2 ทายาท “Chayo Group” ลุยภารกิจขยายพอร์ต - ดัน “ชโย แคปปิตอล” เข้าตลาด
ถอดสูตร 2 ทายาท “Chayo Group” “ณัฐวัช ยศะสินธุ์” ลุยขยายพอร์ตหนี้ พิชิตแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนทางการเงินต่ำ และ “ธิติ ยศะสินธุ์” เดินหน้าภารกิจปั้นยอดปล่อยกู้ ดัน “ชโย แคปปิตอล” เข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในกลางปี 67
หากย้อนกลับไปในช่วงปี 2540 ที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ต้องยอมรับว่ามีบริษัทล้มลงเป็นจำนวนมาก แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีบริษัทติดตามทวงหนี้ และบริษัทบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ เกิดขึ้นจำนวนมากเช่นกัน แต่มีไม่กี่บริษัทที่สามารถอยู่รอดมาได้จนถึงวันนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ที่ได้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2540 ภายใต้การนำของ “สุขสันต์ ยศะสินธุ์”
ทั้งนี้ ในปัจจุบัน CHAYO ประกอบธุรกิจหลักๆ แบ่งออกเป็น 3 ธุรกิจ ได้แก่ 1.ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน 2.ธุรกิจให้บริการเจรจาติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้ และ 3.ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ
โดยขณะนี้ได้ดึงผู้บริหารรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นทายาทเข้ามาร่วมบริหารงานด้วย ได้แก่ “ณัฐวัช ยศะสินธุ์” บุตรชายคนโต เข้ามาดูแลธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ภายใต้ บริษัท บริหารสินทรัพย์ ชโย จำกัด บริษัทย่อยที่ CHAYO ถือหุ้น 100% และ “ธิติ ยศะสินธุ์” บุตรชายคนเล็ก เข้ามาดูแลธุรกิจปล่อยสินเชื่อ ภายใต้ บริษัท ชโย แคปปิตอล จำกัด บริษัทย่อยที่ CHAYO ถือหุ้น 71.25%
“ณัฐวัช ยศะสินธุ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์ ชโย จำกัด เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นกว่าจะมาเป็น CHAYO ในทุกวันนี้ว่า เริ่มจาก คุณพ่อ “สุขสันต์ ยศะสินธุ์” เป็นพนักงานธนาคาร ดูแลทางด้านสินเชื่อ ซึ่งพบว่าคนเป็นหนี้เสียจำนวนมาก และธนาคารใช้ Outsource ในการติดตามทวงหนี้
จากนั้นก่อนปี 2540 เจ้านายคุณพ่อได้ลาออกจากธนาคารไปทำธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับการซื้อขายเซรามิก ของตกแต่งบ้าน และได้ชวนคุณพ่อไปร่วมธุรกิจด้วย นอกจากนี้ คุณพ่อยังทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย
แต่ในปี 2540 เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ทำให้บริษัทที่ทำตอนนั้นมีปัญหา ล้มทั้งหมด และถูกฟ้องบังคับคดี จากวิกฤตตรงนี้ และด้วยประสบการณ์ทางด้านธนาคาร ทำให้เป็นโอกาสและจุดเริ่มต้นในการเข้าสู่ธุรกิจปัจจุบันของบริษัท คือ ธุรกิจให้บริการเจรจาติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้ ภายใต้ชื่อ บริษัท เขียนแอนด์เคลย์ จำกัด ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2540 เช่นกัน เพราะไม่เพียงบริษัทของคุณพ่อเท่านั้นที่ล้ม แต่ยังมีบริษัทอื่นๆ ล้มกันมากมาย ทำให้เกิดหนี้เสียจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสในการเริ่มต้นธุรกิจดังกล่าว และบริหารงานเรื่อยมา
จนกระทั่งในปี 2557 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ CHAYO ที่ทำให้ธุรกิจมีการเติบโต คือ การลงทุนซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ไม่มีหลักประกันมาบริหารเอง ด้วยเงินลงทุนหลักร้อยล้านบาท มูลค่าหนี้ประมาณ 40,000 ล้านบาท ทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 100 ล้านบาท/ปี
จากเดิมที่ CHAYO ให้บริการเจรจาติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้ให้กับธนาคารเท่านั้น จะมีกำไรประมาณ 10 ล้านบาท/ปี จนสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในปี 2561 ต่อมาได้ย้ายเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในปี 2563
“ณัฐวัช” เล่าว่า บทบาทใน CHAYO เริ่มจากตำแหน่งผู้ช่วยผู้บริหาร และผู้ช่วยเลขานุการบริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในปี 2558-2562 จากนั้นเตรียมไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ติดปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปได้ จึงมาดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ส่วนตัว ก่อนที่ในปี 2564 จะกลับเข้ามาเป็นที่ปรึกษา บริษัท บริหารสินทรัพย์ ชโย จำกัด และขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์ ชโย จำกัด ในปี 2566
โดยดูแลในส่วนของการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพทั้งหมด รวมไปถึงการพัฒนากระบวนการทำงาน โดยใช้ระบบไอทีเข้ามาช่วยเพื่อให้ใช้คนน้อยลง และมีเป้าหมายสำคัญ คือ การหาแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนทางการเงินต่ำ จากปัจจุบันต้นทุนทางการเงินของบริษัทอยู่ที่ 6-7% ซึ่งมองว่าหากได้แหล่งเงินทุนจากต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ก็จะทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลง
ทั้งนี้ แนวทางที่จะทำให้ต้นทุนทางการเงินต่ำกว่าในปัจจุบัน จริงๆ ที่ผ่านมาดำเนินการมาตลอด ล่าสุด เมื่อปีที่แล้ว ได้ให้ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด มาวิเคราะห์และประเมินบริษัท ซึ่งอันดับความน่าเชื่อถือ อยู่ที่ BB+ แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” (Stable) ก็ถือว่ายังเป็นระดับที่ต้นทุนการเงินสูงอยู่ จะต้องมีการขยายพอร์ตหนี้ให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้เข้าเกณฑ์และได้อันดับความน่าเชื่อถือที่ดีขึ้น
“เราทำทุกเครื่องมือ ทั้งกู้แบงก์ ออกหุ้นกู้ ระดมทุนด้วยวิธีอื่นๆ หรือ JV กับแบงก์ แต่ทุกเครื่องมือไม่ได้ทำให้ Cost of Fund กระชากลงมาอย่างเห็นได้ชัด จะลดลงมาได้มาก ก็คือต้องได้แหล่งเงินกู้จากต่างประเทศ”
สำหรับแผนระยะสั้นในการขยายพอร์ตหนี้ คือ การออกหุ้นกู้ 1,000 ล้านบาท/ปี เพื่อใช้ในการซื้อหนี้เข้ามาบริหาร โดยในปี 2566 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 1,500-2,000 ล้านบาท (แหล่งเงินทุนมาจากการออกหุ้นกู้ดังกล่าว วงเงินกว่า 1,000 ล้านบาท และเป็นเงินจาก Chayo JV อีกประมาณ 1,000 ล้านบาท) วางเป้าหมายซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มเติมประมาณ 10,000-16,000 ล้านบาท
ดังนั้นส่งผลให้พอร์ตรวม ณ สิ้นปี 2566 น่าจะใกล้ 100,000 ล้านบาท จาก ณ สิ้นงวดไตรมาส 1/2566 พอร์ตหนี้คงค้างอยู่ที่ 85,853 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้มีหลักประกันจำนวน 20,651 ล้านบาท หรือ 24.05% และไม่มีหลักประกันจำนวน 65,202 ล้านบาทหรือ 79.95%
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ CHAYO มาจากธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน (บริษัท บริหารสินทรัพย์ ชโย จำกัด) ประมาณ 85% ธุรกิจให้บริการเจรจาติดตามทวงถามและเร่งรัดหนี้ (บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO) ประมาณ 5% และ 3.ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ (บริษัท ชโย แคปปิตอล จำกัด) ประมาณ 5-10%
“ธิติ ยศะสินธุ์” ผู้จัดการฝ่ายการเงิน บริษัท ชโย แคปปิตอล จำกัด เล่าให้ฟังว่า เริ่มเข้ามาดูแล บริษัท ชโย แคปปิตอล จำกัด เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ในส่วนของการเงิน โดยดูแลระบบภายในขององค์กรทางด้านการเงิน และวิเคราะห์ข้อมูลการเงินของบริษัท รายได้ ต้นทุน ค่าใช้จ่าย วิเคราะห์พอร์ตหนี้ที่ซื้อมาบริหาร และมองหาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทางด้านการเงิน เช่น ประกัน สินเชื่อเรือยอร์ช ฟินเทค รวมไปถึงด้านการลงทุน โดยจัดทำและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับดีล M&A ทั้งในส่วนที่บริษัทสนใจเข้าไปการลงทุน และบริษัทอื่นสนใจเข้ามาซื้อหุ้นของบริษัทด้วย
ทั้งนี้ วางเป้าหมายปี 2566 ปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มอีก 600-800 ล้านบาท สนับสนุนให้พอร์ตสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นปี 2566 จะเพิ่มเป็นกว่า 1,000 ล้านบาท จากสิ้นปี 2565 พอร์ตสินเชื่อคงค้าง อยู่ที่ 650 ล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อที่มีหลักประกัน (อสังหาริมทรัพย์) 90% และไม่มีหลักประกัน (สินเชื่อส่วนบุคคล, นาโนไฟแนนซ์ และพิโกไฟแนนซ์) 10%
โดยในไตรมาส 1/2566 บริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่อ 21.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.95% จากไตรมาส 1/2565 เป็นผลมาจากการปล่อยสินเชื่อทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันเพิ่มมากขึ้น โดยยอดลูกหนี้เงินให้กู้ยืม ณ วันที่ 31 มี.ค.2566 อยู่ที่ 668.56 ล้านบาท และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไม่ถึง 1%
ขณะเดียวกัน บริษัทพยายามหาผลิตภัณฑ์สินชื่อเพิ่มเติม ทั้งการปล่อยสินเชื่อสวัสดิการให้กับบริษัท และโรงงาน ที่เป็นพาร์ทเนอร์ ประมาณ 40 ราย และสินเชื่อเรือยอร์ช อีกด้วย รวมไปถึง Digital Lending และ Peer-to-Peer Lending (P2P)
สำหรับแผนงานสำคัญที่วางไว้ คือ การผลักดัน บริษัท ชโย แคปปิตอล จำกัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในกลางปี 2567 โดยมีแผนยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ปลายปีนี้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างหารือกับนักวิเคราะห์การลงทุน (Investment Analyst : IA) ผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาต (Auditor) ที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor : FA) และที่ปรึกษากฎหมาย (Legal Advisory)
นอกจากนี้ บริษัทมีการหาช่องทางในการทำธุรกิจใหม่เพิ่มเติม คือ การให้บริการจัดหาพนักงานให้กับโรงงานต่างๆ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปแล้วประมาณ 3-4 เดือน ที่ผ่านมา ถือเป็นโอกาสในการลงทุน เป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นดี และใช้เงินทุนไม่มาก โดยบริษัทได้เข้าไปซื้อธุรกิจ (เฉพาะพนักงาน และลูกค้า) แต่ไม่ได้ซื้อกิจการ
ทำความรู้จัก “ณัฐวัช ยศะสินธุ์”
สำหรับประวัติของ “ณัฐวัช ยศะสินธุ์” อายุ 32 ปี เป็นบุตรชายคนโต ของ “สุขสันต์ ยศะสินธุ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO
จบปริญญาตรี แพทย์แผนจีน มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ / มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเซี่ยงไฮ้ และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ส่วนประวัติการทำงาน เคยทำแพทย์แผนจีนมาประมาณ 1 ปี ก่อนเข้ามาเป็นผู้ช่วยผู้บริหาร และผู้ช่วยเลขานุการบริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ในปี 2558-2562 จากนั้นเตรียมไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ติดปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปได้ จึงมาดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ส่วนตัว ก่อนกลับเข้ามาเป็นที่ปรึกษา บริษัท บริหารสินทรัพย์ ชโย จำกัด ในปี 2564 และขึ้นเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์ ชโย จำกัด ในปี 2566
ทำความรู้จัก “ธิติ ยศะสินธุ์”
สำหรับประวัติของ “ธิติ ยศะสินธุ์” อายุ 26 ปี เป็นบุตรชายคนเล็ก ของ “สุขสันต์ ยศะสินธุ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO
จบปริญญาตรี Engineer SIIT มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และจบปริญญาโท Business with financial management, Northumbria University UK
ส่วนประวัติการทำงาน เคยเป็น Strategic Management Officer ที่ Pruksa Real Estate ในปี 2561-2562 และ Private Wealth Management ที่ Kiatnakin Phatra Securities ในปี 2564 ก่อนเข้ามาเป็นผู้จัดการฝ่ายการเงิน บริษัท ชโย แคปปิตอล จำกัด ในปี 2565