posttoday

8 เดือนแรก ปี66 ต่างชาติขนเงินลงทุนไทยแตะ 6.6 หมื่นล้าน

20 กันยายน 2566

พาณิชย์ เผย 8 เดือนแรก ปี 66 ต่างชาติลงทุนไทยกว่า 6.57 หมื่นล้านบาท ญี่ปุ่นยังครองแชมป์อันดับ 1 กว่า 2.19 หมื่นล้านบาท

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ช่วง 8 เดือนของปี 2566 (มกราคม - สิงหาคม) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จำนวน 435 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 145 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 290 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 65,790 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 4,491 คน โดยชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 99 ราย  23% เงินลงทุน 21,981 ล้านบาท สิงคโปร์ 72 ราย  17% เงินลงทุน 13,995 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 71 ราย 16% เงินลงทุน 3,070 ล้านบาท จีน 31 ราย  7% เงินลงทุน 11,851 ล้านบาท และฮ่องกง 19 ราย 4% เงินลงทุน 5,359 ล้านบาท 
 

รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมแรงดันหลุมขุดเจาะปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับการอัดฉีดซีเมนต์ในหลุมแท่นขุดเจาะปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนดำเนินการขุดสถานีใต้ดิน องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในโครงการรถไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม และองค์ความรู้เกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหาในการใช้งานยางล้ออากาศยาน เป็นต้น 
 

8 เดือนแรก ปี66 ต่างชาติขนเงินลงทุนไทยแตะ 6.6 หมื่นล้าน

 

เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2565 พบว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 54 ราย คิดเป็น 14% (เดือน ม.ค. - ส.ค.2566 อนุญาต 435 ราย / เดือน ม.ค. - ส.ค.2565 อนุญาต 381 ราย) มูลค่าการลงทุนลดลง 17,492 ล้านบาท คิดเป็น 21% (เดือน ม.ค. - ส.ค.2566 ลงทุน 65,790 ล้านบาท / เดือน ม.ค. - ส.ค.2565 ลงทุน 83,282 ล้านบาท) และจ้างงานคนไทยเพิ่มขึ้น 729 ราย คิดเป็น 19% (เดือน ม.ค.- ส.ค.2566 จ้างงาน 4,491 คน / เดือน ม.ค. - ส.ค.2565 จ้างงาน 3,762 คน) โดยจำนวนนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนสูงสุดยังคงเป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่น เช่นเดียวกับปี 2565
  

ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเดือนมกราคม - สิงหาคม 2566 ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ นโยบายการส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อาทิ 

  •  บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย
  •  บริการบำรุงรักษาหลุมขุดเจาะปิโตรเลียมบนชายฝั่ง
  •  บริการออกแบบ จัดซื้อ จัดหา ติดตั้ง ปรับปรุง พัฒนา ทดลองระบบ เชื่อมระบบ และการเปิดใช้งาน ตลอดจนการ   บริหารจัดการสำหรับโครงการรถไฟฟ้า
  • บริการก่อสร้าง รวมทั้ง ติดตั้งและทดสอบเกี่ยวกับการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีควบคุมก๊าซธรรมชาติและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับโครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบก
  • บริการออกแบบ จัดหา ติดตั้ง ตรวจสอบ ทดสอบ และบำรุงรักษา เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์และสำหรับที่ใช้ในสถานพยาบาล
  • บริการซอฟต์แวร์ ประเภท ENTERPRISE SOFTWARE และ DIGITAL CONTENT
  • บริการเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งให้บริการแก่กิจการของวิสาหกิจในเครือในต่างประเทศ

 

การลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ เดือนมกราคม - สิงหาคม 2566 มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC 86 ราย คิดเป็นร้อยละ 20 ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด โดยมีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC 14,283 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 22 ของเงินลงทุนทั้งหมด เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น 37 ราย ลงทุน 6,216 ล้านบาท จีน 13 ราย ลงทุน 1,053 ล้านบาท ฮ่องกง 6 ราย ลงทุน 4,046 ล้านบาท และประเทศอื่นๆ 30 ราย ลงทุน 2,968 ล้านบาท โดยธุรกิจที่ลงทุน อาทิ 

 

1. บริการให้คำปรึกษาแนะนำด้านการบริหารจัดการกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ 

2. บริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การเลือกใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์การวางแผนติดตั้งและทดสอบการทำงานของเครื่องจักร วางแผนประเมินความเสี่ยงและความปลอดภัยในการทำงานสำหรับการใช้เครนหรือเครื่องจักรในการเคลื่อนย้ายสินค้า เป็นต้น 

3. บริการรับจ้างผลิตเครื่องจักร และชิ้นส่วนของเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรม 

4. บริการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะ 

5.บริการออกแบบแม่พิมพ์โลหะสำหรับผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
  

เฉพาะเดือนสิงหาคม 2566 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจในประเทศไทย 58 ราย เป็นการลงทุนผ่านการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 23 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 35 ราย เงินลงทุนทั้งสิ้น 6,840 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 897 คน ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ และฮ่องกง รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมแรงดันหลุมเจาะปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับการใช้สลิงและอุปกรณ์ช่วยยกในงานขุดเจาะ และองค์ความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนและกระบวนการผสมผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม องค์ความรู้เกี่ยวกับข้อกำหนดระบบการวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุมในการผลิตอาหาร (HACCP) เป็นต้น 


  
 ธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่  

  •  การผลิตแป้งจากข้าวเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิตขนมข้าวอบกรอบ (RICE CRACKERS) 
  •  บริการขุดเจาะหลุมปิโตรเลียมภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย 
  •  บริการรับจ้างผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประเภทผลิตภัณฑ์ไดโอดเปล่งแสง (LED Assembly)
  •  บริการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อให้บริการดิจิทัล ซึ่งเป็นการพัฒนาปรับปรุงแพลตฟอร์มกลางเชื่อมต่อระหว่างร้านค้าออนไลน์ และผู้ให้บริการคลังสินค้าและขนส่งสินค้า
  •  บริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น ให้บริการทางเทคนิคเกี่ยวกับวิธีการการใช้งานเครื่องจักร อุปกรณ์ และเครื่องมือที่ใช้ในงานอุตสาหกรรมต่างๆ ตามหลักการวิศวกรรมควบคุมดูแลการใช้งาน สังเกตการณ์ และตรวจสอบความปลอดภัย ดำเนินการตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของการใช้งานของเครื่องจักร อุปกรณ์ และเครื่องมือต่างๆ เป็นต้น
Thailand Web Stat