เศรษฐา ปัดแจงที่มางบ "แจกเงินดิจิทัล" ชี้รอตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนก่อน
เศรษฐา เผยรอตั้งคณะกรรมการ ขับเคลื่อนเงินดิจิทัลวอลเล็ตก่อนตอบที่มาแหล่งเงิน ย้ำไม่ต้องห่วงทุกอย่างดำเนินการตามกรอบกม. ด้าน จุลพันธ์ เผยเตรียมชงครม.เคาะตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน ทั้งชุดใหญ่ และชุดเล็กภาย สัปดาห์หน้า หลังครม.เห็นชอบแล้ว จะเรียกประชุมนัดแรกทันที
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงกระแสข่าว รัฐบาลจะกู้เงินจากธนาคารออมสิน เพื่อมาใช้ในนโยบายดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ว่า เรื่องนี้ยังไม่ถึงเวลา แต่หากมีความพร้อมและชัดเจนแล้วจะแถลงอย่างเป็นทางการ โดย ยืนยันว่า ทุกอย่างยังเป็นไปตามกรอบกฎหมาย และตามที่เคยพูดไว้ พร้อมย้ำว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องที่มาที่ไปของเงิน และหลักการ ที่พยายามทำให้ดีอยู่ ทั้งเรื่องของรัศมีการใช้เงินในพื้นที่ห่างไกล
"หลังจากนี้หากจะแถลงอะไรขอให้มีความชัดเจนทุกอย่างก่อน หากพูดไปอย่างหนึ่งแล้วติดอีกอย่างหนึ่งจะไม่ดี ขอให้รอคณะกรรมการชุดใหญ่มาดำเนินการให้เป็นรูปธรรมก่อน โดยจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้" นายเศรษฐากล่าว
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกล และวิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ออกมาโจมตีว่า จะเป็นการทุบกระปุกออมสินของเด็ก นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เดี๋ยวจะชี้แจงให้ทราบ
ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า โครงการดิจทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจโคงการใหญ่ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบองคาพยบ ดังนั้นการพิจารณาต้องรอบครอบ รอบด้าน รายละเอียดของโครงการต้องเสนอไปไปยังรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมนตรีที่เกี่ยวข้อง ปลัดกระทรวง กฤษฎีกา ธปท. สศช. เพื่อรับฟังความคิดเห็นก่อนสรุป
ทั้งนี้ ในการประชุมครม.สัปดาห์ กระทรวงการคลังจะนำเสนอ แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งคณะกรรมการมีความครอบคลุม ตั้งแต่ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สถาบันการเงินของรัฐ สมาคมธนาคารไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งมีการตั้งคณะอนุกรรมการดิจิทัล เพื่อการขับเคลื่อนประเด็นต่างๆด้วย หลังจากที่วันนี้ยังไม่ได้นำเรื่องเข้าสู้การพิจารณาของครม.
“หากการตั้งคณะกรรมการผ่านครม.แล้ว จะมีการเรียกประชุมแมทแรกโดยเร็ว ซึ่งเรายังมีความตั้งเป้าไปสู่เป้าหมายที่ท่านนายกฯได้บอกไว้ คือ คิกออฟโครงการภายใน 1 ก.พ.66 เรทสุดไม่เกินไตรมาสแรกของปี 2567 หลังจากนั้น” นายจุพันธ์ กล่าว