ธ.ก.ส. ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก-ตรึงดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย

11 สิงหาคม 2566

ธ.ก.ส. ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ สูงสุด 0.40% ต่อปี ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ MLR และ MOR 0.25% มีผล 15 ส.ค. 66 แต่ยังตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ MRR ช่วยเกษตรกรรายย่อย

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตามที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปี จาก 2.00% ต่อปี มาอยู่ที่ 2.25% ต่อปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2566 และเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของตลาด ธ.ก.ส. จึงได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 0.10 – 0.40% ต่อปี เพื่อส่งเสริมการออมและเพิ่มผลตอบแทนให้สอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนของธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFIs) ประกอบด้วย 

 

ลูกค้าทั่วไปที่มีบัญชีบัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษี 24 เดือน อัตราดอกเบี้ยปรับขึ้น 0.40%  ต่อปี บัญชีเงินฝากประจำ 24 เดือน 36 เดือน 48 เดือน และ 60 เดือน ปรับขึ้น 0.30%  ต่อปี และเงินฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน และ 12 เดือน ปรับขึ้น0.15%  ต่อปี 

 

สำหรับลูกค้านิติบุคคล ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีบัญชีเงินฝากประจำ 24 เดือน 36 เดือน 48 เดือน และ 60 เดือน อัตราดอกเบี้ยปรับขึ้น 0.15%  ต่อปี และบัญชีเงินฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน และ 12 เดือน ปรับขึ้น 0.10%  ต่อปี

 

ในส่วนของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ธ.ก.ส. ยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ไว้ที่ร้อยละ 6.975 ต่อปี ต่อไป เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรลูกค้า และสนับสนุนการฟื้นตัวจากผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและโรคระบาดที่เกิดขึ้น โดย ธ.ก.ส. ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉพาะอัตราดอกเบี้ยลูกค้าสถาบันและนิติบุคคลชั้นดี (MLR)  0.250%ต่อปี จาก 5.625% เป็น 5.875% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR)  0.250% ต่อปี จาก 6.875% เป็น 7.125% ต่อปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป 

 

อย่างไรก็ตาม แม้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย บางประเภทตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาด แต่ ธ.ก.ส. ยังคงให้ความสำคัญกับการฟื้นตัวและสร้างความเข้มแข็งให้กับลูกค้าในภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มการปรับตัวดีขึ้นจากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน โดยการสนับสนุนเงินทุนผ่านสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเสริมสภาพคล่องในการใช้จ่ายและการลงทุน เช่น สินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย อัตราดอกเบี้ย 0.01%  สินเชื่อ SME เสริมแกร่ง และสินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ อัตราดอกเบี้ย 4%  เป็นต้น พร้อมดูแลภาระหนี้สินเกษตรกรลูกค้า ทั้งหนี้ในและนอกระบบผ่านโครงการมีหนี้นอกบอก ธ.ก.ส. ควบคู่กับการให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการหนี้ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เพื่อให้ลูกค้าสามารถยืนได้อย่างมั่นคงและสามารถก้าวข้ามกับดักหนี้ได้อย่างยั่งยืน

Thailand Web Stat