วัดพลังแอปเรียกรถปี 2566 แบบไหนถูกใจลูกค้า
หลังเปิดประเทศ แอปเรียกรถกลับมาคึกคัก ใครจะงัดจุดเด่นด้านราคาและบริการครองใจคนไทย-นักท่องเที่ยว ชิงเค้กแสนล้าน ได้มากที่สุดในตลาด
ผลการสำรวจจาก Mordor Intelligence คาดการณ์ว่า ภายในปี 2571 มูลค่าตลาดการเรียกใช้บริการรถผ่านแอปพลิเคชันจะอยู่ที่ 153,800 ล้านบาท โดยจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของตลาดอย่างเห็นได้ชัดในปีนี้ เมื่อการล็อคดาวน์สิ้นสุดลง และมีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย โดยแกร็บ ประเทศไทย ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขชาวต่างชาติที่ใช้บริการเรียกรถของแกร็บมีอัตราเติบโตสูงถึง 45% ซึ่งสัญญาณการฟื้นตัวนี้เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2565
ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 25 ล้านคนในปี 2566 เพิ่มขึ้นจาก 20 ล้านคน หลังจีนได้ผ่อนปรนข้อจำกัดการเดินทางออกนอกประเทศ ทำให้ตลาดแอปเรียกรถกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง
ชูความหลากหลาย
แน่นอนว่าหากพูดถึงแอปพลิเคชันเรียกรถ แกร็บ คือ เบอร์หนึ่งในตลาดประเทศไทยขณะนี้ ด้วยบริการที่หลากหลาย ครอบคลุมทั่วประเทศ โดย แกร็บ ประเทศไทย ให้บริการรถอยู่ 2 ประเภท คือ แบบรถจักรยานยนต์ และ รถยนต์ โดยบริการจะแบ่งออกเป็น 4 หมวดหลักๆ คือ
1. Everyday Ride (บริการเรียกรถในชีวิตประจำวัน)
• JustGrab: บริการเรียกรถที่รวบรวมรถแท็กซี่และรถยนต์ส่วนตัวเข้าไว้ด้วยกัน โดยระบบจะเรียกรถที่อยู่ใกล้จุดที่ผู้โดยสารเรียกมากที่สุด พร้อมระบุค่าโดยสารที่แน่นอนก่อนการเดินทาง
• GrabCar: บริการการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
• GrabCar Premium: บริการการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวแบบพรีเมียม
• GrabCar for Ladies: บริการการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสำหรับผู้หญิง
• GrabTaxi: บริการเรียกรถแท็กซี่
• GrabBike (Win): บริการการเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ (วินมอเตอร์ไซค์)
• GrabAssist (Advance): บริการการเดินทางแบบส่วนตัวสำหรับผู้พิการ
• GrabTaxi (Advance): บริการเรียกรถแท็กซี่ล่วงหน้า
• Taxi 6-seater (Advance): บริการรถแท็กซี่แบบ 6 ที่นั่งล่วงหน้า
2. Extra Space Ride (บริการการเดินทางที่มีพื้นที่ห้องโดยสารขนาดกว้างขวาง)
• Grab SUV: บริการการเดินทางแบบส่วนตัวด้วยรถยนต์ SUV
• Electric VIP Taxi: บริการการเดินทางแบบส่วนตัวด้วยรถแท็กซี่วีไอพี ขับเคลื่อนโดยพลังงานไฟฟ้า
3. Pet Friendly Ride (บริการเรียกรถสำหรับสัตว์เลี้ยง)
• GrabPet: บริการเรียกรถสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยง
• GrabPet XL: บริการเรียกรถขนาดใหญ่สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยง
4. Chauffeur (บริการผู้ช่วยขับรถส่วนตัว)
• GrabDriveYourCar: บริการผู้ช่วยขับรถที่ผู้โดยสารสามารถเรียกพาร์ทเนอร์คนขับให้มาช่วยขับรถตัวเองไปยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการได้
นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า บริการ JustGrab เป็นบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากเป็นบริการที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ และสามารถเรียกรถได้หลากหลายประเภท ทั้งรถแท็กซี่ และรถยนต์ส่วนบุคคล ทำให้ผู้โดยสารได้รับบริการที่รวดเร็วในราคาที่คุ้มค่าที่สุด
จุดเด่นของ แกร็บ คือการมีฟีเจอร์แชตและแปลภาษา ช่วยสื่อสารกับนักท่องเที่ยว,ฟีเจอร์ ‘Multi-Stop Rides’ สามารถเพิ่มจุดรับหรือส่งระหว่างทางได้ ที่สำคัญมีระบบคัดกรองคนขับที่เข้มข้น อาทิ การยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้าก่อนให้บริการทุกครั้ง หรือการตรวจประวัติอาชญากรรมย้อนหลังอย่างน้อย 7 ปี
ฟีเจอร์ ‘Safety Centre’ ที่ผู้โดยสารสามารถเลือกกด ‘Share My Ride’ เพื่อแชร์ข้อมูลการเดินทาง อาทิ ตำแหน่งของรถแบบเรียลไทม์ รายละเอียดของพาร์ทเนอร์คนขับทั้งชื่อ เลขทะเบียน และรุ่นรถ ตลอดจนรายละเอียดการเดินทางอย่างเวลาที่เรียกรถ จุดเริ่มต้น และจุดปลายทาง นอกจากนี้หากเกิดเหตุขัดข้องหรือภัยอันตราย เพียงแค่ผู้โดยสารกดปุ่ม ‘Emergency Button’ หมายเลขฉุกเฉิน 191 ก็จะปรากฎบนหน้าจอโทรศัพท์ และพร้อมต่อสายหาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ในทันที นอกจากนี้ยังมีประกันอุบัติเหตุระหว่างเดินทางอีกด้วย
ความท้าทายของการทำธุรกิจในปีนี้ คือการเร่งพัฒนาบริการเรียกรถของแกร็บให้ตอบโจทย์กับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการรองรับการกลับมาของนักท่องเที่ยวซึ่งมีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย ไม่ว่าจะเป็นการอำนวยความสะดวกนักเที่ยวท่องตั้งแต่การเดินทางจากสนามบินไปยังจุดต่างๆ หรือการร่วมมือกับทางภาครัฐ
เทียบฟอร์มแอปเรียกแท็กซี่
นอกจาก แกร็บ แล้ว ก็ยังมีแอปพลิเคชัน ที่เน้นให้บริการเรียกเฉพาะรถแท็กซี่ที่โดดเด่นก็คือ LINE MAN TAXI ซึ่งเป็นการเรียกบริการจากผู้ขับแท็กซี่เดิมอยู่แล้ว ให้มีทางเลือกในการเรียกใช้บริการมากขึ้น คิดบริการค่าเรียกรถเพียง 20 บาท โดยมีจุดเด่นที่บริการผูกติดกับไลน์ ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันยอดนิยมที่คนไทยใช้งานมากที่สุด จึงสามารถติดตามสถานะได้ง่าย แต่ดูเหมือนบริการของไลน์ดูแผ่วลง จากปัญหาที่มักถูกผู้โดยสารคอมเม้นท์ว่า เรียกแล้ว แท็กซี่ ไม่ค่อยรับงาน หรือ เทงานกลางอากาศ บ่อยครั้ง
ในช่วงปีหลังแอปพลิเคชัน CABB กลายเป็นแอปเรียกแท็กซี่ ที่น่าจับตามอง ด้วยความโดดเด่นและรูปลักษณ์สะดุดตาของรถแท็กซี่ มาตรฐานลอนดอน ประเทศอังกฤษ สำหรับ CABB เป็นบริการแท็กซี่มาตรฐานใหม่ โดย บริษัท เอเชีย แค็บ จำกัด ผู้ผลิตและดำเนินกิจการให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะแบบครบวงจรที่แรก มาพร้อมบริการที่น่าสนใจ 4 ด้าน คือ ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว โดยมีการแยกส่วนระหว่างห้องคนขับและห้องโดยสารด้วยฉากกั้นใส และระบบแอร์แยกส่วน
ใช้ระบบอินเตอร์คอม ในการสื่อสารกับพนักงานขับรถ, ความสะอาด ไม่ใช้เบาะผ้าเพื่อลดการสะสมของฝุ่นและสิ่งปนเปื้อน และมีมาตรการทำความสะอาดฆ่าเชื้อทั้งก่อนและหลังรับผู้โดยสาร ผู้โดยสารปรับอุณหภูมิแอร์เองได้ตามต้องการ มีที่ชาร์จ USB และ Wi-fi ฟรีตลอดการเดินทาง และ ความอุ่นใจ พนักงานขับรถผ่านการตรวจสุขภาพและผ่านการอบรมมาเป็นอย่างดีทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ มีปุ่ม SOS ในกรณีฉุกเฉิน กล้องบันทึกภาพ และระบบ GPS โดย CABB ตั้งเป้ามีรถให้บริการในกรุงเทพฯ 1,200 คัน ภายในปีหน้า
ส่วนใครที่ชอบนั่ง ตุ๊ก ตุ๊ก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยว แอปพลิเคชัน MuvMi มาพร้อมด้วยจุดเด่น รถตุ๊ก ตุ๊กไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ถึง 6 คน รวมถึงป้องกันการเกิดปัญหาโก่งราคาและการเจรจากับต่างชาติไม่เข้าใจ โดยแอป MuvMi จะแสดงค่าโดยสารตามระยะทาง ซึ่งหมายความว่าไม่จำเป็นต้องต่อราคา ผู้ขับขี่สามารถชำระเงินล่วงหน้าด้วยบัตรเครดิต
หลังจากเปิดตัวเมื่อ 5 ปีก่อนในปี 2561 MuvMi รองรับผู้โดยสารมากกว่า 3.5 ล้านเที่ยว และคาดว่าหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย จำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มมากขึ้นอีก จุดดึงดูดลูกค้าอีกประการที่น่าสนใจ เนื่องจาก รถตุ๊ก ตุ๊กไฟฟ้ามีความสะอาด เป็นจุดขายสำหรับลูกค้าบางกลุ่ม ปัจจุบัน MuvMi มีรถตุ๊กตุ๊ก 350 คันใน 12 พื้นที่ในกรุงเทพฯ วางแผนจะขยายเป็น 1,000 คันภายในสิ้นปีนี้
2 แอปทางเลือกกำลังมาแรง
นอกจากนี้ ยังมีแอปพลิเคชันที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน จากเอสโตเนีย คือ BOLT มีทั้งบริการ แท็กซี่ รถยนต์ มอเตอร์ไซต์ ชูจุดเด่นที่ราคาถูกกว่าผู้ให้บริการรายอื่น 20% หน้าจอใช้งานง่าย
และ แอปพลิเคชัน INDRIVE ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในเมืองเมาน์เทนวิว รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยINDRIVE เข้ามาให้บริการในประเทศไทยด้วยการชูจุดเด่นด้านความปลอดภัยด้วยการใช้เทคโนโลยีของ SHIELD ในการป้องกันปัญหากลุ่มมิจฉาชีพใช้บัญชีปลอมในการใช้บริการแอปพลิเคชันเรียกรถ ทั้งผู้เรียกรถและผู้ขับเอง ซึ่งมีให้พบเห็นบ่อยครั้ง โดยมิจฉาชีพ สามารถสร้างบัญชีปลอม เป็นคนอื่น ได้จากเครื่องมือต่างๆ เช่น app cloners บัญชีปลอม การลงทะเบียนข้อมูลส่วนบุคคลที่ขโมยมา หรือการเข้าควบคุมบัญชีที่ถูกต้องตามกฎหมาย
แอปพลิเคชัน INDRIVE จะสามารถจับผิดพฤติกรรมที่น่าสงสัยนี้ได้เพื่อหลีกเลี่ยงการประสบปัญหาดังกล่าว INDRIVE มีรถให้บริการอยู่จังหวัดละ 1,000 คัน ให้บริการตามหัวเมืองใหญ่ คือ กรุงเทพฯ,หัวหิน,เชียงใหม่ และภูเก็ต
ในช่วง 3 ปี ที่ประเทศไทยตกอยู่ในสถานการณ์โควิด ทำให้แอปเรียกรถประสบปัญหา ตลาดเข้าสู่ภาวะซบเซา ส่งผลให้แผนต่างๆที่คาดการณ์ไว้ไม่เป็นดังหวัง ปีนี้เมื่อประเทศเปิด โควิดคลี่คลาย นับเป็นปีทองที่แอปเรียกรถทุกเจ้าต้องช่วงชิงรายได้ ด้วยการงัดจุดเด่นที่แตกต่างออกมาให้บริการแก่ลูกค้า
ส่วนใครจะครองใจและอยู่ในตลาดได้อย่างยั่งยืนกว่ากันนั้น ผู้บริโภคเท่านั้นจะเป็นคนตัดสิน