“คลัง” จ่อยกเลิก “สลากN3” หากผลประเมินชี้ กระทบตลาดN6-แก้ปมหวยใต้ดินไม่ได้

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้รับรายจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถึงสถานการณ์การจำหน่ายสลากตัวเลขสามหลัก(สลากN3) งวด 16 พ.ย.2568 พบว่า ยอดการจำหน่ายสลาก N3 ในงวดที่ 2 ซึ่งอยู่ในช่วงทดลองจำหน่ายแบบปิด (Sandbox) สามารถจำหน่ายได้ 1,338,335 ล้านฉบับ ซึ่งมีประมาณที่ลดลง 506,534 ใบ เมื่อเทียบกับงวดแรกที่มีจำหน่าย 1,898,869 ล้านใบ ส่งผลให้รางวัล สลากN3 งวดนี้มีจำนวนลดลงตาม นอกจากนี้ ยังพบว่า การสลากแบบดิจิทัล ผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” จำหน่ายไม่หมดเป็นครั้งแรก ส่งผลให้สลากดิจิทัลเหลือจำนวนมาก เช่นเดียวกับ สลากแบบใบ(์สลากN6) ที่จำหน่ายไม่หมดเช่นกัน

     ทั้งนี้ นายจุลพันธุ์ ระบุว่า อาจสะท้อนได้ 1.การจำหน่ายสลากN3 ที่ลดลง เป็นเพราะ รางวัลยังไม่จูงใจ หรือไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อ 2. เมื่อเทียบกับหวยใต้ดิน จะเห็นว่าหวยใต้ดินจะมีกลไกลที่จูงใจผู้ซื้อที่หลากหลายกว่า เช่น สามารถจ่ายเงินได้แบบงวดชนงวด หรือไปชำระเงินในงวดถัดไปได้ ขณะที่สลากN3 ไม่มี ดังนั้นต้องพิจารณาแล้วว่า สลากN3 สามารถแก้ไขปัญหาหวยใต้ดินได้หรือไม่ และ3.ปัญหาเศรษฐกิจ ที่ยังได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งมีผลต่อเงินในกระเป๋า จึงส่งผลกระทบกำลังซื้อให้ลดลงได้

 โจทย์ของสลากN3 ก็เพื่อสู้กับหวยใต้ดิน เราต้องการสร้างแรงจูงใจคนให้ซื้อหวยใต้ดิน หันมาซื้อสลากที่ถูกกฎหมาย ซึ่งยอดขายที่ลดลง ก็ได้มอบหมายให้สำนักงานสลากฯไปดู  สุดท้ายแล้วN3 สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้จริงมั้ย ขอเวลาอีกสัก 2-3 งวด เชื่อว่าจะเห็นภาพชัดมากขึ้นว่า ติดขัดจากอะไร เป็นที่นิยมหรือไม่ แต่ถ้าพบว่ามาตีตลาด มาแย่งกำลังซื้อของสลากแบบใบ และสลากดิจิทัล ก็ต้องพิจารณาว่าคุ้มค่าที่จะทำต่อหรือไม่ ถ้าพิจารณาแล้วไม่คุ้ม ก็มีโอกาสยกเลิกขายได้

     อย่างไรก็ตาม มองว่า ยอดจำหน่ายN3 ที่ลดลงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวแทนผู้ค้าสลากมากนัก เนื่องจากผู้ค้าสลาก N3 เป็นเพียงผู้ได้รับสิทธิไปจำหน่ายเท่านั้น เมื่อจำหน่ายไม่หมดสลากN3 ก็จะกลับคืนมาเข้าสู่ระบบ ส่วนในตระกร้าจำหน่ายได้เท่าไร ก็นำมาหารสัดส่วนลงไปในรางวัลต่างๆ ซึ่งต่างจากสลากแบบใบ ที่ผู้ค้าต้องชำระเงินค่าสลากแบบใบก่อนนำไปจำหน่าย