posttoday

กกพ.เดินหน้าซื้อพลังงานสีเขียว ไม่สน! คำสั่งพีระพันธุ์

17 ธันวาคม 2567

กกพ. ประกาศผลรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียน 2,145 เมกะวัตต์ เดินหน้าลงนามสัญญาภายใน 14-60 วัน แม้รองนายกฯ พีระพันธุ์ สั่งระงับโครงการชั่วคราว

KEY

POINTS

  • กกพ. ประกาศผลรับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียน 72 ราย 
  • เดินหน้าลงนามสัญญาใน 14-60 วัน
  • เมินคำสั่งรองนายกฯ พีระพันธุ์ 

จากกรณีที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มีหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้ระงับการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 (เพิ่มเติม) พ.ศ.2567 เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฏหมายเสร็จสิ้น นั้น 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2567 กกพ. ออกประกาศผลการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ปี2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ.2565 (เพิ่มเติม) พ.ศ.2567 แล้ว 72 รายรวมปริมาณพลังไฟฟ้าที่เสนอขายกว่า 2,145 เมกะวัตต์ เร่งลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ใน14 วัน สำหรับกลุ่มที่1 และภายใน 60 วันสำหรับกลุ่มที่2 

สำหรับผลการคัดเลือกผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมจำนวน 72 ราย ปริมาณพลังไฟฟ้าที่เสนอขายรวม2,145.4 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นพลังงานลม จำนวน 8 ราย รวม 565.40 เมกะวัตต์ กำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือSCOD ตั้งแต่ปี 2571-2573 และพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน จำนวน 64 ราย รวม1,580 เมกะวัตต์ กำหนด SCOD ตั้งแต่ 2569-2573

กลุ่มที่ 1 ให้การไฟฟ้าคู่สัญญาแจ้งให้ผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าทราบและยอมรับเงื่อนไขการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายใน 14 วันนับถัดจากวันที่ สำนักงานกกพ.ประกาศรายชื่อ และกลุ่มที่2 ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าที่มีรูปแบบการเชื่อมต่อสถานีไฟฟ้าเดียวกัน ตกลงรูปแบบการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายตามหลักการแบ่งปันสิ่งอำนวยความสะดวกร่วมกัน(Common Facilities Sharing) และยอมรับเงื่อนไขการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายใน 60 วัน นับถัดจากวันที่ประกาศผลการคัดเลือก

สำหรับโครงการดังกล่าว กกพ.กําหนดกรอบระยะเวลาและกระบวนการเพื่อประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ภายใต้ประกาศ กกพ. เรื่อง รับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed – in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สําหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 (เพิ่มเติม) ตามมติ กกพ. ในการประชุมครั้งที่ 41/2567 (ครั้งที่ 926) เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2567

ภายใต้ประกาศดังกล่าว กกพ. ได้กําหนดเงื่อนไขโดยจะให้สิทธิ์กับกลุ่มผู้ที่เคยยื่นข้อเสนอผลิตไฟฟ้าประเภทพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินภายใต้โครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงาน หมุนเวียนในรูปแบบ Feed – in Tariff (FiT) ปี 2565 – 2573 สําหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 จํานวน 198 ราย สําหรับ 2,180 เมกะวัตต์

กำหนดกระบวนการที่ 1. การไฟฟ้าออกประกาศกําหนดรายละเอียดการรับซื้อไฟฟ้า8 ต.ค. 2567 จากนั้น กระบวนการที่2. ผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้ายื่นขอเข้าร่วมการคัดเลือกกระบวนการที่ 3. การไฟฟ้าประกาศรายชื่อผู้ยื่นกระบวนการที่4. สํานักงาน กกพ. ประกาศรายชื่อผู้ยื่น กระบวนการที่5. การไฟฟ้าแจ้งให้ผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติม ที่ได้รับการคัดเลือกทราบและยอมรับเงื่อนไขการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และกระบวนการที่ 6.ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า

ก่อนหน้านี่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า โครงการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน รูปแบบ Feed-in Tariff จำนวนประมาณ 3,600 เมกะวัตต์ ที่กกพ. จะมีการเปิดประมูลนั้น เป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน จำนวนประมาณ 5,200 เมกะวัตต์

โครงการหลัง 3,600 เมกะวัตต์นี้ กกพ. จะแบ่งการรับซื้อหรือการประมูลออกเป็น 2 โครงการย่อย คือ โครงการรับซื้อไฟฟ้าขนาดประมาณ 2,100 เมกะวัตต์ และโครงการรับซื้อไฟฟ้าขนาดประมาณ 1,500 เมกะวัตต์ สำหรับโครงการรับซื้อ 2,100 เมกกะวัตต์ นั้น

ปัจจุบัน กกพ. กำหนดให้สิทธิ์ผู้ที่เคยเข้าประมูลในโครงการ 5,200 เมกะวัตต์ แต่ไม่ชนะการประมูลเป็นผู้มีสิทธิ์ยื่นประมูล แต่อยู่ในขั้นตอนเตรียมการยังไม่มีการประมูลเกิดขึ้น โดยตนและกระทรวงพลังงานไม่เห็นด้วยและเคยนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.)แล้ว แต่น่าจะเกิดความผิดพลาด จึงทำให้เกิดการกำหนดหลักเกณฑ์ที่ต่างไปจากนโยบาย ซึ่งตนได้สั่งการให้แก้ไขไปแล้วและกำลังจะมีการประชุม กบง. เพื่อแก้ไขในเรื่องนี้ 

อย่างไรก็ดี กกพ. ที่เป็นผู้ดำเนินการนั้นเป็นองค์กรอิสระกระทรวงพลังงานไม่มีอำนาจบังคับบัญชา กล่าวโดยง่ายคือไม่สามารถไปสั่งได้ แต่ก็ได้ใช้อำนาจตามที่มีอยู่โดยทำหนังสือทักท้วงพร้อมกับขอให้ทบทวนโครงการไปยัง กกพ. แล้วเป็นที่เรียบร้อย