คลัง เร่งเก็บภาษีบุหรี่อัตราเดียว หวังคุมสินค้าเถื่อน-หนุนรายได้เข้ารัฐเพิ่ม5%
เผ่าภูมิ รมช.คลัง เร่งสรรพสามิตรื้อโครงสร้างภาษีบุหรี่เหลืออัตราเดียว หวังลดการบิดเบือนกลไกลตลาด แก้ปมสินค้าเถื่อน ประเมินช่วยจัดเก็บรายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้น 5%
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้กรมสรรพสามิตไปเร่งพิจารณาเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสีย ผลกระทบกับเกษตรกรผู้ปลูกใบยา และผลกระทบต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การจัดเก็บภาษีบุหรี่แบบอัตราเดียว (Singler Rate) ซึ่งขณะนี้กรมฯ อยู่ระหว่างเร่งพิจารณารายละเอียดทั้งหมด โดยเบื้องต้นอยากให้ได้ข้อสรุปเร็วที่สุด แต่คาดว่าน่าจะไม่ทันปลายปีนี้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจะพบปัญหาจากการจัดเก็บภาษีบุหรี่แบบหลายอัตรา ซึ่งทำให้เกิดการบิดเบือนกลไกตลาด เกิดช่องว่างของราคาขายปลีก จากอัตราภาษีที่แตกต่างกัน ส่งผลให้มีปัญหาเรื่องราคาขายปลีกบุหรี่หลบไปอยู่ในอัตราภาษีที่ต่ำกว่า ซึ่งมองว่าไม่เป็นผลดีกับอุตสาหกรรม
ภาษีบุหรี่แบบอัตราเดียว มีข้อดีคือไม่บิดเบือนกลไกตลาด และสะท้อนเรื่องการจัดเก็บภาษีให้เป็นปกติมากขึ้น ขณะที่การใช้อัตราภาษีบุหรี่แบบหลายอัตรานั้น จะเกิดปัญหาเรื่องการกองของราคาขายปลีก เช่น เมื่อกำหนดอัตราภาษีที่ 60 บาท ราคาก็จะไปกองที่ 60 บาทหมด หรือเมื่อขยับภาษีเป็น 72 บาท ราคาก็จะขยับมากองที่ 72 บาท ส่วนราคาบุหรี่ตั้งแต่ 72-95 บาทก็จะหายไปหมด ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อตลาด แต่ภาษีบุหรี่แบบหลายอัตราก็ไม่ได้มีแต่ข้อเสียอย่างเดียว ดังนั้นกรมสรรพสามิตที่ต้องไปเร่งพิจารณา โดยต้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ เบื้องต้นมีการประเมินว่าหากมีการจัดเก็บภาษีบุหรี่แบบอัตราเดียว น่าจะมีส่วนช่วยให้การจัดเก็บภาษีบุหรี่ของกรมสรรพสามิตเพิ่มขึ้นได้ราว 5% แต่ยืนยันว่าเรื่องรายได้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะจุดประสงค์หลักของภาษีสรรพสามิ คือ การสนับสนุนภาคเศรษฐกิจ การสร้างความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำ และทำให้ประชาชนได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ตรงนี้สำคัญกว่าเรื่องตัวเลขรายได้ และประเด็นสำคัญที่น่ากังวลของการพิจารณาเรื่องนี้มากกว่ารายได้ คือ บุหรี่เถื่อน
ส่วนเรื่องการเก็บภาษีบุหรี่ไฟฟ้านั้น เรื่องนี้ต้องคุยในภาพใหญ่ เพราะเกี่ยวข้องกับหลายส่วน หลายกระทรวง แต่ในภาพที่เกี่ยวข้องกับกรมสรรพสามิตขณะนี้ คงพูดได้อย่างชัดเจนว่า บุหรี่ไฟฟ้ายังไม่ได้อยู่ในพิกัดภาษีที่กรมฯ จะสามารถจัดเก็บรายได้ได้