kaidee ตั้งเป้าเป็นแพลตฟอร์มรถยนต์มือหนึ่งและมือสองบนออนไลน์
kaidee ตั้งเป้าเป็น One-Stop Platform สำหรับแพลตฟอร์มรถยนต์มือหนึ่งและมือสองบนออนไลน์
นายมาร์ค นอสเวิร์ธที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ kaidee กล่าวว่า kaidee เป็นตลาดซื้อขายของออนไลน์ชั้นนำของไทยมายาวนานกว่า 10 ปี ด้วยจุดเด่นของการเป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการครบวงจร ตอบโจทย์ทั้งความสะดวก ง่ายดาย และรวดเร็ว อีกทั้งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบบริการที่ตรงใจ และตอบสนองพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้คน รวมถึงความหลากหลายของสินค้าที่มีมากกว่า 30 หมวด จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ kaidee ประสบความสำเร็จและเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายของออนไลน์ชั้นนำที่ผู้ซื้อและผู้ขายนิยมใช้งานมากที่สุดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
“โดยในปี 2021 ภายหลังจากที่ kaidee ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม EMPG ซึ่งเป็นกลุ่มทุนผู้เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสชั้นนำของโลก ซึ่งได้เข้ามาพัฒนาเทคโนโลยี องค์ความรู้ และทรัพยากรการทำงานด้านต่างๆ ส่งผลให้ kaidee เติบโตอย่างก้าวกระโดดโดยมีการเติบโตมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ในปีที่ผ่านมาที่มีการระบาดของ COVID โดย kaidee ได้มีการปรับโครงสร้างการบริการบนแพลตฟอร์มในปีที่ผ่านมา เพื่อเจาะตลาดธุรกิจยานยนต์และอสังหาริมทรัพย์ หลังจากตระหนักถึงความท้าทายที่พันธมิตรของเราต้องเผชิญความยากลำบากในการทำการตลาดในกลุ่มนี้ ซึ่งด้วยความตั้งใจในการเป็นส่วนหนึ่งที่จะพลิกฟื้นสถานการณ์การขายของสองธุรกิจนี้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ นี่จึงเป็นเป้าหมายสำคัญของ kaidee ในวันนี้ที่จะไม่ใช่แค่การสร้างการเติบโตธุรกิจ แต่จะต้องส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจของพันธมิตรให้เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน”
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในบริการสำคัญและถือเป็นบริการที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา คือ kaidee AUTO ที่จากเดิมถือเป็นตลาดซื้อขายรถยนต์มือสองบนออนไลน์ชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันได้มีการจับมือกับค่ายรถแบรนด์ดังและดีลเลอร์รถยนต์มากกว่า 1,000 รายทั่วประเทศ
หนึ่งในบริการสำคัญที่เติบโตอย่างมากคือ kaidee AUTO ซึ่ง kaidee ถือเป็นผู้นำแพลตฟอร์มการซื้อขายรถมือสองออนไลน์ในประเทศไทย โดยปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มือสองกว่า 1,000 รายทั่วประเทศที่ได้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์มของ kaidee เพื่อทำการตลาดและจำหน่ายรถยนต์มือสอง
นายโฮเซน ราฟัตเนจาด ผู้อำนวยการอาวุโส ของ kaidee กล่าวว่า แม้ในภาพรวมของตลาดรถยนต์ในประเทศไทยจะลดลงซึ่งเป็นผลจากภาพรวมเศรษฐกิจและผลกระทบจาก COVID แต่อย่างไรก็ตามเราคาดว่าตลาดรถยนต์จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในปี 2565 ซึ่งคาดว่าจะเติบโตที่ 3 – 5% ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่จะทำให้ภาพรวมธุรกิจของ kaidee เติบโตต่อเนื่องเช่นกันโดยมีปัจจัยสำคัญจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งแม้จะมีความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่ kaidee AUTO ก็สามารถเติบโตได้ถึง 56% ในปี 2564
โดยปัจจัยสำคัญที่จะสร้างการเติบโตให้กับ kaidee AUTO ในอนาคต จะมุ่งเน้นที่การยกระดับคุณภาพของสินค้าที่อยู่บนแพลตฟอร์มเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อ การขยายพื้นที่บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อความสะดวกของผู้ซื้อและผู้ขาย การส่งมอบประสบการณ์การใช้งานบนแพลตฟอร์มที่ดีและตอบโจทย์ผู้ใช้และพันธมิตรของ kaidee AUTO
นายประทีป ปานเดย์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจรถยนต์มือสอง ของ kaidee กล่าวว่า ธุรกิจรถยนต์มือสองของ kaidee AUTO เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยที่ผ่านมาได้มีการเพิ่มขึ้นของพันธมิตรอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ในการทำงานอย่างใกล้ชิดกับสมาคมรถยนต์มือสองเพื่อส่งเสริมการทำธุรกรรมที่ปลอดภัยและโปร่งใสในธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสอง โดยได้มีการพัฒนา Kaidee Certified ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการตรวจสอบของ kaidee AUTO ซึ่งเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ที่เป็นบริการตรวจสภาพรถกว่า 200 รายการโดยผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือทันสมัยก่อนการซื้อรถ โดยในปี 2564 kaidee AUTO ได้ดำเนินการตรวจสอบรถยนต์มากกว่า 3,000 คัน
การสร้างสรรค์บริการ Kaidee Certified นี้เริ่มขึ้นในปี 2564 โดย kaidee Auto ที่มีเป้าหมายสำคัญเพื่อผู้ผลิตรถยนต์และยังช่วยให้ลูกค้าของ kaidee AUTO ได้รับประโยชน์จากข้อเสนอและข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ นางสาวมิ่งขวัญ จันทรพิมพ์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจรถยนต์ใหม่ ของ kaidee กล่าวว่า ธุรกิจรถยนต์มือหนึ่งของ kaidee AUTO ในปี 2565 จะยังคงจับมือกับพันธมิตรแบรนด์รถยนต์รายใหญ่ และจะทำงานร่วมกับพันธมิตรทางการเงิน เช่น กรุงศรี ออโต้ เพื่อให้บริการโซลูชันครบวงจรแก่ผู้ใช้ kaidee
ปัจจุบันจำนวนผู้ติดตามแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของ kaidee มีถึง 2 ล้านคน และมีผู้เข้าชมมากกว่า 14 ล้านครั้งต่อเดือนบนแพลตฟอร์มของ kaidee