คลังแย้ม มีความเป็นไปได้ แจกเงินดิจิทัล วอลเล็ตเฟส2 เหลือแค่ 5,000 บาท
จุลพันธ์ ยันเดินหน้าแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ตเฟส 2 ยอมรับมีโอกาสลดวงเงินเหลือ 5,000 บาทต่อคน ประเมินเหลือเพียง 26 ลานคน เล็งนำงบประมาณใช้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในจุดที่ยังอ่อนแอ สร้างความเข้มแข็งในระบบเศรษฐกิจ ประเมินแจกเงินกลุ่มเปราะบางดันจีดีพีเพิ่ม 0.35%
นายจุลพันธ์ อมรวิฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยถึงการแจกเงินในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต (เฟด2) ว่า ยอมมีความเป็นไปได้ว่า การแจกเงินในเฟส2 ให้กับกลุ่มคนทั่วไปจะเหลือเพียง 5,000 บาทต่อคน เนื่องจากรัฐบาลพิจารณาถึงความจำเป็นในการใช้งบประมาณในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานประเทศในจุดที่ยังมีความอ่อน และเร่งด่วนก่อน เพื่อสร้างความเข็มแข็งในระบบเศรษฐกิจไทยตามที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลังเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้
“ยืนยันว่าเฟสที่2 ได้เงินแน่นอน ยังไงก็เดินหน้าต่อในรูปแบบดิจิทัล วอลเล็ต เพราะจะได้ประโยชน์ใน 2 มิติ คือ เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และdigital literacy ส่วนจะแจกเมื่อไหร และจำนวนเท่าใด ขณะนี้ขอดูความเหมาะสม เพราะรัฐบาลมองว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจมันมีหลายมิติ เราไม่ได้ดูเพียงมาตรการการเติมเงินอย่างเดียว แต่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญการกระตุ้นด้านอื่นๆด้วย ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า งบประมาณที่แจกในเฟส 2 อาจลดเหลือ 5,000 บาต่อคน และคาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิเพียง 26 ล้านคน ซึ่งประเมินจากการหักลบ จากความซ้ำซ้อน และผู้ไม่ผ่านเกณฑ์ ”นายจุลพันธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า การแจกเงินหมื่นให้กับเฟสแรก มีส่วนช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) เพิ่มขึ้น 0.35% เป็นอย่างน้อย โดยเชื่อว่าหลังโอนเงินเฟสแรกแล้วเสร็จจะการจับจ่ายใช้สอยคึกคัก และขยายตัวเพิ่มขึ้นในปลายไตรมาส3 ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเศรษฐกิจไทย ควรมีศักยภาพในการเติบโตได้ถึง 5%ต่อปี แต่ยอมรับว่าง่าย ต้องใช้เวลา ไม่ดังนั้นรัฐบาลจึงจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง นอกเหนือจากการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ซึ่งในระยะต่อไปรัฐบาลจะเดินหน้าปรับโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจ ยกระดับขีดความสามารถฝีมือแรงงานไทย
นอกจากนี้ นายจุลพันธ์ ยังกล่าวถึง กระแสข่าวเท็จในโซเชียลว่า การโอนเงิน10,000 บาท ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต เมื่อคืนวันที่ 25 ก.ย.2567 ที่ผ่านมา ผู้ได้รับสิทธิ ซึ่งเป็นลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.ได้ถูกหักเงินออกไปเพื่อชำระหนี้นั้น ไม่เป็นความจริง โดยยืนยันว่า รัฐบาลหรือธ.ก.ส.ไม่ได้มีนโยบายดังกล่าว โดยขณะนี้ให้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าไปตรวจสอบเคสดังกล่าว
"อยากขอให้กระจายข่าวว่า เป็นข่าวที่ทำให้มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการโอนเงินและการหักหนี้เก่าลูกค้าธ.ก.ส.เพราะว่ารัฐบาลมีนโยบายชัดเจนว่าเงินที่แจกเพื่อต้องการให้ลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจ ไปใช้จ่ายเท่านั้น" นายจุลพันธ์ กล่าว
ด้านธ.ก.ส.ล่าสุด ได้ออกประกาศว่า ธ.ก.ส.ไม่มีนโยบายหักชำระหนี้ หรือเรียกเก็บเงินค่าบริการอื่นใดทั้งสิ้น โดยการโอนเงินวันแรกเข้ากลุ่มพิการ และผู้ถือบัตรสวัสดิการ 1.6 ล้านรายการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว