ศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ (EnCo) อาคารประหยัดพลังงาน เพื่อความยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ซึ่งมีระบบคมนาคมขนส่งมวลชน และการสัญจรที่สะดวก เป็นย่านธุรกิจการค้าและที่อยู่อาศัย ปัจจุบัน EnCo เป็นที่ตั้งของหน่วยงานต่างๆ ที่มีภารกิจและดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานของประเทศ เช่น กระทรวงพลังงาน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ตลอดจนบริษัท ในเครือ ปตท. เป็นต้น

หากมองรูปลักษณ์จากภายนอก จะเห็นถึงความมีเอกลักษณ์ และความโดดเด่นของอาคารที่เป็นรูปทรงของ “เปลวไฟ” ที่เคลื่อนไหวในลักษณะพวยพุ่งขึ้นสู่ที่สูง แสดงถึงความโชติช่วงขององค์กร และสื่อถึงรูปทรงของ “หยดน้ำมัน” (Oil Drop) ซึ่งรูปทรงทั้งสองสื่อถึงภาพลักษณ์ด้าน “พลังงาน” และแฝงไว้ด้วยความอ่อนช้อยของความเป็นไทย จนกลายเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกแห่งหนึ่ง

EnCo มีพื้นที่รวมประมาณ 300,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย อาคารสำนักงาน Building A สูง 36 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 118,000 ตารางเมตร เป็นที่ทำการของบริษัทในเครือ ปตท. บริษัทพันธมิตร และพื้นที่สำนักงานให้เช่า อาคารสำนักงาน Building B สูง 25 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 61,400 ตารางเมตร เป็นที่ทำการหลักของกระทรวงพลังงาน และพื้นที่สำนักงานให้เช่า อาคารเอนกประสงค์ Building C สูง 8 ชั้น พื้นที่รวมประมาณ 7,600 ตารางเมตร ประกอบด้วยพื้นที่ให้เช่าเชิงพาณิชย์ ธนาคาร ศูนย์อาหาร ห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง และศูนย์ออกกำลังกาย เพื่อสันทนาการ มีอาคารจอดรถ 2 อาคาร สูง 10 ชั้น พร้อมชั้นใต้ดิน 2 ชั้น จอดรถได้ประมาณ 2,500 คัน และอาคารผลิตน้ำเย็น (Electric Chiller) กำลังผลิต 5,400 ตันความเย็นต่อชั่วโมง

หัวใจสำคัญของการออกแบบคือการออกแบบอาคารในเชิงอนุรักษ์พลังงาน เป็นอาคารยั่งยืน มีสภาพแวดล้อมที่ดี และมีความปลอดภัยสูง อาคาร EnCo จึงได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ใช้วัสดุ อุปกรณ์ และมีแนวคิดในการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ตั้งแต่การออกแบบด้านภูมิสถาปัตย์ที่คำนึงถึงผู้ใช้อาคารเป็นหลัก ภายใต้แนวคิด Office in the Park ทำให้เกิดบรรยากาศการทำงานที่ร่มรื่นเป็นกันเอง และสามารถประสานการใช้งานในส่วนต่างๆ ของอาคารเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ในขณะที่มีพื้นที่สีเขียวรอบอาคารที่ช่วยลดความร้อน พร้อมทั้งนำแผงโซลาร์เซลล์ ติดตั้งบนหลังคาอาคาร Building A, B และอาคารจอดรถทั้ง 2 อาคาร ซึ่งสามารถนำพลังงานจากแสงอาทิตย์มาผลิตไฟฟ้าได้โดยตรง พร้อมติดตั้งระบบ Monitoring แสดงผลการผลิตไฟฟ้าเพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ยังมีระบบการบริหารจัดการน้ำ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วน “น้ำดี” รับน้ำจากการประปานครหลวง จ่ายไปยังอ่างล้างหน้า อ่างซักล้าง และส่วนที่ 2 “น้ำชำระปฏิกูล” โดยรับน้ำจากน้ำเสียของน้ำดี นำมาผ่านการบำบัด ฆ่าเชื้อ และรับน้ำจากน้ำฝนบางส่วน เพื่อจ่ายน้ำไปยังโถปัสสาวะและโถส้วม รวมถึงมีการต่อท่อน้ำเสียจาก EnCo ส่งไปยังระบบบำบัดน้ำเสียของ กทม. โดยตรงเพื่อบำบัดน้ำเสียให้ได้มาตรฐานก่อนปล่อยลงสู่สาธารณะต่อไป

EnCo ได้มีแนวคิดการออกแบบ เพื่อการเป็นต้นแบบในการอนุรักษ์พลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยสร้างสรรค์ให้เป็นทั้งอาคารยั่งยืน (Sustainable Building) อาคารอัจฉริยะ (Intelligent Building) รวมทั้งเป็นอาคารเขียว (Green Building) โดยเป็นอาคารอนุรักษ์พลังงานที่ได้ใบรับรองมาตรฐานอาคารอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม หรือ LEED ประเภท Core & Shell Version 2.0 ในระดับ Platinum ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตามเกณฑ์ LEED ของสภาอาคารเขียวของสหรัฐอเมริกา (U.S. Green Building Council) และยังเป็นอาคารแห่งแรกของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงยังเป็นกลุ่มอาคารสำนักงานและพาณิชย์ (Office and Commercial Multiple Building Complex) แห่งแรกนอกสหรัฐอเมริกาที่ได้รับมาตรฐานนี้ โดยการออกแบบได้กำหนดรูปทรงอาคารให้มีลักษณะผิวโค้ง (Aerodynamics) ช่วยลดอุณหภูมิและความร้อนของเปลือกนอกอาคาร ทำให้เกิดความเย็นของอาคารและสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ผิวอาคารใช้วัสดุที่เป็นกระจกประสิทธิภาพสูง ช่วยลดความร้อนและประหยัดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มีระบบอัจฉริยะควบคุมส่วนต่างๆ ของอาคาร เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบแสงสว่าง ระบบปรับอากาศ ระบบลิฟต์โดยสาร ระบบจ่ายน้ำ ระบบป้องกันแผ่นดินไหว รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัย ที่ล้วนเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบัน

นอกเหนือจากการออกแบบของอาคารที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ขององค์กรด้านพลังงาน โดดเด่นด้วยนวัตกรรมของเทคโนโลยีการประหยัดพลังงานในทุกๆ จุดของอาคาร  EnCo ยังมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์ใช้สอยของพื้นที่อย่างคุ้มค่าผสมผสานกับการอนุรักษ์พลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเป็นอาคารต้นแบบที่บริหารจัดการพลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมและสมดุลระหว่างการประหยัดพลังงานกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่สะดวกสบายของผู้ใช้อาคารอีกด้วย