ยสท. ยังมีแผนการพัฒนาที่ดินทั้งในส่วนกลางและสำนักงานยาสูบส่วนภูมิภาค 7 หมื่นไร่ เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้ให้กับองค์กรในอนาคต การปราบปรามบุหรี่เถื่อน บุหรี่ผิดกฎหมาย ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สรรพสามิต เจ้าหน้าที่ศุลกากร และร้านค้าทั่วประเทศ เพื่อมิให้บุหรี่ผิดกฎหมายมาแย่งส่วนแบ่งการตลาดของบุหรี่ ยสท. ซึ่งหมายถึงการทำให้รัฐเสียประโยชน์

"ยาสูบยุคใหม่ต้องกล้าเปลี่ยนแปลงเพื่อความมั่นคงและยั่งยืน นโยบายที่ ยสท. ภารกิจเร่งด่วนที่สำคัญที่สุด คือ การเสนอปรับปรุงแก้ไขโครงสร้างภาษีให้เหมาะสม เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ เกษตรกร และทุกฝ่าย และเดินหน้าส่งเสริมการปลูกพืชเศรษฐกิจเพื่อทดแทนยาสูบ เช่น กัญชา-กัญชง เพื่อสร้างโอกาสการลงทุนในอนาคตต่อไป" นายภาณุพล กล่าว

นายภาณุพล กล่าวว่า ปี 2560 ยสท. มีกำไร 9,400 ล้านบบาท ปี 2562 กำไร 513 ล้านบาท ปี 2563 กำไร 500 ล้านบาท และปี 2564 คาดว่าจะกลับมามีกำไรมากเหมือนในอดีตที่ผ่านมาจากการปรับองค์กรครั้งใหญ่นี้