posttoday

‘บีโอไอ’ เร่งดึงต่างชาติลงทุนไทยเพิ่มแรงจูงใจ ยกเว้นภาษีสูงสุด

30 มิถุนายน 2564

บอร์ดบีโอไอ ยกเครื่องมาตรการส่งเสริมลงทุน เพิ่มสิทธิประโยชน์ R&D -เซมิคอนดักเตอร์ หนุนอุตสาหกรรมดิจิทัล พร้อมส่งเสริมกิจการใหม่ด้านบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ

น.ส.ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็น ประธาน ได้พิจารณาเห็นชอบการปรับปรุงมาตรการและประเภทกิจการการส่งเสริมการลงทุน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ประกอบไปด้วย 1.กรณีที่มีการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 1 ของยอดขายรวม 3 ปีแรก หรือไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท โดยจะไม่กำหนดเพดานการยกเว้นภาษีเงินได้ จากเดิมกำหนดจำนวนปียกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้นอีก ไม่เกิน 5 ปี

2. ยังเพิ่มวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็น 2 เท่า สำหรับกรณีที่มีการลงทุนเพิ่มในการฝึกอบรม หรือฝึกการทำงาน เพื่อพัฒนาทักษะเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้กับนักศึกษาที่อยู่ระหว่างการศึกษาในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

3. กรณีที่เงินลงทุนหรือค่าใช้จ่ายที่เข้าข่าย เช่น วิจัยพัฒนา ฝึกอบรม ออกแบบ และพัฒนา Supplier ไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ ก็ยังจะได้รับวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนตามเงินลงทุนหรือค่าใช้จ่ายเหล่านี้ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมต้นน้ำของอิเล็กทรอนิกส์

นอกจากนี้ได้ปรับปรุงการส่งเสริมการลงทุน อุตสาหกรรมการผลิตเวเฟอร์ที่ใช้เงินลงทุนสูง และใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง โดยเพิ่มสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษี เงินได้นิติบุคคลสูงสุด 10 ปี  เพื่อดึงการลงทุนจากต่างประเทศรายใหม่และสนับสนุนการขยายฐานการผลิต ของรายเดิมในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์หรืออุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ และแผ่นวงจรพิมพ์ (PCB) ตามความต้องการของตลาดที่มีแนวโน้มไปสู่รุ่นที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตและเงินลงทุนสูง และเป็นสายการผลิตแบบอัตโนมัติ จึงได้ปรับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุดเป็น 8 ปีทั้งนี้จะต้องมีการลงทุนค่าเครื่องจักรอย่างน้อย 21,500 ล้านบาทขึ้นไป 

‘บีโอไอ’ เร่งดึงต่างชาติลงทุนไทยเพิ่มแรงจูงใจ ยกเว้นภาษีสูงสุด

ส่วนอุตสาหกรรม PCBA ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่องก็ได้ปรับสิทธิประโยชน์สำหรับโครงการที่มี เงินลงทุนค่าเครื่องจักรอย่างน้อย 500 ล้านบาท ปรับปรุงประเภทกิจการ เงื่อนไขและสิทธิประโยชน์อุตสาหกรรมดิจิทัล เพื่อสร้างความยืดหยุ่นและรวดเร็ว ในการให้การส่งเสริมฯ มุ่งให้เกิดการสร้างบุคลากรไทยด้านไอทีและสร้างให้เกิดกระบวนการพัฒนาในประเทศ บีโอไอ

นอกจากนี้ยังได้ยุบรวมกิจการซอฟต์แวร์ กิจการให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลและกิจการ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ใหม่ ให้เหลือเพียง 1 ประเภท ได้แก่ กิจการพัฒนาซอฟต์แวร์ แพลตฟอร์มเพื่อให้บริการดิจิทัล หรือดิจิทัลคอนเทนต์เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการให้การส่งเสริมการลงทุน

และเพิ่มสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปีโดยมีเงื่อนไขต้องจ้างงาน และพัฒนาบุคลากรไทยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) หรือได้รับใบรับรองมาตรฐานด้านไอที(CMMI ระดับ 2)

ขณะเดียวกันได้ยกระดับการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ โดยเพิ่มประเภทกิจการกลุ่มบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ (Smart Packaging) เช่น ช่วยรักษาคุณภาพอาหาร ยืดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์  โดยให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 8 ปี  พร้อมทั้งปรับปรุงสิทธิและประโยชน์ในกลุ่มวัตถุดิบสำหรับผลิตบรรจุภัณฑ์ได้แก่ เม็ดพลาสติกรีไซเคิล เกรดพิเศษ คอมพาวด์พลาสติกชนิดพิเศษ รวมถึงการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ต่อเนื่อง โดยให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินได้ นิติบุคคล 5 - 8 ปี

สำหรับการส่งเสริมการลงทุนกิจการศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (International Business Center: IBC) และกิจการสนับสนุนการค้าและการลงทุน (Trade and Investment Support Office: TISO)ได้เพิ่มขอบข่ายให้ครอบคลุมการให้กู้ยืมเงินแก่วิสาหกิจในเครือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน ให้เกิด ความคล่องตัวในการให้บริการแก่วิสาหกิจในเครือทั้งในและต่างประเทศและสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็น ศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศในการให้บริการแก่วิสาหกิจในเครือ

“การปรับปรุงสิทธิประโยชน์การลงทุนครั้งนี้ จะมีส่วนช่วยเร่ง การวิจัยและพัฒนา การพัฒนาบุคลากร และดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมและบริการที่ใช้นวัตกรรม เทคโนโลยีที่สร้าง มูลค่าเพิ่มสูง ให้เพิ่มขึ้น เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเหล่านี้ให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และเป็นรูปธรรม ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อเป็นแหล่งรองรับ การลงทุนในภูมิภาค” น.ส.ดวงใจกล่าว