เปิด 'ประสบการณ์บำรุงราษฎร์' รับไทยเปิดประเทศ 1 พ.ค.
หลังจากรัฐบาล ประกาศเปิดประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 1 พ.ค. 2565 นี้ พร้อมให้ผู้ที่จะเดินทางเข้ามายังไทยไม่มีเทสต์แอนด์โก เพียงโชว์ผลฉีดวัคซีนครบก็สามารถท่องเที่ยวได้เลย
โดยมาตรการดังกล่าวส่งผลบวกไปยังภาคส่วนธุรกิจบริการในประเทศไทย ที่ต่างเตรียมพร้อมกลับมาให้บริการอย่างเต็มตัวแก่ลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ
รวมไปถึงธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน 'บำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชันแนล' ที่พร้อมนำเสนอ 'ประสบการณ์บำรุงราษฎร์' ให้กับผู้เข้ามาใช้บริการทั้งชาวไทยและต่างชาติ ในฐานะติดอันดับหนึ่งใน 150 โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลก สะท้อนผ่านมุมมมองและแนวคิด "ดร. ฉัตรชัย ยาจันทร์ทา" รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานประสบการณ์ผู้ป่วยโรงพยาบาลบำงราษฎร์ อินเตอร์เนชันแนล ให้เทียบเท่ามาตรฐานโรงแรมระดับ5 ดาว
โชว์เคส ‘ประสบการณ์บำรุงราษฎร์’
ดร. ฉัตรชัย เล่าว่าตลอดสัปดาห์นี้ (25-29 เม.ย.) โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์จัดนิทรรศการ Bumrungrad International Patients Experience Week ซึ่งกิจกรรมนี้ได้รับการยอมรับจาก Global Council of Patient Experience ในฐานะที่ตนเองถือเป็นคนไทยเพียงคนเดียวที่เป็นสมาชิกสภาประสบการณ์ผู้ป่วยทั่วโลก เพื่อสะท้อนประสบการณ์ผู้เข้ามาใช้บริการด้านต่างๆในฐานะที่บำรุงราษฎร์ เป็นโรงพยาบาลระดับนานาชาติ
นอกจากนี้ ยังได้เชิดชูบุคลากรทุกฝ่าย ทุกระดับ อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันบำรุงราษฎร์มีพนักงานกว่า 3,500 คน ซึ่งเรามองว่าถ้าประสบการณ์จากพนักงานไม่ดี ก็ไม่มีทางเลยที่ลูกค้าจะได้ประสบการณ์ที่ดีตามไปด้วย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่เรามุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดตั้งแต่ต้นทางเพื่อส่งมอบ ประสบการณ์บำรุงราษฎร์ให้กับลูกค้า/ผู้ป่วย และเป็นที่มาของ Bumrungrad International Patients Experience Week จัดขึ้นภายใต้ธีม Bring up human experience หมายถึง การดูแลประสบการณ์ของมนุษย์ด้วยความเป็นมนุษย์
“ในตอนนี้เราต่างอยู่ในยุคของเทคโนโลยีที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันมากขึ้น ซึ่งบำรุงราษฎร์ยังมุ่งให้ความสำคัญหลักในด้านcore values คือ ความคล่องตัว ยืดหยุ่นได้ ภายใต้ นวัตกรรม เทคโนโลยี การให้บริการ และ การเอาใจใส่ดูแลผู้ป่วย ซึ่งรวมไปถึงญาติคนไข้ พนักงาน ชุมชน สังคม ด้วย” ดร.ฉัตรชัย กล่าว
รับไทยเปิดประเทศด้วยบริการระดับโรงแรม 5 ดาว
ดร. ฉัตรชัย มองต่อไปว่า หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลาย แม้ว่าจะยังต้องรอความชัดเจนอีกครั้งจากภาครัฐเตรียมประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นได้ในช่วงใดนั้น แต่ก็ยังมีสัญญาณบวกที่ดี หลังรัฐบาลประกาศให้เปิดประเทศไทย อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พ.ค. นี้ ซึ่งนั่นหมายถึงการหวนคืนกลับมาของกลุ่มลูกค้าคนไข้ ชาวต่างชาติที่จะเดินทางกลับเข้ามายังไทย จากในช่วงก่อนสถานการณ์โควิด บำรุงราษฎร์ ดูแลลูกค้าต่างประเทศมากกว่า 5แสนคนต่อปี
“หากเลยวันที่ 1 พ.ค. นี้ ไปแล้ว มองว่าจะยิ่งดีขึ้น จากหลายสัญญาณบวก แต่ก็อาจยังมีปัจจัยใหม่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งก็ยังต้องระวังอยู่ ซึ่งการจัดกิจกรรม เปิดประสบการณ์ผู้ป่วยในครั้งนี้ ยังเป็นส่วนหนึ่งในการดึงสิ่งที่ดีสุดของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มาโชว์เคสว่า ทำไมเป็น 1ใน150 โรงพยาบาลที่สุดที่สุดในโลก อีกด้วย” ดร. ฉัตรชัย ขยายภาพให้ชัดขึ้น
ด้วยกิจกรรมดังกล่าว ยังสอดคล้องกับแนวทางการให้บริการของบำรุงราษฎร์ ที่มองเห็นว่าในการรักษาคนไข้จะต้องใช้ระยะเวลาลดลง หรือการให้ยาได้น้อยที่สุด แต่ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งจะต้องเริ่มตั้งแต่การออกแบบทางความคิดในการให้บริการ ที่เราอิงจากฐานรากการก่อตั้งบำรุงราษฎร์ ตั้งแต่40 ปีก่อน ด้วยเป้าหมายสำคัญคือ การให้บริการดูแลคนไข้คนไทยที่ดีจากคนไทย ก่อนขยายการให้บริการดูแลผู้ป่วยต่างชาติ
ไทยหวนกลับสู่ศูนย์กลาง ‘เมดิคัล ทัวริซึม’
ดร.ฉัตรชัย กล่าวอีกว่าสำหรับ “ประสบการณ์บำรุงราษฎร์” ยังถูกออกแบบการให้บริการเพื่อรองรับ ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ของไทย ในระดับภูมิภาคอีกด้วยสอดค้องกับการให้บริการทางการแพทย์ของบำรุงราษฎร์ ในปัจจุบันที่วางตำแหน่งเป็นโรงพยาบาลระดับนานานาชาติ และมีคู่แข่งในตลาดต่างประเทศ ดังนั้นยุทธศาสตร์ของบำรุงราษฎร์ จึงไม่ได้จำกัดเฉพาะการรักษา แต่ยังจะต้องมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดตลอดกระบวนการให้กับคนไข้ด้วย ภายใต้หลักการ ส่งเสริม ป้องกัน รักษา และ ฟื้นฟู
นอกจากนี้ยังวางแนวทางการให้บริการรองรับลูกค้าชาวต่างชาติ เริ่มตั้งแต่สนามบิน ผ่านจุด Airport Representative Counter ของบำรุงราษฎร์ ที่ตั้งภายในบริเวณสนามบิน เพื่อต้อนรับลูกค้าในการลงทะเบียน และสามารถเช็คอิน ได้ทันที
“เราคิดกันตั้งแต่ต้นทางถึงการที่ลูกค้าต่างชาติเลือกประเทศไทยเพื่อการท่องเที่ยวและดูแลรักษาในแต่ละเคส ซึ่งต่างมีข้อจำกัดด้านระยะเวลาการพำนักในไทยตามวีซ่า โดยเราจะออกแบบตั้งแต่กระบวนการดูแลรักษาให้ใช้ระยะเวลาในโรงพยาบาลได้น้อยที่สุด จากนั้นสามารถเดินทางไปพักฟื้น พร้อมพักผ่อนได้ต่อตามลิสต์พันธมิตรโรงแรมของบำรุงราษฎร์ ที่มีกว่า 70-80 แห่งซึ่งโรงแรมแต่ละแห่งจะมีความเหมาะสมกับคนไข้ในแต่ละเคสที่เข้ารับการรักษา เช่นโรงแรม โลว์ไรซ์สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ เป็นต้น” ดร.ฉัตรชัย กล่าว
สู่บริการดูแลคนไข้เสมือนจริงในโลกอนาคต
นอกจากนี้ บำรุงราษฎร์ ยังพร้อมรับฟังความคิดเห็นลูกค้า Voice of Customer ในด้านต่างๆ เพื่อนำมาปรับปรุงการให้บริการอย่างเสม่ำเสมอทั้งในกลุ่มผู้ป่วยนอก(OPD) ผู้ป่วยใน(IPD) พร้อมต่อยอดไปยังการพัฒนาแอปพลิเชันบำรุงราษฎร์ ซึ่งจะมีฟีเจอร์ให้บริการด้านต่างๆ แก่ลูกค้า ในเบื้องต้น อาทิ สิทธิประโยชน์การเข้ารับการดูแลรักษา แพคเกจ/โปรโมชั่นโปรแกรมด้านสุขภาพประเภทต่างๆ รวมไปถึงออปชันเสริมอย่าง My Vaccine Passport สำหรับกลุ่มลูกค้าที่เข้ามารับบริการฉีดวัคซีน ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกัน บำรุงราษฎร์ ยังร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการค้าปลีกศูนย์การค้ารายใหญ่ทั้งกลุ่มสยามพิวรรธน์ และ เครือเซ็นทรัล เพื่อให้บริการส่งสินค้าถึงมือลูกค้า/ผู้ป่วย ที่ต้องการจับจ่ายซื้อสินค้าต่างๆในช่องทางออนไลน์ รวมไปถึงการให้บริการ butler service ผู้ช่วยส่วนตัวพิเศษให้กับลูกค้า/คนไข้ ด้วยเป็นต้น
โดยแนวทางดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในการรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ในรูปแบบออนไลน์เสมือนจริงในอนาคตด้วย ด้วยต่อไปบริการทางการแพทย์ด้านต่างๆจะต้องถูกยกระดับการให้บริการให้เข้าถึงและมีความเป็นส่วนตัวในกลุ่มคนไข้ เพื่อรองรับชีวิตออนไลน์มากขึ้นของลูกค้าในอนาคต เช่นกัน
โชว์ไฮไลท์อาหารนานาชาติ 7วัน 10 เมนู
ดร.ฉัตรชัย กล่าวว่านอกจากนี้ “ประสบการณ์บำรุงราษฎร์” ยังมีความพิเศษที่สร้างความแตกต่างไปจากโรงพยาบาลเอกชนอื่น คือ Food Service ผ่านอาหารนานาชาติเมนูต่างๆที่ได้รับความนิยมของคนไข้ในประเทศต่างๆ ที่เข้ามาใช้บริการ
โดยทีมงานด้านดังกล่าว จะมีการทำ Food Tasting อาหารแต่ละเมนู เพื่อให้ได้รสชาติอาหารแต่ละชาติที่แท้จริง (Authentic) พร้อมสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า/คนไข้ แต่ยังคงคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมกับผู้ป่วย โดยในปีนี้วางธีมหลักอาหาร 6 ชาติ ใน 7 วัน 10 เมนู
ดร.ฉัตรชัย กล่าวทิ้งท้ายว่าในฐานะที่บำรุงราษฎร์เป็นโรงพยาบาลระดับนานาชาติ แต่พร้อมให้ความสำคัญในการดูแลคนไข้คนไทยเป็นหลักด้วยเช่นกัน จากปัจจุบันแบ่งสัดส่วนกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มคนไทย 40% ชาวต่างชาติ 30% และชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย 30%
จากแนวทาง “ประสบการณ์บำรุงราษฎร์” ดังกล่าวได้ถูกคิดในเชิงออกแบบมาแล้ว เพื่อให้ Life Journey ของลูกค้าทุกกลุ่มข้างต้น ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด พร้อมรับการเปิดปะเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 1 พ.ค. นี้
โดย ดวงใจ จิตต์มงคล