posttoday

บอร์ดการเงินการคลัง เห็นชอบ กู้ขาดดุลเพิ่ม 1.12 แสนล้าน แจกดิจิทัลวอลเล็ต

27 พฤษภาคม 2567

นายกฯ นั่งประธานบอร์ดนโยบายการเงินการคลัง เห็นชอบกรอบงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท แบ่งเป็นกู้ขาดดุล 1.12 แสนล้าน และจัดเก็บรายได้เพิ่ม 1 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในโครงการ Digital Wallet เตรียมเสนอ ครม.พรุ่งนี้


นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ครั้งที่ 3/2567 ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบปรับกรอบแผนการคลังระยะปานกลาง โดยอนุมัติกรอบงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท แบ่งออกเป็น การกู้ชดเชยขาดดุลงบประมาณปี 67 วงเงิน 1.12 แสนล้านบาท และ การจัดเก็บรายได้เพิ่มเติม วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท โดยจะนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ค.67)


นายเฉลิมพลกล่าวว่า การอนุมัติกรอบกู้ชดเชยขาดดุลขาดดุลงบประมาณปี 67 วงเงิน 1.12  แสนล้านบาทจะส่งผลให้กรอบการขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น 0.14 % ซึ่งจะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นเป็น 68 % แต่ไม่เกินกรอบวินัยการเงินการคลังที่กำหนดเพดานหนี้สาธารณะไว้ที่ 70 % ต่อจีดีพี 
 

ทั้งนี้ กรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมทั้งหมด 1.22 แสนล้านบาท รัฐบาลระบุว่า เพื่อจะนำไปใช้เป็นในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ในส่วนของการบริหารจัดการงบประมาณรายจ่ายปี 2567 วงเงิน 1.7 แสนล้านบาท  

 

ซึ่งการอนุมัติกรอบกู้ชดเชยขาดดุลขาดดุลงบประมาณปี 2567 วงเงิน 1.12  แสนล้านบาทจะส่งผลให้กรอบการขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น 0.14 % ซึ่งจะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นเป็น 68% แต่ไม่เกินกรอบวินัยการเงินการคลังที่กำหนดเพดานหนี้สาธารณะไว้ที่ 70 % ต่อจีดีพี