"อนุทิน" รับมอบสมุดปกขาว"หอการค้า" เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ-ขึ้นค่าแรงตามมติไตรภาคี
หอการค้าไทย ส่งมอบสมุดปกขาวเสนอรัฐบาล ดันเศรษฐกิจไทยเติบโตยั่งยืน อนุทิน ยันนโยบายขึ้นค่าแรงไม่แทรกแซงกรรมการไตรภาคี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบรางวัลผู้ว่าราชการจังหวัด"สำเภาทอง" ประจำปี 2567 และรับมอบสมุดปกขาว สรุปผลการจัดงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ที่จ.ชลบุรี จากนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
โดยประเด็นและข้อเสนอที่หอการการฯ โดยภาคเอกชนเสนอต่อภาครัฐ เพื่อพิจารณาแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ประกอบไปด้วยข้อเสนอเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน ได้แก่
1.การสร้างความเชื่อมั่นทั้งในและต่างประเทศ โดยรัฐบาลควรมีมาตรการลดภาระค่าครองชีพประชาชนและต้นทุนของผู้ประกอบการ การควบคุมราคาสินค้าพื้นฐานและบริการที่จำเป็น
2.สร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน SMEs แก้ไขปัญหาหนี้ ที่ประชาชนและ SMEs กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งหัวใจสำคัญของการแก้หนี้คือ รัฐบาลจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินการคลังควบคู่กัน พร้อมกับการกระจายรายได้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ
3.วางยุทธศาสตร์ประเทศเพื่อการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน เช่น การดึงดูดการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ , รักษามเมนตั้มภาคธุรกิจที่ไทยยังแข่งขันได้ ทั้งในด้าน Food, Tourism, Wellness และโอกาสการเป็นศูนย์กลางด้าน Logistics & Connectivity และ Education , เร่งดึงดูดอุตสาหกรรมใหม่ , เจรจากับเพื่อนบ้านเพื่อยกระดับจุดผ่านแดนทางการค้า เป็นต้น
รวมทั้ง รัฐบาลต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งการค้า การลงทุน การขับเคลื่อนธุรกิจสีเขียว โครงสร้างพื้นฐาน ยกระดับการแข่งขันของประเทศ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค
นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชนทำให้ประเทศพัฒนาไปอย่างก้าวไกล ซึ่งการสัมมนาในครั้งนี้เป็นการหารือและถกแถลงในการพัฒนาเศรษฐกิจไทยซึ่งใช้เวลา 3 วัน ต้องชื่นชมในความมุ่งมั่นของทุกคนในการเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยได้เติบโตพัฒนาไปอย่างก้าวหน้าและมีความต่อเนื่องและเพื่อให้ผู้บริหารภาครัฐในหลายๆระดับได้เห็นภาพ
การเชิญผู้บริหารของภาครัฐมาร่วมงานจะทำให้ผู้บริหารภาครัฐได้มีการซึมซับวิสัยทัศน์ของภาคเอกชนและใช้อำนาจหน้าที่ ในการอำนวยความสะดวกส่งเสริมสนับสนุนและเป็นเครื่องจักรที่จะช่วยให้ภาคเอกชนได้ร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองโดยมีภาครัฐคอยอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่
ยกตัวอย่างประเทศสิงคโปร์มีความสำเร็จกับโครงการสิงคโปร์ "Smart Nation" ซึ่งเป็นการสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ประกอบการในการใช้เทคโนโลยีทำให้ประเทศมีระบบบริการสาธารณะ ที่มีประสิทธิภาพมีคุณภาพ ดูแลประชาชนด้วยการใช้บริการสุขภาพออนไลน์ มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล หลายคนคงรู้ว่ารัฐบาลไทยก็กำลังขับเคลื่อนในเรื่องดิจิทัลอยู่เช่นกัน
รวมถึงการพัฒนาพลังงานสะอาดซึ่งเรารับทราบเป็นอย่างดีว่ากติกาโลกในยุคปัจจุบันเราจะต้องทำให้ผลิตภัณฑ์สินค้าของไทยได้รับการยอมรับจากกติกาใหม่ของโลก ซึ่งการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำจะต้องผลิตด้วยการปราศจากมลภาวะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาแต้มต่อจากการค้า
ภาครัฐพร้อมที่จะให้การสนับสนุนภาคเอกชนอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือในเรื่องของการบริหารการปกครอง และช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้ เป็นกลไกในการสนับสนุนอย่างเต็มที่เพราะถือว่ามีความจำเป็นในยุคที่ประเทศไทยต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจ มั่นใจว่าผู้ว่าราชการจังหวัดทุกท่านจะตระหนักถึงความสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สำคัญจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศมั่นคงอย่างยั่งยืนและยืนอยู่บนเวทีโลกได้อย่างภาคภูมิ หากเอกชนมีปัญหาสามารถแจ้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดได้โดยตรง
ส่วนนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ ที่ภาคเอกชนขอให้เป็นตามคณะกรรมการไตรภาคีนั้น ขอย้ำว่ารัฐบาล ไม่สามารถแทรกแซง การทำงานของ คณะกรรมการไตรภาคี ได้ แม้รัฐบาล จะมีนโยบายในการปรับขึ้นค่าแรงก็ตาม โดยรัฐบาลเคารพมติของคณะกรรมการไตรภาคีที่ออกมา