AIS หนุนไทยเร่งลงทุนดาต้า เซ็นเตอร์ นำ AI มาใช้ เพิ่มศักยภาพแข่งขันประเทศ
AIS หนุนไทยลงทุนดาต้า เซ็นเตอร์ ให้เร็วและมากขึ้น รองรับการลงทุน ช่วยเพิ่มศักยภาพแข่งขันประเทศ พร้อมนำ AI ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจ ชู Business Friendly และ Data Residency ร่วมกันในอาเซียน
นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS เปิดเผยในงาน ASEAN Economic Outlook 2025: The Rise of ASEAN, A Renewing Opportunity ซึ่งจัดขึ้นโดย กรุงเทพธุรกิจ ในหัวข้อ “Development & Future of AI & Data Centers in ASEAN” ว่า บทบาทของ Data Center เปรียบเสมือนสมองของมนุษย์ โดยประเทศที่มีศักยภาพในการประมวลผลที่สูงก็จะมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น
ทั้งนี้ การลงทุนใน Data Center ที่มากขึ้น เปรียบเสมือนการขยายที่ใส่มันสมองให้กับประเทศ ซึ่ง Data Center ในไทย มีบริษัทยักษ์ใหญ่จากทั่วโลก อย่างน้อย 2-3 ราย ที่เข้ามาลงทุน รวมถึงบริษัทในประเทศไทยด้วย ซึ่ง AIS ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงทุน Data Center เพื่อรองรับศักยภาพการประมวลผล
“เราขยาย Data Center เท่ากับเราเพิ่มที่ที่จะใส่สมองในการประมวลผลของประเทศ เก็บ Data ของประเทศนำไปประมวลผลและพร้อมใช้งานตลอดเวลา ยิ่งขยายยิ่งเพิ่มศักยภาพ” นายปรัธนา กล่าว
ขณะที่ AI ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมภาคการบริการ ซึ่ง AIS ก็อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ โดย AIS ได้ใช้ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนพลังงานได้ 15% นอกจากนี้ AI ยังช่วยเพิ่มรายได้ โดยนำ AI มาประมวลผล และสร้างสินค้า นำเสนอลูกค้าให้ตรงตามความต้องการ
2.อุตสาหกรรมการศึกษา โดย AI จะมาเป็นส่วนสำคัญในการทรานฟอร์มอุตสาหกรรมนี้ AI จะเป็นเหมือนผู้ช่วยอัจฉริยะที่จะช่วยทำให้ครูมีศักยภาพความสามารถที่สูงเหมือนกันทั่วประเทศ หรือเป็นเครื่องมือในการช่วยสอน ที่ประมวลผลจากทั่วโลกโดยไม่จำกัดศักยภาพในด้านภาษามาเป็นเครื่องมือหลักในการส่งเสริมการสอน
3.อุตสาหกรรมภาคการผลิต มีการนำ AI มาประยุกต์ใช้ โดยการนำข้อมูลมาประมวลผล เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในการผลิตได้มากขึ้น ยกระดับไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและกระจายสินค้าบริการของอาเซียน
นายปรัธนา กล่าวว่า นโยบายที่อาเซียนควรมีร่วมกัน เพื่อดึงดูดบริษัทไอทีระดับโลกเกี่ยวกับ Cloud, Data Center และ AI เข้ามามากขึ้น มองว่าจุดสำคัญ คือ Business Friendly เพื่อเปิดกว้างให้ทุกประเทศเข้ามา และ Data Residency คือ การที่แต่ละประเทศจำเป็นจะต้องเก็บดาต้าสำคัญไว้ในประเทศ ซึ่งถือเป็นเรื่องของความมั่นคง
“ไทยจำเป็นต้องมี Data Center ให้มากและเร็วกว่านี้ เพื่อรองรับการลงทุนที่จะเข้ามา ถ้าทำได้เร็ว เชื่อว่าน่าจะมีศักยภาพได้สูงกว่านี้” นายปรัธนา กล่าว