กสทช.เร่งสร้างระบบเตือนภัยฉุกเฉิน เชื่อมต่อศูนย์บัญชาการกลางของภาครัฐ

05 มีนาคม 2567

ด้วยระบบ Cell Broadcast Service เตือนภัยผ่านมือถือ เจาะจงเฉพาะพื้นที่เกิดเหตุด่วนเหตุร้ายได้ทันที พร้อมเชื่อมต่อกับศูนย์บัญชาการกลางของภาครัฐ หวังสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว หลังเกิดเหตุการณ์รุนแรง กราดยิง และภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายครั้ง

ศาสตราจารย์คลินิก นพ. สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาประเทศไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และเหตุการณ์รุนแรงไม่คาดคิด เช่น เหตุกราดยิงในห้างสรรพสินค้า ซึ่งส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างมาก กสทช. ในฐานะหน่วยงานกำกับกิจการโทรคมนาคม จึงทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายอย่างต่อเนื่อง ในการพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยจากภาครัฐแบบเจาะจงพื้นที่ (Cell Broadcast Service) โดยได้รับการสนับสนุนจาก กองทุนบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (USO) 

มั่นใจว่าภายในปีนี้จะสามารถเปิดใช้งานระบบได้ ขณะนี้เรื่องอยู่ที่นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้หารือและตัดสินว่าจะให้หน่ยงานใด ทำหน้าที่ศูนย์บัญชาการสั่งการเตือนภัย  จะเป็นกระทรวงดีอี กระทรวงมหาดไทย หรือสำนักนายกรัฐมนตรี คาดว่าภายใน 3 เดือนต่อจากนี้ จะมีความชัดเจนในเรื่องนี้ รวมถึงการแจ้งเตือนภัยต้องมีกี่ภาษา เพื่อใช้สำหรับนักท่องเที่ยวประเทศ ต่างๆในไทยด้วย  

ทั้งนี้ ระบบแจ้งเตือนภัยแบบเจาะจงพื้นที่ดังกล่าว จะเป็นการส่งข้อความเตือนภัยแบบส่งตรงจากเสาส่งสัญญาณสื่อสารในพื้นที่ ไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกเครื่องในบริเวณนั้น แตกต่างจากระบบ SMS ทั่วไป เพราะไม่จำเป็นต้องใช้หมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งจะทำให้การสื่อสารข้อมูลเตือนภัยทำได้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และครอบคลุมทั้งพื้นที่เกิดเหตุ โดยประชาชนไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันใดๆ

กสทช.เร่งสร้างระบบเตือนภัยฉุกเฉิน เชื่อมต่อศูนย์บัญชาการกลางของภาครัฐ

การทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast Service ซึ่ง กสทช.เริ่มต้นกับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ  AIS ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และพร้อมที่จะเชื่อมต่อกับศูนย์บัญชาการกลางของภาครัฐ (Command Center) เพื่อเป็นเครื่องมือหรือช่องทางในการเตือนภัยได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ทำให้ประเทศไทยมีระบบเตือนภัยได้มาตรฐานสากลสร้างความอุ่นใจให้แก่ประชาชน ส่งผลต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และความปลอดภัยทางสังคมให้กับประเทศต่อไป

ขณะที่นายพชร นริพทะพันธุ์ ที่ปรึกษาประจำประธาน กสทช. ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำประธาน กสทช. ด้านเทคโนโลยี พัฒนาธุรกิจ และนโยบายภาครัฐ กล่าวว่า สำหรับงบประมาณนั้น จะมีการนำเรื่องเสนอ บอร์ด กสทช. เพื่อพิจารณา โดยในเบื้องต้นในส่วนของผู้ให้บริการมือถือ(โอปอเรเตอร์) คาดว่าจะใช้งบประมาณรายละ 400 ล้านบาท ในระยะ 3 ปี โดยจะนำงบดังกล่าวมาหักค่าใช้จ่ายตามจริงกับเงินที่ต้องนำส่งกองทุนยูโซ่ หลังจากปีที่ 3 เอกชนจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง  ส่วนระบบศูนย์สั่งการ คาดว่าจะใช้งบประมาณ 400 ล้านบาท โดยภาครัฐเสนอขอสนับสนุนจากกสทช. โดยต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมบอร์ดเพื่อพิจารณา  อย่างไรก็ตาม การตั้งศูนย์สั่งการ คาดว่าจะต้องมีการออกกฎหมายมารองรับ ซึ่งหากออกเป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีจะสามารถทำได้เร็วกว่าการให้ กระทรวงออกเป็น พรก.

ด้าน นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ได้ร่วมทำงานกับ กสทช. และภาครัฐ ในการเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับระบบเตือนภัยของประเทศตามมาตรฐานสากล นั่นคือ  เทคโนโลยี Cell Broadcast Service หรือ ระบบสื่อสารข้อความตรงไปที่โทรศัพท์เคลื่อนที่ของประชาชน ซึ่งระบบนี้มีความเหมาะสมกับการนำมาใช้เพื่อแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน เนื่องจากสามารถส่งข้อความไปยังโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องที่อยู่ในพื้นที่ครอบคลุมของสถานีฐานบริเวณนั้น ๆ ในเวลาเดียวกัน  ด้วยรูปแบบของการแสดงข้อความที่หน้าจอโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Pop UP Notification) แบบ Near Real Time Triggering เพื่อให้สามารถรับรู้สถานการณ์ได้ทันที  โดยล่าสุดได้ทดลอง ทดสอบเทคโนโลยีดังกล่าว ได้ผลตามเป้าหมายที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว และพร้อมที่จะขยายผลเชื่อมโยงกับระบบเตือนภัยของประเทศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพต่อไป

กสทช.เร่งสร้างระบบเตือนภัยฉุกเฉิน เชื่อมต่อศูนย์บัญชาการกลางของภาครัฐ

สำหรับโครงสร้างของการนำเทคโนโลยี Cell Broadcast Service มาใช้งานนั้น แบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งที่ 1 : ดำเนินการและดูแล โดย ศูนย์บัญชาการกลางของภาครัฐ ผ่านระบบ Cell Broadcast Entities (CBE) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการกำหนดเนื้อหาและพื้นที่ในการจัดส่งข้อความ ประกอบไปด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ อาทิ การบริหารจัดการระบบ (Administrator), การจัดการข้อความที่จะสื่อสาร (Message Creator ) และ การอนุมัติยืนยันความถูกต้อง (Approver) 

ฝั่งที่ 2 : ดำเนินการและดูแล โดย ผู้ให้บริการโครงข่าย ผ่านระบบ Cell Broadcast Center (CBC) ซึ่งเป็นระบบที่ทำหน้าที่นำเนื้อหาข้อความ ไปจัดส่งในสถานีฐานตามพื้นที่ที่กำหนดได้อย่างถูกต้อง โดยจะประกอบไปด้วย การบริหารระบบและการตั้งค่า (System & Configuration), การส่งต่อข้อความสื่อสารที่ได้รับมาผ่านโครงข่าย (Message Deployment Function) และ การบริหารโครงข่ายสื่อสาร (Network Management)    

Thailand Web Stat