จับตา “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” ผลประโยชน์ทับซ้อน นั่ง รมว.ดีอีเอส
หลายฝ่ายกำลังเฝ้าจับตามองถึงตัวเต็งรมว.ดีอีเอส “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” พรรคก้าวไกล ซึ่งเปรียบเสมือนเจ้าของธุรกิจ absolute.co.th ผู้ให้บริการโซลูชันคลาวด์ เมื่อเข้ามานั่งในตำแหน่งแล้ว จะมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ รองเลขาธิการฝ่ายพัฒนาระบบข้อมูล และดิจิทัลพรรคก้าวไกล ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับที่ 13 ของพรรคก้าวไกล กำลังถูกจับตามองว่าอาจจะขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) คนต่อไป เนื่องจากพรรคได้วางตัวให้เป็นคนรุ่นใหม่ที่จะมาขับเคลื่อนนโยบายด้านดิจิทัล เนื่องจาก นายณัฐพงษ์ จบปริญญาตรี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นผู้ก่อตั้ง absolute.co.th ผู้ให้บริการโซลูชันคลาวด์ นั้น จะมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับธุรกิจของครอบครัวหรือไม่
แม้ว่า เมื่อดูในรายชื่อกรรมการบริษัทปัจจุบัน ไม่พบชื่อ นายณัฐพงษ์ อยู่ใน บริษัท แอ๊บโซลูท เมเนจเม้นท์ โซลูชั่นส์ จำกัด โดยรายชื่อกรรมการประกอบด้วย นางสาวณัฐพร จันทร์อินทร์,นายวิทวัส เรืองปัญญาวุฒิ,นางสาวศราริน เรืองปัญญาวุฒิ และนางสาวศรินญา เรืองปัญญาวุฒิ แต่ก็ย่อมถูกจับตามองเป็นเรื่องธรรมดาเพราะบริษัทดังกล่าว มีผู้ถือหุ้นนามสกุล "เรืองปัญญาวุฒิ" เปรียบเสมือนธุรกิจของครอบครัว
โดยประเภทธุรกิจของ แอ๊บโซลูท เมเนจเม้นท์ โซลูชั่นส์ ตอนจดทะเบียน เมื่อปี 2552 ทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท คือ ร้านขายปลีกเครื่องเล่นวีดิโอเกมและซอฟต์แวร์สำเร็จรูป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการค้า หรือให้เช่าซอฟแวร์ธุรกิจ และออกแบบเขียนโปรแกรมของระบบงาน ทว่า ล่าสุดบริษัทได้แจ้งเป็นประเภทธุรกิจ ร้านขายปลีกเครื่องเล่นวีดิโอเกมและซอฟต์แวร์สำเร็จรูปโดยมีวัตถุประสงค์ เป็นร้านขายปลีกเครื่องเล่นวีดีโอเกมและซอฟท์แวร์สำเร็จรูป
ขณะที่บนเว็บไซต์ของ absolute.co.th ระบุว่า Absolute ยืนอยู่บนความเชื่อที่ว่า Cloud จะเป็นเทคโนโลยีที่เปิดโอกาสให้ SMEs สามารถมีระบบบริหารจัดการธุรกิจ (ERP) ที่ดีได้ จึงเป็นจุดกำเนิดของระบบ Absolute ERP (SOLn) ที่ถือเป็นระบบบริหารจัดการธุรกิจออนไลน์บน Cloud รายแรกของไทย
โดยในปี 2555 ได้ก้าวเข้าสู่ กลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ด้วยการพัฒนา ระบบบริหารงานก่อสร้าง และ ระบบบริหารงานขายเนื่อง จากกลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง และมีปัจจัยที่สำคัญในการอยู่รอดคือ การควบคุม ต้นทุน, คุณภาพ และเวลา ทางบริษัทฯ จึงเล็งเห็นโอกาสในการเจาะตลาดกลุ่มธุรกิจนี้ และได้พัฒนา ระบบบริหารงานก่อสร้าง (Construction ) เพื่อใช้จัดการต่าง ๆ ปัจจัยเหล่านั้นนอกจากนี้ ด้วยกระแสความต้องการ ระบบ CRM ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากบริษัทฯ จึงได้พัฒนา ระบบบริหารงานขาย ( AMS ) และเปิดให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไปอีกด้วย
จากนั้นใน ปี พ.ศ. 2556 ได้พัฒนาระบบขายอสังหาริมทรัพย์ ระบบทรัพยากรบุคคล พัฒนาระบบขายอสังหาริมทรัพย์ ( Real-estate ) สำหรับบริหารจัดการ งานขาย บ้าน, คอนโด ฯลฯ โดยรองรับตั้งแต่การ ออกใบเสนอ ราคา, ใบจอง, สัญญา ฯลฯ ไปจนถึงการโอนกรรมสิทธิ์ และการ รับประกันบ้าน จากประสบการณ์ตรงของลูกค้า ที่ประสบปัญหาใน การบันทึกเวลาเข้า-ออก ของคนงานรายวัน บริษัทฯ จึงได้พัฒนา ระบบทรัพยากรบุคคล ( HR ) ที่ใช้การ สแกนใบหน้า (Face Recognition) ในการบันทึกเวลาเข้า-ออก เพื่อป้องกันปัญหาการ ทุจริต และแก้ปัญหาลายนิ้วมือขาดของคนงาน
ส่วนผลประกอบการ ตั้งแต่ปี 2561-2565 จากข้อมูล กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ บนเว็บไซต์ https://datawarehouse.dbd.go.th/index พบว่า บริษัท แอ๊บโซลูท เมเนจเม้นท์ โซลูชั่นส์ จำกัด เลขทะเบียนนิติบุคคล: 0105552130391 มีรายได้ดังนี้
ปี 2561 รายได้ 7,606,896.94 บาท กำไร 438,189.56 บาท
ปี 2562 รายได้ 8,753,648.03 บาท ขาดทุน 156,232.81 บาท
ปี 2563 รายได้ 11,450,761.11 บาท กำไร 1,219,914.58 บาท
ปี 2564 รายได้ 12,797,390.03 บาท กำไร 47,518.88 บาท
ปี 2565 รายได้ 10,924,765.70 บาท ขาดทุน 2,350,774.19 บาท
แม้ว่ากระทรวงดีอีเอส คือกระทรวงเกรด D ที่ได้รับงบประมาณน้อยที่สุด ประมาณ 6,000 ล้านบาทต่อปี แต่ที่ผ่านมากระทรวงดีอีเอส เป็นกระทรวงสำคัญในการพัฒนาระบบของประเทศ ทั้งระบบฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ที่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนือง
ดังนั้นจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า กระทรวงดีอีเอส คือ กระทรวงหนึ่งที่เอกชนน้อยใหญ่ต่างเข้ามาหาผลประโยชน์ไม่แพ้กระทรวงอื่นๆ เช่นกัน